SME ค้านเก็บ VAT รายย่อย

Investment

Fund

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

SME ค้านเก็บ VAT รายย่อย

Date Time: 22 พ.ค. 2568 06:03 น.

Summary

  • “นายพิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปรย ว่า เตรียมเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับผู้ประกอบการที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี (ที่ถือเป็นธุรกิจรายย่อย และ SME) เพื่อดึงธุรกิจเข้าสู่ระบบภาษี เพราะปัจจุบันเลี่ยงภาษีกันมาก

Latest

ย้าย LTF มา THAI ESGX ดีมั้ย!

ในขณะที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และปีนี้มีแนวโน้มจะทรุดลงจากผลกระทบการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ

จนส่งผลให้ภาคธุรกิจมีรายได้ลดลง (ยกเว้นแบงก์ที่โกยกำไรอู้ฟู่) และประชาชนมีรายได้ ไม่พอรายจ่าย ต้องกู้เงินมาใช้จ่ายจนหนี้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด และทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่ำลง เหลือ 13% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากที่เคยสูงถึง 17%

กระทรวงการคลังจึงต้องดิ้นหาช่องทางใหม่ๆ “รีดเลือดปู” เก็บภาษีจากธุรกิจ และประชาชนที่รายได้แห้งเหือดอยู่แล้วเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ดึงคนเข้าสู่ระบบภาษีให้มากขึ้น และลดขาดดุลการคลัง ทำให้รัฐจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลต่ำลงนั้น

ล่าสุด 2–3 สัปดาห์ที่ผ่านมา “นายพิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปรย ว่า เตรียมเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับผู้ประกอบการที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี (ที่ถือเป็นธุรกิจรายย่อย และ SME) เพื่อดึงธุรกิจเข้าสู่ระบบภาษี เพราะปัจจุบันเลี่ยงภาษีกันมาก

โดยตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร ผู้ประกอบกิจการขายสินค้า หรือให้บริการที่มีรายรับเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่เสีย VAT แต่เด็กรุ่นใหม่ที่ทำธุรกิจและมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี มักยื่นแบบรายได้ให้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาท เพื่อไม่ต้องเข้าเกณฑ์จ่าย VAT

ดังนั้น จึงมีความคิดจะทำ VAT Category 2 เหมือนในยุโรป เช่น ธุรกิจมีรายได้ 1.5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี เก็บ VAT 1% ของ 1.5 ล้านบาท ไม่ใช่ 7% เหมือนปัจจุบัน

ประเมินว่า จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 200,000 ล้านบาท ทำให้จัดทำงบประมาณขาดดุลต่ำลง จากปัจจุบันขาดดุล 4.4% ของ GDP ก็อาจเหลือ 3.5% มีเงินลงทุนในโครงการต่างๆได้

อย่างไรก็ตาม การดึงธุรกิจเข้าระบบภาษีมากขึ้น เป็นเรื่องดี แต่สำหรับธุรกิจรายย่อย หรือเอสเอ็มอีที่ไม่ได้จัดทำบัญชีเป็นเรื่องเป็นราว จะเป็น “ภาระ” หนักอึ้ง เพราะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบจำนวนมาก ทั้งออกใบกำกับภาษี ทำบัญชีให้ได้มาตรฐาน ยื่นแบบเสียภาษีรายเดือน ฯลฯ

ที่สำคัญการเสียภาษีหลายอย่างและซับซ้อน เป็น “ต้นทุน” ที่ทำให้สูญเสียศักยภาพแข่งขัน!!

“นายณพพงศ์ ธีระวร” ประธานสมาพันธ์ SME ไทย ชี้ว่า เศรษฐกิจไทยยังเปราะบาง หนี้ครัวเรือนและหนี้ธุรกิจยังสูง SME และรายย่อยเข้าไม่ถึงแหล่งทุน การเพิ่มภาระภาษี จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และ “การจะลดเกณฑ์ VAT เท่ากับเปิดแนวรบใหม่ให้คนตัวเล็กต้องสู้โดยไม่มีอาวุธ”

เพื่อสร้างสมดุลในการจัดเก็บภาษี และเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ สมาพันธ์เสนอให้รัฐบาลทบทวนแนวคิดจัดเก็บ Micro SME, เร่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจ, ปิดช่องโหว่ “ทุนแฝง-นอมินีต่างชาติ”, ดึงนักลงทุนต่างชาติที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าไทย และตั้งกองทุน SME 100,000 ล้านบาท

ถ้ารัฐบาลบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ปราบทุจริตทุกวงการให้สิ้นซาก น่าจะมีเงินเหลือทำโครงการที่เป็นประโยชน์ได้อีกเยอะ!!

ฟันนี่เอส

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ