รองผู้ว่า ธปท.เปิดทิศทางดูแลระบบสถาบันการเงิน หนุนแบงก์ช่วยคนไทยฝ่าวิกฤต

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รองผู้ว่า ธปท.เปิดทิศทางดูแลระบบสถาบันการเงิน หนุนแบงก์ช่วยคนไทยฝ่าวิกฤต

Date Time: 22 พ.ค. 2568 07:30 น.

Summary

  • “ปิดแนวทางดูแลระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ท่ามกลางความคาดหวังของคนไทยที่อยากให้ธนาคารพาณิชย์เป็น “ตัวช่วย”ประคองเศรษฐกิจไทยที่กำลังซบเซา รวมทั้ง ปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นเพื่อพยุงการใช้จ่ายประชาชน และภาคธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบ

Latest

เตือนผู้ส่งออกรับมือ COP15

นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าในฐานะผู้กำกับดูแล ธปท. ได้จัดการทดสอบความมั่นคง (stress test) ของธนาคารพาณิชย์ไทย โดยมองไปข้างหน้าภายใต้ผลกระทบที่เศรษฐกิจไทยจะได้รับจากการปรับขึ้นภาษีตอบโต้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในรูปแบบต่างๆ

“หากดูจากตัวเขาเอง ยังมีความเข้มแข็งพอสมควร ทั้งผลประกอบการ ฐานะทางการเงิน ทุนจดทะเบียน และการกันสำรอง ซึ่งส่วนนี้ เรามั่นใจได้ว่า ท่ามกลางพายุที่จะพัดเข้ามา ระบบธนาคารไทยจะไม่ซวดเซ และกลายเป็นตัวเพิ่มเติมปัญหาเศรษฐกิจไทยที่มีอยู่แล้ว แต่ผลกระทบหลักที่จะมากับวิกฤตครั้งนี้ จะถูกส่งผ่านจากลูกค้าหรือลูกหนี้ เพราะเราประเมินแล้วว่า ผลกระทบจากสงครามการค้า และการเจรจาต่อรอง จะไม่ได้มากระทบเราแบบเฉียบพลันทันใด และจบไป แต่จะเป็นเกมที่ลากยาว และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งของไทย และของโลก”

ฝ่าวิกฤตทรัมป์:ลูกหนี้รอด=ธนาคารรอด

บทบาทของธนาคารพาณิชย์ที่จะช่วยทำให้ภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจจริงของไทยอยู่รอดไปได้ จึงเป็นประเด็นสำคัญที่กำลังหารือกันในเวลานี้  ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ ธนาคารพาณิชย์จะต้องประเมินลูกค้าแต่ละรายของตัวเอง และจะช่วยให้ลูกค้าผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปสู่บริบทใหม่ของเศรษฐกิจ การค้าการขาย หรือแม้แต่การเมืองโลกใหม่ได้อย่างไร

โดยสิ่งที่ ธปท.ขอให้โฟกัสในขณะนี้ คือ ธนาคารจะต้องประเมินลูกหนี้ของตัวเองว่าอยู่ในสถานการณ์ดี หรือร้าย แค่ไหน โดยขณะนี้ ธปท.ธนาคารพาณิชย์ และภาคธุรกิจ ได้มีการทำงานร่วมกัน  และธปท.ได้มีโอกาสคุยกับบริษัทขนาดใหญ่ด้วยตัวเองด้วย เพื่อจะประเมินร่วมกันว่า ภาคธุรกิจไหนมีความเสี่ยง และธุรกิจไหนยังมีโอกาส 

“เพราะหากลูกค้าปรับตัวได้ ก็จะเป็นโอกาสของธนาคารพาณิชย์ด้วยเช่นกัน หากลูกค้าปรับตัวได้ผ่านพายุนี้ไปได้ และยิ่งเผอิญว่า พายุลูกใหญ่ในวันนี้จะพัดพาลูกค้าไปยังที่ที่ดีขึ้นและสูงขึ้น ก็ไม่ควรมีอะไรไปกั้น หรือไปบอกว่า จะไม่เป็นโอกาสที่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น ”

รองผู้ว่าการธปท. กล่าวด้วยว่า นอกจากธนาคารพาณิชย์จะต้องประเมินให้ได้ลูกค้ากลุ่มไหนต้องปรับตัว ยังต้องบอกด้วยว่า ลูกค้ารายนี้ควรปรับตัวไปทางไหน เพื่อจะได้มาทำงานร่วมกัน โดยในส่วนของธนาคารพาณิชย์ก็เข้าไปช่วยลูกหนี้ หรือ ต้องการมาตรการอื่น เช่น มาตรการภาครัฐ หรือมาตรการการเงิน ช่วยเพิ่มขึ้นอย่างไร  ซึ่งในส่วนตัว หากจะมีมาตรการเพิ่มขึ้น ก็อยากให้มีเพิ่มขึ้นในลักษณะเอื้อให้เกิดการปรับตัวได้ของภาคธุรกิจ

การเตรียมมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมจะต้องดูให้ลึก เพราะแม้แต่ภาคที่ถูกกระทบโดยตรง เช่น ส่งออก แต่ละบริษัท แต่ละสินค้าก็ต่างกัน ความสามารถปรับตัว เช่น การหาตลาดใหม่ก็ไม่เท่ากัน ขณะทีี่อีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องจับตา คือ กลุ่มที่เห็นมาสักพักว่า มีสินค้าต่างประเทศเข้ามาดัมพ์ราคาขายแข่งกับสินค้าไทย รวมทั้ง ยังจะต้องมองไปถึงผลกระทบต่อภาคแรงงาน ซึ่งเมื่อเรารู้ถึงผลกระทบว่า จะมีมากน้อย มาเร็วมาช้าแค่ไหน ก็จะแก้ปัญหาได้ดีขึ้น 

“อย่างไรก็ตาม ทำคนเดียวคงผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปไม่ได้ เช่น กรณีธนาคารพาณิชย์ หากเห็นโอกาสที่ลูกหนี้จะรอด เชื่อว่าธนาคารจะต้องช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ปล่อยสินเชื่อ เพราะเขาคงไม่ปรารถนาทำให้ลูกค้าไปไม่รอด แต่เขาก็ต้องมั่นใจด้วยว่าลูกค้าคนนี้จะรอดได้จริง ซึ่งหากจะทำให้สำเร็จอาจจะต้องมีความช่วยเหลืออื่นๆ เช่น จากมาตรการภาครัฐ รวมถึงความพยายาปรับตัวและความเก่งของลูกหนี้ร่วมกันด้วย”

แก้โจทย์หลักคนตัวเล็กไม่ได้สินเชื่อ

มองเข้ามาในประเทศ นางรุ่ง กล่าวว่า ระบบการเงินของเราขณะนี้ไม่ได้มีปัญหาสภาพคล่อง ธนาคารพาณิชย์มีเงิน แต่เหตุผลที่ไม่ปล่อยสินเชื่อเพราะไม่มั่นใจ ซึ่งในส่วนรายใหญ่ อาจจะมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ในขณะที่คนตัวเล็กมีปัญหาเข้าไม่ถึงสินเชื่อ

ซึ่งปัญหานี้ต้องมองในระยะยาว และธปท.มองเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว โดยเหตุผลหนึ่งที่ปล่อยสินเชื่อได้น้อย มาจากต้นทุนการหาข้อมูล สอบหาความจริง ทำความรู้จักกับลูกหนี้รายเล็กๆ ที่มีต้นทุนสูง ทำให้ธนาคารให้ความสนใจลูกหนี้กลุ่มนี้น้อย เทียบกับรายใหญ่ที่คุ้มกับการลงทุนมากกว่า 

ธปท.จึงพยายามสร้างภูมิทัศน์ทางการเงินใหม่ ผ่านโครงการ “Your Data” เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์มีต้นทุนการทำความรู้จักกับลูกหนี้รายเล็กที่ต่ำลง  โดย “Your Data” จะเปรียบเป็นการ “ปูพื้นถนน” เพื่อให้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ของรายย่อยไหลเข้ามาสู่ถนนนี้ได้มากขึ้น ง่ายขึ้นและถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เพราะ“Your Data” จะทำให้คนที่เข้ามาใช้เห็นข้อมูลลูกหนี้รายเล็กชัดขึ้น ข้อมูลมีความถูกต้อง เก็บข้อมูลจากหลายแหล่งมาไว้ในที่เดียว จากที่กระจัดกระจายอยู่กับสถาบันการเงินหลายแห่ง หรือบางข้อมูลที่เป็นประโยชน์อยู่ที่ภาครัฐ 

และเมื่อมีข้อมูลที่เข้าถึงง่ายขึ้นแล้ว ธปท.ยังอยากให้มีคนที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้ดี วิธีการทำงานจะต้องเอื้อ ซึ่งเป็นที่มาของการเพิ่มผู้เล่นใหม่ที่อาจจะไม่ต้องมีสาขา แต่มีเทคโนโลยีใหม่ที่จะตอบโจทย์ คือ ธนาคารไร้สาขา หรือ Virtual Bank  ซึ่งเมื่อเป็นธนาคารใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลักจก็ะสามารถเลือกระบบการคำนวณการปล่อยสินเชื่อ การชำระหนี้ ที่เฉพาะเจาะจงให้เหมาะกับคนที่ยังอยู่ชายขอบเข้าไม่ถึง หรือเข้าถึงแล้วแต่ยังไม่มากพอ 

โดยธปท.หวังว่า จะช่วยให้ลูกค้ารายเล็กๆ จำนวนเงินไม่มากเข้าถึงสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น รวมทั้ง มีลูกเล่นใหม่ๆกระตุ้นการออมเงินของคนไทย้เพิ่มขึ้น ซึ่งแตกต่างจากธนาคารระบบเก่าที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับลูกหนี้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ใหญ่ยันเล็ก ทำให้ความคล่องตัว หรือการเปลี่ยนวิธีดูแลลูกค้า เช่น ลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือ ลูกค้าชายขอบทำได้ยาก เพราะติดกับกระบวนการเดิม คล้ายกับธุรกิจใหญ่ กับสตาร์ท อัพ ที่สตาร์ท อัพ มีความคล่องตัวกว่า

เริ่มต้น “แก้หนี้” ก่อนเสีย ได้ด้วยตัวเอง

รองผู้ว่าการธปท.ยังได้กล่าวถึงการแก้หนี้ด้วยว่า ข้อที่สำคัญที่สุด จะแก้หนี้ได้รายได้ต้องมาแต่ขณะนี้รายได้ยังฟื้นช้ากว่าที่คาด จึงต้องมีโครงการ อย่าง “คุณสู้เราช่วย” ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้นมาพยุงลูกหนี้เอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม บางคนยังกลัวการแก้หนี้ พอเริ่มขลุกขลักแล้ว ส่งหนี้จะไม่ไหวไม่รู้ควรทำอย่างไร  ธปท.จึงพัฒนาตัวช่วยลูกหนี้ที่เริ่มผ่อนไม่ไหว ให้หาวิธีแก้หนี้ที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเอง ผ่านโปรแกรมแก้หนี้ DIY ซึ่งอยู่ในเว็บไซด์ของธปท.

“ลูกหนี้ที่สนใจสามารถเข้าไปกรอกข้อมูลรายรับ รายได้ ยอดหนี้ ระบบจะช่วยไกด์ให้ว่า ควรใช้วิธีไหนจัดการหนี้ หนี้่ก้อนนี้ต้องจัดการก่อน หนี้ก้อนนี้ยังพักไว้ได้ ต้องมีการขายสินทรัพย์หรือไม่ เพื่อให้ยังสามารถผ่อนหนี้ต่อได้โดยไม่ลำบากในการใช้ชีวิต และหากวิธีที่ระบบเสนอหนักเกินไปก็สามารถลองปรับได้จนพอใจ และสุดท้าย หากตัดสินใจปรับโครงสร้างหนี้ ระบบจะมีจดหมายตั้งต้นให้ เพื่อให้ลูกหนี้กรอกข้อมูลของตัวเองแล้วนำไปยื่นกับแบงก์ ซึ่งหวังว่า จะช่วยให้คนที่ลังเลอยู่ มีแนวทางในการแก้หนี้และกล้าเข้ามาแก้หนี้กับเจ้าหนี้เพื่อให้จบปัญหาหนี้ได้เพิ่มขึ้น”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ