ทำไม? การหยุดจ่ายบัตรเครดิต  ถึงอาจทำให้ชีวิตการเงินเรา “พัง” มากกว่าเดิม

Personal Finance

Financial Planning

Tag

ทำไม? การหยุดจ่ายบัตรเครดิต  ถึงอาจทำให้ชีวิตการเงินเรา “พัง” มากกว่าเดิม

Date Time: 10 ก.ค. 2568 12:41 น.

Video

Starbucks ถึงยุคสิ้นมนต์ขลัง? | BrandStory EP.18

Summary

หยุดจ่ายบัตรเครดิต ความเชื่อผิดๆ ทางการเงิน เปิด 5 ผลกระทบตามมา ที่อาจทำให้ชีวิตการเงินเรา “พัง” มากกว่าเดิม ดอกเบี้ยพุ่ง เสียเครดิต เสียสุขภาพจิต และโดนยึดทรัพย์

Latest


ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่เป็นใจ รายได้หาย แต่รายจ่ายยังคงเดิม หลายคนกำลังเผชิญกับภาระหนี้ที่หนักขึ้นทุกเดือน

หนึ่งใน “ทางเลือกสุดทาง” ที่บางคนคิดคือ“หยุดจ่ายบัตรเครดิต”

ด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าหยุดจ่ายไปนานพอ ธนาคารอาจจะยอมเจรจาและ ลดยอดหนี้ (Hair Cut) ให้ในภายหลัง หรือบางคนเลือกหยุดจ่าย เพื่อเก็บเงินก้อนเอาไว้ไปขอปิดหนี้ในราคาที่ต่ำลงทีเดียว ฟังดูเหมือนมีเหตุผล แต่ความจริงคือนี่คือทางที่อาจทำให้ชีวิตการเงิน "พัง" ยิ่งกว่าเดิม

ข้อมูลจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ชี้ว่า แนวคิดที่ว่า “หยุดจ่าย = ต่อรองได้มากขึ้น” เป็นความเชื่อที่มี “เคสน้อยมาก” ที่ได้ผล และส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการวางแผนอย่างรอบคอบ แต่เกิดจากความจนตรอกแบบไม่มีทางเลือก

แต่ถ้าเรา“ตั้งใจหยุดจ่าย” ด้วยความหวังว่าจะได้ข้อเสนอที่ดีกว่า ก็มีโอกาสผิดหวังมีสูงมากเช่นกัน เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารจะยอมเจรจา มีหลายอย่างตามมา จนอาจนำไปสู่ หายนะทางการเงินยิ่งกว่าเก่าด้วยซ้ำ 

5 ข้อเสีย เมื่อคิดหยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิต 

1. ดอกเบี้ยพุ่งแรงทุกวัน

บัตรเครดิตคิดดอกเบี้ยแบบ ทบต้นรายวัน สูงถึง 16-18% ต่อปีหยุดจ่ายแค่เดือนเดียว หนี้จะโตไวกว่าเงินที่เราพยายามเก็บเสียอีกจากยอดหมื่นเดียว อาจกลายเป็นแสนในเวลาไม่นาน

2. เครดิตเสียทันที

สถาบันการเงินจะรายงานสถานะของเราไปยัง เครดิตบูโร ทันทีเมื่อค้างชำระเกิน 90 วัน ชื่อของเราจะถูก “ตีตรา” ว่าเป็นลูกหนี้ผิดนัด และจะติดเครดิตเสียไปอีก 3 ปี แม้จะเคลียร์หนี้หมดแล้วก็ตาม ผลคือเราจะกู้ไม่ได้อีกเลยในช่วงนั้น ไม่ว่าบ้าน รถ หรือแม้แต่สินเชื่อส่วนบุคคล

3. ถูกทวงหนี้ทุกทาง

ตั้งแต่เบอร์มือถือจนถึงบ้าน พนักงานเร่งรัดหนี้จะโทรตามทุกวัน ส่งจดหมายทุกสัปดาห์หลายคนเสียสุขภาพจิต เสียงาน เสียเวลา และรู้สึกเหมือนโดนกดดันตลอดเวลา

4. เสี่ยงถูกฟ้องศาล

ถ้าค้างชำระนานเกิน 6 เดือนขึ้นไป ธนาคารมีสิทธิฟ้องเรียกเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม เราจะต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในกระบวนการศาล และหากไม่สามารถชำระตามคำตัดสินได้ ก็จะนำไปสู่ข้อสุดท้าย

5. ถูกอายัดเงินเดือน / บัญชีธนาคาร

เจ้าหนี้สามารถยื่นคำร้องให้อายัดเงินเดือนได้สูงสุดถึง 30% ของรายได้หรือหากเรามีเงินในบัญชี เงินนั้นก็อาจถูกอายัดเพื่อจ่ายหนี้เช่นกัน

ท้ายที่สุด จากที่เคยตั้งใจจะ “คุมเกม” กลายเป็นเสียอำนาจในการควบคุมการเงินไปทั้งหมด

ควรทำยังไง ถ้าเริ่มจ่ายหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว?

ซึ่งเมื่อการหยุดจ่ายไม่ใช่คำตอบ แต่การ เจรจา “ก่อน” ค้างชำระ เป็นสิ่งที่ควรทำ ดังนี้ 

  • ติดต่อธนาคาร ขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ลดดอกเบี้ย ผ่อนให้นานขึ้น
  • เข้าร่วมมาตรการของแบงก์ชาติ ซึ่งเปิดให้ลูกหนี้มีปัญหาสามารถรีไฟแนนซ์หรือรวมหนี้ได้
  • หรือ ขอคำปรึกษาฟรี จาก “คลินิกแก้หนี้” ซึ่งจะช่วยประสานงานกับเจ้าหนี้ให้เราโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทั้งหมด สรุปได้ว่า การหยุดจ่ายบัตรเครดิต ไม่ต่างจากการเปิดประตูให้ดอกเบี้ยพุ่งสูง ชื่อเสียงทางการเงินพัง และโอกาสในการฟื้นตัวแทบเป็นศูนย์นั่นเอง 


อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney




Author