รูดม่านมหาสงกรานต์ ปิดฉากเทศกาลแห่งความสุขปีใหม่ไทย
สาดน้ำชุ่มฉ่ำดับความร้อนได้ชั่วขณะ กลับสู่อุณหภูมิระอุเดือดห้วงเดือนเมษายน สภาพแบบที่คนบ่นสัพยอกร้อนเหมือนซ้อมตกนรก
แต่อากาศอบอ้าวก็ยังไม่เท่ากับเงินในกระเป๋าที่ร้อนกว่า
สถานการณ์ปากท้องของประชาชนคนชั้นกลางไปยันชาวบ้านร้านตลาดหาเช้ากินค่ำที่กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์หนักหนาสาหัส
ไม่ใช่แค่ “เผาจริง” แต่เอากันถึงขั้นรอเก็บเถ้ากระดูกลอยอังคาร
สภาพการณ์เศรษฐกิจไทยที่ปักหัวดิ่งเหวโงหัวไม่ขึ้น แล้วโดนซ้ำด้วย “สงครามโลก” ที่แปรมาในรูปแบบของ “สงครามการค้า” สมรภูมิรบพุ่งกันด้วยมาตรการตอบโต้ภาษีอย่างบ้าดีเดือด
ฤทธิ์ขีปนาวุธ “Trump tariffs” ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ปรากฏการณ์สั่นสะเทือนเลือนลั่นกันไปทั่วทั้งโลก แรงเขย่าหนักกว่าระเบิดปรมาณู อานุภาพหัวรบนิวเคลียร์ มูลค่าความเสียหายส่อหนักหนาสาหัสกว่าอาวุธมหาประลัยที่ถล่มกันในสงคราม
สภาพระเนระนาดไปตามๆกัน นานาชาติต้องวิ่งหาที่กำบังกันจ้าละหวั่น
แม้แต่ประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจสูงๆเป็นเบอร์ต้นๆของโลกอย่างสิงคโปร์ ล่าสุดรัฐบาลเมืองลอดช่องยังต้องตั้งทีมงานด่วนในการเตรียมรับมือ “ภาวะเศรษฐกิจถดถอย” ประเมินสถานการณ์ลบ ตั้งรับแบบสุดกระดาน
ไม่เสี่ยงเดิมพันวัดดวงกับลูกบ้าของ “คาวบอยทรัมป์”
และตัวอย่างสดๆร้อนๆรัฐบาลญี่ปุ่นที่เล่นบท
เสือปืนไว ส่งทีมเจรจากับผู้นำทำเนียบขาวเป็นคิวต้นๆ แต่ต้องผิดหวังกลับมา เพราะผลเจรจาไม่ลงตัว ข้อเสนอในการแลกเปลี่ยนให้ “คาวบอยทรัมป์” พอใจ ยังไม่ลงล็อกง่ายๆ
บ่งบอกเกมยื่นหมูยื่นแมวต้องต่อรองกันหลายยก ไม่ใช่รอบเดียวจบ
...
นั่นคือญี่ปุ่น อำนาจต่อรอง ถือไพ่บนมือแต้มเจ๋งพอเกทับทำเนียบขาวได้
หันมาที่รัฐบาลไทยที่ถือไพ่แต้มอ่อน “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มอบธงให้ “2 พระยาพิชัย” นำขบวนทีมไทยแลนด์โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง กับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ บินตรงไปสหรัฐฯ
ได้บัตรคิวเข้ายื่นหมูยื่นแมวกับทีมทรัมป์ วันที่ 23 เมษายนนี้
ตามรูปเกมที่ต้องเผื่อทำใจไว้ล่วงหน้า กับสถานะของประเทศไทยที่ถูกชาติตะวันตกผลักไปแนบแน่นกับจีนแผ่นดินใหญ่ มีปมแฝงในเชิงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ พ่วงเข้าไปในสถานะที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ 10 อันดับต้นๆ
“ทีมไทยแลนด์” คงจะไม่คลิกในรอบเดียวแน่ๆ
และนั่นก็จะอยู่ในภาวะอึมครึมต่อเนื่องอย่างน้อยก็ในห้วง 90 วันที่ “ทรัมป์” ยืดระยะให้หายใจ ตัวเลขภาษี 36 เปอร์เซ็นต์ที่ผู้นำคาวบอยตั้งด่านไถ ยังหลอนผู้ส่งออกจากประเทศ ไทยต่อไป
ในภาวะรอรับแรงกระแทกหนักปรมาณูภาษีสหรัฐฯ
นักลงทุนไร้ความเชื่อมั่น ขาดความมั่นใจในการปักหมุดลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แนวโน้มฉุดเศรษฐกิจไทยเข้าโซนชะลอตัว หรืออาจถึงจุดถดถอย ตัวเลขจีดีพีติดลบมากเท่าไหร่
สถานการณ์กดทับ แรงกดดันหนักๆก็ตกอยู่กับ “นายกฯ 2 พ่อลูก” เท่านั้น
สภาพ “อิ๊งค์” นายกฯในตำแหน่ง และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ต้องเจอกับโจทย์ยาก ซ้อนสมการโคตรยาก
สถานะหน้าตักร่อยหรอ “กระสุน” ถูกใช้ไปกับนโยบายอัดฉีดประชานิยม
อารมณ์แบบที่นายพิชัย ชุณหวชิร เชิญ “ดร.นก” นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ
ปิดห้องหารือเครียดที่ทำเนียบฯ ก่อนรีบเคลียร์ออกตัว ยืนยันจะไม่มีการแทรกแซงเงินบาท ไม่ใช้กองทุนสำรองระหว่างประเทศ
ไม่แตะต้องเงิน “คลังหลวง” ในการสู้ด่านไถภาษีของ “ผู้นำคาวบอย”
สภาพทางเลือกเหลือน้อยเต็มที เงื่อนไขสถานการณ์จ่อคอ “นายกฯ 2 พ่อลูก” ต้องแบกเดิมพันกู้เศรษฐกิจ
ปากท้อง ตามฟอร์มเก่งของยี่ห้อ “ทักษิณ” ที่เคลมตีกินเชิงบริหาร ฟื้นความกินดีอยู่ดี ในการแลกตั๋วโปรโมชัน “ดีลลังกาวี” ถือธงนำรัฐบาลผสมสูตรพิสดาร โหนขบวนอำนาจอนุรักษ์นิยม
แรงกระแทกสงครามการค้าโลก ประคองตัวไม่ให้ล้มก็เหนื่อยสาหัส
ไหนจะต้องผจญกับแรงปะทะเกมอำนาจการเมืองภายใน สงครามชิงเค้กอำนาจและผลประโยชน์ แนวรบพุ่งระหว่างเจ้าอาณาจักร “จันทร์ส่องหล้า” กับกองกำลังหัวหน้าเผ่า “เขากระโดง”
ชนวนแตกหัก “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พ่วงบ่อนกาสิโน”
จังหวะรัฐบาลผสมสูตรพิสดารกระเพื่อมหนัก เรือธงเพื่อไทยโดนสกัดหัวทิ่มหัวตำ สภาพที่ทำให้เห็นเลยว่า “นายกฯคนลูก” ไม่สามารถคุมเสียงข้างมากในสภาฯไว้ได้ จากปฏิบัติการเขย่าโดย “2 พ่อลูกชิดชอบ”
ตอบรับเสียงขู่ “นายกฯคนพ่อ” เขี่ยทิ้งพรรคร่วมรัฐบาลขวางกาสิโน
สไตล์เกรียนเซราะกราว ยั่วท้าทายเกมโต้สวนหมัด แม้ “นายใหญ่” จะข่มอารมณ์ กัดฟันตอบคำถามนักข่าวช่วงสงกรานต์ เข้าใจในความเป็นค่ายภูมิใจไทย ไม่มีปัญหา คุยกันได้
เหลี่ยมนิ่ง ฟอร์มข่มเกรียน 2 น. “เนวิน ชิดชอบ” กับ “อนุทิน ชาญวีรกูล”
แต่อีกทางก็จับอาการบรรดาลูกหาบเพื่อไทย
ไล่ตั้งแต่ระดับหัวแถวยันปลายแถว เรียงหน้าออกมาถล่ม “กุมารเขากระโดง” ด่านายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กระแทกชิ่งลูกชายไปถึงพ่อ
ไล่ให้ไปอบรมมารยาท ไม่เช่นนั้นก็ควรออกจากรัฐบาลไป
ในจังหวะตีคู่ไปกับปฏิบัติการไล่ทุบกลุ่มทุนค่ายน้ำเงิน ตัดแขน ตัดขา ทำลายท่อน้ำเลี้ยงภูมิใจไทย แบบที่มีการกดดันให้นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ไขก๊อกจากเก้าอี้บอสใหญ่การท่าอากาศยาน ที่ได้รับการแต่งตั้งมาในสมัยพรรคภูมิใจไทย คุมกระทรวงคมนาคม ยุครัฐบาลก่อน
ไล่บี้รื้อถอนนั่งร้าน เวนคืนเก้าอี้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจที่อิงแอบเกรียน 2 น.
กอดคอ ตบจูบ เลือดกบปาก เลอะเต็มหน้า สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยกับค่ายภูมิใจไทยที่เกาะเกี่ยวกันด้วยผลประโยชน์ภายใต้ขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม อยู่ในจุดเปราะบางเต็มที่
“กาวตราหนู” ที่ทำหน้าที่เชื่อมประสาน ชักเสื่อมคุณภาพ
เริ่มมีกระแสการนับตัวเลขรัฐบาล จัดสมการกันใหม่ โดยตัด 70 เสียงของก๊วนเซราะกราวออกไป ประเมินภาวะ “อิ๊งค์” ตีโป่ง เสียงปริ่มน้ำลากถูลู่ถูกังไปได้
พวกหวังชิ้นปลามัน ตีปี๊บเวนคืนโควตารัฐมนตรีของค่ายภูมิใจไทย มาจัดสรรปันส่วนกันในทีมลูกหาบเพื่อไทย
โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ขาใหญ่จ้องตา เป็นมัน
รอยปริแยกของทีมจันทร์ส่องหล้ากับค่ายเขากระโดงจากปมกาสิโนชัดเหมือนรอยเลื่อนแผ่นดินไหว
ตามสายตาของมวยอ่อนประสบการณ์สุด “กุมารเท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน มองพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยจำเป็นต้องกอดคอ “เพื่อนกิน” กันไปจนคำสุดท้าย
เว้นแต่ “นายกฯอิ๊งค์” ทนกล้ำกลืนไม่ไหว ยุบสภา ตัวใครตัวมัน
ในขณะที่มวยการเมืองเชี่ยวประสบการณ์ เขี้ยวขึ้นมาอีกขั้น ในมุมของ “เดอะทิม” นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล อ่านหมากทะลุ “นายใหญ่-ครูใหญ่”
ผ่านวาทกรรม “มันจบแล้วครับนาย” มาถึง “ไล่หนู ตีงูเห่า”
“พิธา” ฟันธง “ทักษิณ-เนวิน” แค่รอเวลาปะทุใหญ่ “วงแตก” ในไม่ช้า
และที่เก๋าเกม โคตรเซียนการเมืองรุ่นลายคราม ในสายตาของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มวยใหญ่ค่ายประชาชาติ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนช่วงวันหยุดสงกรานต์
ส่งสัญญาณให้แปลความ นักข่าวแกะรหัสกันหูผึ่ง อารมณ์ที่ประธานสภายอมรับปมสะดุด พ.ร.บ.เอน เตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทำให้พูดยาก พรรคร่วมรัฐบาลจะสถานะมั่นคงตลอดไป
เพราะเรื่องการเมืองต้องมีทั้งบนดิน ใต้ดิน และบนฟ้า
ปริศนาลึกล้ำเกินแกะรหัส แต่ชัดเจนว่า “วันนอร์” ไม่กล้าการันตีครบเทอม
ที่แน่ๆโดยตัวตนที่ไม่อาจแก้ไขได้ “ทักษิณ” ไม่ยอมใคร “เนวิน” ไม่ยอมคน
ณ จุดผลประโยชน์ขัดลำ หนีไม่พ้น นับถอยหลังทางใครทางมัน.
“ทีมการเมือง”
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม