หยุดจ่ายบัตรเครดิต ความเชื่อผิดๆ ทางการเงิน เปิด 5 ผลกระทบตามมา ที่อาจทำให้ชีวิตการเงินเรา “พัง” มากกว่าเดิม ดอกเบี้ยพุ่ง เสียเครดิต เสียสุขภาพจิต และโดนยึดทรัพย์
ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่เป็นใจ รายได้หาย แต่รายจ่ายยังคงเดิม หลายคนกำลังเผชิญกับภาระหนี้ที่หนักขึ้นทุกเดือน
หนึ่งใน “ทางเลือกสุดทาง” ที่บางคนคิดคือ“หยุดจ่ายบัตรเครดิต”
ด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าหยุดจ่ายไปนานพอ ธนาคารอาจจะยอมเจรจาและ ลดยอดหนี้ (Hair Cut) ให้ในภายหลัง หรือบางคนเลือกหยุดจ่าย เพื่อเก็บเงินก้อนเอาไว้ไปขอปิดหนี้ในราคาที่ต่ำลงทีเดียว ฟังดูเหมือนมีเหตุผล แต่ความจริงคือนี่คือทางที่อาจทำให้ชีวิตการเงิน "พัง" ยิ่งกว่าเดิม
ข้อมูลจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ชี้ว่า แนวคิดที่ว่า “หยุดจ่าย = ต่อรองได้มากขึ้น” เป็นความเชื่อที่มี “เคสน้อยมาก” ที่ได้ผล และส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการวางแผนอย่างรอบคอบ แต่เกิดจากความจนตรอกแบบไม่มีทางเลือก
แต่ถ้าเรา“ตั้งใจหยุดจ่าย” ด้วยความหวังว่าจะได้ข้อเสนอที่ดีกว่า ก็มีโอกาสผิดหวังมีสูงมากเช่นกัน เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารจะยอมเจรจา มีหลายอย่างตามมา จนอาจนำไปสู่ หายนะทางการเงินยิ่งกว่าเก่าด้วยซ้ำ
1. ดอกเบี้ยพุ่งแรงทุกวัน
บัตรเครดิตคิดดอกเบี้ยแบบ ทบต้นรายวัน สูงถึง 16-18% ต่อปีหยุดจ่ายแค่เดือนเดียว หนี้จะโตไวกว่าเงินที่เราพยายามเก็บเสียอีกจากยอดหมื่นเดียว อาจกลายเป็นแสนในเวลาไม่นาน
2. เครดิตเสียทันที
สถาบันการเงินจะรายงานสถานะของเราไปยัง เครดิตบูโร ทันทีเมื่อค้างชำระเกิน 90 วัน ชื่อของเราจะถูก “ตีตรา” ว่าเป็นลูกหนี้ผิดนัด และจะติดเครดิตเสียไปอีก 3 ปี แม้จะเคลียร์หนี้หมดแล้วก็ตาม ผลคือเราจะกู้ไม่ได้อีกเลยในช่วงนั้น ไม่ว่าบ้าน รถ หรือแม้แต่สินเชื่อส่วนบุคคล
3. ถูกทวงหนี้ทุกทาง
ตั้งแต่เบอร์มือถือจนถึงบ้าน พนักงานเร่งรัดหนี้จะโทรตามทุกวัน ส่งจดหมายทุกสัปดาห์หลายคนเสียสุขภาพจิต เสียงาน เสียเวลา และรู้สึกเหมือนโดนกดดันตลอดเวลา
4. เสี่ยงถูกฟ้องศาล
ถ้าค้างชำระนานเกิน 6 เดือนขึ้นไป ธนาคารมีสิทธิฟ้องเรียกเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม เราจะต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในกระบวนการศาล และหากไม่สามารถชำระตามคำตัดสินได้ ก็จะนำไปสู่ข้อสุดท้าย
5. ถูกอายัดเงินเดือน / บัญชีธนาคาร
เจ้าหนี้สามารถยื่นคำร้องให้อายัดเงินเดือนได้สูงสุดถึง 30% ของรายได้หรือหากเรามีเงินในบัญชี เงินนั้นก็อาจถูกอายัดเพื่อจ่ายหนี้เช่นกัน
ท้ายที่สุด จากที่เคยตั้งใจจะ “คุมเกม” กลายเป็นเสียอำนาจในการควบคุมการเงินไปทั้งหมด
ซึ่งเมื่อการหยุดจ่ายไม่ใช่คำตอบ แต่การ เจรจา “ก่อน” ค้างชำระ เป็นสิ่งที่ควรทำ ดังนี้
ทั้งหมด สรุปได้ว่า การหยุดจ่ายบัตรเครดิต ไม่ต่างจากการเปิดประตูให้ดอกเบี้ยพุ่งสูง ชื่อเสียงทางการเงินพัง และโอกาสในการฟื้นตัวแทบเป็นศูนย์นั่นเอง
ที่มา : ธนาคารซีไอเอ็มบี
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney