Samsung Galaxy S25 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงจาก Samsung ที่เปิดตัวในช่วงต้นปี มาพร้อมจุดเด่นที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ S Pen ปากกาสุดอัจฉริยะที่พร้อมให้คุณขีดเขียน วาดภาพ นอกจากนี้ ยังมีการผสานความร่วมมือกับกูเกิล สำหรับขับเคลื่อนฟีเจอร์ใหม่ๆ บน Galaxy AI ยกระดับประสบการณ์การใช้งาน AI

การออกแบบ Galaxy S25 Ultra

หากมองเผินๆ Galaxy S25 Ultra อาจไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก ยังคงมาในรูปทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ มีหน้าจอที่ขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และปุ่มเรียกใช้งาน Gemini ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม 

...

ด้านล่างของตัวเครื่องเป็นที่อยู่ของพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและเชื่อมต่อข้อมูล ในขณะที่ช่องเก็บ S Pen ถูกจัดวางไว้ทางด้านซ้ายของเครื่อง

ตัวเครื่องของ Galaxy S25 Ultra ใช้วัสดุ Gorilla Glass Armor 2 ที่มีการป้องกันเพิ่มเติมด้วยเซรามิก ช่วยให้หน้าจอทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีในระดับหนึ่ง

Galaxy S25 Ultra มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใสเต็มตา อย่างไรก็ตาม ค่าเริ่มต้นของความละเอียดหน้าจอจะอยู่ที่ 2340 x 1080 พิกเซล (Full HD+) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่า ส่วนด้านบนของหน้าจอเป็นรูกลมเล็กๆ สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และใต้หน้าจอยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือแบบอัลตราโซนิก ที่รวดเร็วและแม่นยำ

Galaxy AI บน Samsung Galaxy

นับตั้งแต่ AI เข้ามามีบทบาท โลกของสมาร์ทโฟนก็ต้องปรับตัวและนำเอา AI มาผสานเข้ากับการใช้งานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดย Galaxy S25 Ultra ได้ต่อยอดและนำเครื่องมือ Galaxy AI มาเสริมศักยภาพการใช้งานในชีวิตประจำวัน

Now Brief เป็นระบบ AI บน Galaxy S25 Series ที่จะเรียนรู้จากการใช้งานของคุณ รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อนำเสนอในรูปแบบรายงานสรุปในช่วงเช้า กลางวัน เย็น และดึก ซึ่งรวมถึงข้อมูลพื้นฐานอย่างปฏิทิน สภาพอากาศ และการเตือนความจำ

นอกจากนี้ ระบบยังสามารถสร้างภาพรวมประจำวันที่คัดสรรด้วย AI โดยจะแสดงข้อมูลสภาพอากาศในท้องถิ่น กิจกรรมในปฏิทิน รูปถ่ายที่คุณถ่ายไว้ การแจ้งเตือน ข้อมูลสุขภาพ รายการเพลงจาก Spotify และแม้แต่การแจ้งเตือนว่าคุณใช้เวลาบนสมาร์ทโฟนไปนานเท่าไหร่ หรือใช้เวลาเดินไปพร้อมกับเล่นโทรศัพท์กี่นาที

...

ยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Sketch to Image ที่ให้คุณสเก็ตช์ภาพคร่าวๆ แล้วให้ AI ช่วยแปลงเป็นภาพที่วาดออกมาให้ได้ตามต้องการ รวมถึง Draw Assist ที่ช่วยสร้างสรรค์ภาพวาดของคุณให้กลายเป็นภาพในสไตล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพสีน้ำ ภาพการ์ตูน ภาพป๊อปอาร์ต ภาพการ์ตูน 3 มิติ และภาพวาดสีน้ำมัน

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ AI ที่เพิ่มเติมเข้ามา เช่น การตัดเสียงที่ไม่ต้องการออกจากวิดีโอ หรือ Audio Eraser เพื่อให้ได้วิดีโอที่ตรงใจมากที่สุด และการคาดเดาเพลงจากการฮัมเพลงของผู้ใช้งาน ซึ่งในส่วนนี้อาจต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อความแม่นยำ

กล้องถ่ายภาพของ Galaxy S25 Ultra

...

Galaxy S25 Ultra มาพร้อมกับระบบกล้องด้านหลัง 4 ตัว ที่คล้ายกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S24 Ultra โดยที่กล้องหลักมีความละเอียด 200 ล้านพิกเซล, กล้องเทเลโฟโต้ 10 ล้านพิกเซล รองรับการซูม 3 เท่า, กล้องเทเลโฟโต้ 50 ล้านพิกเซล ซูม 5 เท่า (ซูมออปติคอลสูงสุด 10 เท่า), และกล้องอัลตราไวด์ 50 ล้านพิกเซล ซึ่งมีการปรับปรุงในเรื่องการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยให้ดียิ่งขึ้น และให้รายละเอียดที่ชัดเจนครบถ้วน

จุดเด่นที่สำคัญของ Galaxy S25 Ultra คือ พลังการซูม ที่ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ เช่น ในคอนเสิร์ต หรือการดูกีฬาในสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่นั่งในอัฒจันทร์ที่อยู่ไกลจากเวทีหรือสนามแข่งขัน

S Pen อาวุธเสริม Galaxy S25 Ultra

สไตลัสของ Galaxy S25 Ultra จะไม่รองรับ Bluetooth Low Energy อีกต่อไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถใช้งาน S Pen ในการควบคุมระยะไกลได้ โดย Samsung ให้เหตุผลว่าผู้บริโภคใช้งานฟังก์ชันนี้น้อยมาก การตัด BLE ออกไปทำให้ S Pen ของ S25 Ultra มีขนาดบาง เบา และเล็กลงกว่าเดิม แต่นั่นก็ทำให้ความหวือหวาของ S Pen ขาดหายไป

แบตเตอรี่

โดยรวมแล้ว Galaxy S25 Ultra มีปริมาณแบตเตอรี่ที่มากเพียงพอต่อการใช้งานเต็มวัน โดยแทบไม่จำเป็นต้องชาร์จระหว่างวัน แบตเตอรี่ของ Galaxy S25 Ultra มีความจุ 5,000 mAh อย่างไรก็ตาม หากปรับอัตราการรีเฟรชให้สูงขึ้น เช่น 120Hz และเปิด Always-on Display ชั่วโมงการใช้งานก็จะลดลง

บทสรุปของ Galaxy S25 Ultra

Galaxy S25 Ultra ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดในเวลานี้ของฝั่ง Android และด้วยความที่เป็นรุ่น Ultra จึงมีลูกเล่นเพิ่มเติม เช่น S Pen และหน้าจอขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม Galaxy S25 Ultra ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปก ฟีเจอร์การใช้งาน มิพักต้องพูดถึงเรื่องของการออกแบบที่ชวนให้รู้สึกว่าคงแตกต่างมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว

ข้อดี: 

  • กล้องทรงพลังที่มาพร้อมซูมออปติคอล 3x และ 10x
  • แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน
  • การเข้าถึงฟีเจอร์ AI ล่าสุด จากซัมซุงและกูเกิล

ข้อเสีย:

  • ราคาสูงมาก
  • S Pen ที่กลายเป็นสไตลัสธรรมดาหลังจากตัดส่วนที่เป็นบลูทูธออก
  • การเปลี่ยนแปลงน้อยจนแทบไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง