ในโลกที่การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การไลฟ์ขายผลิตภัณฑ์ย่อมได้รับความนิยมแบบแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนาทีทอง ทั้งตอนขึ้นเดือนใหม่อย่างแคมเปญ Double Digit แคมเปญกลางเดือน (Mid Month Sale) ไปจนถึงวันเงินเดือนออก (PAYDAY) บรรดานักไลฟ์จะพากันเสิร์ฟการขายสุดสร้างสรรค์ผ่านหน้าจอแบบไม่มีพัก

แม้ทุกคนจะสามารถไลฟ์ขายของได้ด้วยตนเองผ่านปลายนิ้ว แต่การจะไลฟ์ให้สนุก น่าติดตาม ผู้ชมเข้ามาแล้วไม่กดข้ามไปไลฟ์อื่นย่อมไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่าย ๆ การไลฟ์ขายสินค้าจึงเป็นสิ่งที่ยังท้าทายอยู่เสมอ

อย่างไรก็ดี อุปสรรคทั้งหมดที่ว่ามาไม่ใช่ปัญหาสำหรับ แต๋ง–กฤษฏิ์กุล ชุมแก้ว หรือ แต๋ง After Yum หลายปีก่อน ทุกคนอาจรู้จักแต๋งในบทบาทของผู้บุกเบิกร้านยำรสชาติจัดจ้านแห่งเมืองพัทยา ต่อมา เธอกลายเป็นเจ้าแม่คอนเทนต์เจ้าของละครกะเทยธรรมที่กลายไปไวรัลทั่วประเทศ

กระทั่งล่าสุด เธอขึ้นแท่นนักไลฟ์ที่มาแรงที่สุดคนหนึ่ง ไม่ว่าขึ้นไลฟ์บน Shopee เมื่อไหร่ แพลตฟอร์มเป็นต้องไฟลุก ยอดขายพุ่งสูงต่อเนื่องจนน่าวิเคราะห์กันว่า สูตรลับความสำเร็จของนักไลฟ์ร่างทองคนนี้คืออะไร

ไม่รอช้า Thairath Online เดินทางมาสัมภาษณ์ก่อนแต๋งขึ้นไลฟ์ในวันที่ 6 เดือน 6 แต๋งแต่งตัวสีส้มจัดเต็ม ตอกย้ำความเต็มที่ในทุกการทำงาน

“แต๋งขอจูนอารมณ์แปบนึงนะคะ” เธอว่าก่อนทำสมาธิเพื่อให้การส่งมอบประสบการณ์เบื้องหลังความสำเร็จในการไลฟ์ออกมาครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด

มาดูกันว่า ผู้ประกอบการ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และนักไลฟ์ร่างทองคนนี้มีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ทุกการไลฟ์ไม่เคยมีคำว่าน่าเบื่อ ไม่เคยพลาดที่จะปิดการขาย และเครื่องมือใดของ Shopee Live ที่มีส่วนช่วยให้ แต๋งมาได้ไกลถึงจุดนี้…

จากเจ้าแม่ After Yum สู่นักไลฟ์ร่างทองบน Shopee!

“แต๋งโดน Shopee หลอกมา” เธอพูดแบบติดตลก

ย้อนกลับไปหลายปีก่อน แต๋งในบทบาทเจ้าของธุรกิจถูกทาบทามไปเป็นสปีกเกอร์ในงานเสวนางานหนึ่ง บนเวทีนั้น เธอเล่าถึงการนำข้อมูลหลังบ้านมาใช้ขับเคลื่อนทำธุรกิจน้ำปลาร้า เธอนำเสนอออกมาอย่างชัดเจน ตรงประเด็น เปี่ยมไปด้วยพลัง แถมยังพ่วงอารมณ์ขัน ผลลัพธ์ที่ได้ คือคลิปการพูดวันนั้นกลายเป็นไวรัล ทุกคนได้รู้ว่า แต๋งไม่ได้เป็นเพียงเจ้าของแบรนด์ After Yum แต่ยังเป็นนักสื่อสารมากฝีมือที่ไม่ว่าจะเล่าเรื่องอะไรก็น่าฟัง ได้ทั้งสาระความรู้และความบันเทิง

“ตอนแรกผู้จัดบอกว่าไปพูดให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ฟัง สรุปวันจริง ช็อกมาก แต่ละคนระดับประเทศทั้งนั้น เริ่มตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ตื่นเต้นก่อนขึ้นเวที แต่เราก็ตั้งสติ ปรับอินเนอร์ สุดท้ายสิ่งที่พูดวันนั้นก็กลายเป็นไวรัล Shopee ติดต่อมาตอนนั้น”

ถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่จะติดต่อมาก็ใช่ว่าแต๋งจะตกปากรับคำโดยง่าย ไม่ใช่ว่าเธอเล่นตัว แต่ ณ วันนั้น แต๋ง After Yum ไม่เคยขายของของคนอื่นมาก่อน เธอเคยขายเฉพาะสินค้าที่ตนเองสร้างมากับมือ เคยเล่าเพียงความอร่อยของน้ำยำและน้ำปลาร้า ทว่าทีมงาน Shopee ที่เล็งเห็นถึงความสามารถของแต๋งไม่ยอมแพ้ ทำการโน้มน้าวโดยบอกว่าไม่ได้ต้องการให้แต๋งมาไลฟ์ขายสินค้า ขอเพียงมาบรรยายและให้ความรู้แก่คนทางบ้าน

แต๋งอยากลอง จึงตอบตกลง นั่นเองคือจุดเริ่มต้นการเป็นนักไลฟ์ร่างทองบน Shopee Live ที่เธอเองก็ไม่ทันตั้งตัว

สมการไลฟ์ขายของแบบ ‘เตรียมตัว + ขายความเรียล’

เริ่มไลฟ์ขายของว่ายากแล้ว

ไลฟ์ให้คนดูกดซื้อยิ่งยากกว่า

ทำไมแต๋งจึงทำสิ่งนี้ได้ง่ายราวกับว่า มันเป็นเรื่องปกติ

เธอใช้เทคนิคอะไรกันแน่…

เคล็ดลับแรกในการปลุกปั้นตนเองเป็นสุดยอดนักไลฟ์ คือการเตรียมตัว แต๋งทุ่มสุดตัวกับขั้นตอนนี้ เธอยอมอ่านข้อมูลเป็นปึก ๆ เพื่อให้เข้าใจทุกรายละเอียดของสินค้าที่ต้องนำเสนอ เพราะหากคนขายยังไม่เข้าใจสินค้า คนดูจะอยากซื้อสินค้าได้อย่างไร

“แต๋งเตรียมตัวหนักมาก สิงร่างตนเองเหมือนเป็นเจ้าของสินค้านั้น ใครจะคิดว่ายอดจะเข้ามาตั้งแต่วันแรก” เธอเล่าอย่างออกรส ไม่แปลกใจว่าทำไมผู้ที่ดูไลฟ์ของเธอจึงอยากซื้อสินค้าที่เธอเล่า

การเตรียมตัวของแต๋งไม่ได้จำกัดเพียงแค่ข้อมูลของสินค้า เธอเตรียมตัวมากกว่านั้น หลายครั้ง เธอเตรียมถึงขั้นบทเพลง รูปแบบการแต่งตัว ไปจนถึงอุปกรณ์ประกอบฉาก แต๋งคิดแล้วคิดอีกว่าจะใช้การสื่อสารอย่างไรในการไลฟ์แต่ละครั้ง ควรเล่าเรื่องแบบไหนจึงจะสนุก มุกตลกหรือท่าทางแบบไหนที่จะดึงความสนใจของคนดูได้อยู่หมัด

ครั้งหนึ่งในช่วงแคมเปญ 12.12 ที่มีคนไลฟ์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต๋งเคยเตรียมละครมาเล่นให้ผู้ชมดูสด ๆ พกความแปลกใหม่ที่ทุกคนไม่คาดคิดมาเสิร์ฟจนยอดขายวันนั้นพุ่งทะลุ 12 ล้านบาทภายในไลฟ์เดียว

อย่างไรก็ดี การทำการบ้านที่ดียังไม่เพียงพอต่อการเป็นนักไลฟ์ที่ประสบความสำเร็จ แต๋งไปไกลกว่านั้น เธอย้ำอย่างหนักแน่นว่า อีกหนึ่งเทคนิคที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘ความเรียล’ หรือ ‘Real Content’

“พูดผิดก็บอกว่าผิด หยิบสินค้าผิดก็พูดขอโทษ คนที่ดูไลฟ์บ่น แต๋งก็งอนจริง ๆ คนในไลฟ์ถึงกับต้องรวมตัวกันง้อ ทุกอย่างเรียล ทุกอย่างจริง เพราะอะไรที่ไม่จริง คนดูเขาดูออก”

แต๋งอาจไม่ใช่นักไลฟ์ที่พูดสโลแกนของสินค้าถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เล่าสรรพคุณของแต่ละแบรนด์อย่างครบถ้วนเพอร์เฟ็กต์ แต่หากพูดถึงยอดขาย สไตล์ของเธอช่วยให้ยอดพุ่งได้อย่างไร้ที่ติ การพูดถูกบ้างผิดบ้างกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทั้งจริงใจและเป็นธรรมชาติ คนดูรู้สึกเหมือนได้ฟังเพื่อนเล่าเรื่องแทนที่จะเป็นการชมแม่ค้ามาขายของให้ฟัง

“มีครั้งหนึ่ง แต๋งหิวมาก ขอพักขายของไปทำกับข้าว คนดูก็ยังอยู่กับแต๋งนะ”

กดสูตรให้ลูกค้ากดซื้อ

“สูตรที่แต๋งท่องไว้เสมอคือ Know-Believe-Feel-Action”

แต๋งค่อย ๆ อธิบายให้ฟังไปทีละคำ เริ่มตั้งแต่ Know คือการบอกให้ผู้ชมรู้ว่า สินค้าคืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง จากนั้นจึงทำให้เขาเชื่อ (Believe) เหมือนที่แต๋งเชื่อ ก่อนที่ความเชื่อจะค่อย ๆ หลอมรวมเป็นความรู้สึก (Feel) และในที่สุด เมื่อเขารู้ เชื่อ และรู้สึก เขาจะกดซื้อ (Action) ทันที

“เราต้องหาทางทำให้เกิด Know-Believe-Feel-Action ให้ได้ สมมติแบรนด์เครื่องดื่มขายไม่ค่อยดี เราจะลองนำเสนอวิธีการใหม่ ๆ ในการกิน ลองนำเครื่องดื่มนั้นไปกินคู่กับเมนูนี้ อาจช่วยให้อร่อยขึ้น ซึ่งเราก็ลองเองก่อน พอลองแล้วเวิร์กก็มาเล่าในไลฟ์ พอเรารู้สึกว่ามันอร่อยจริง คนดูก็อยากเอาไปทำตามเพื่อให้รู้สึกแบบเดียวกัน หรือเคยมีครั้งหนึ่ง เราต้องขายข้าวสาร แต่ข้าวสารที่บ้านลูกค้ายังไม่หมด เราก็บอกเขาว่าลองซื้อไปทำบุญไหม พูดให้เขาเชื่อเหมือนที่เราเชื่อว่า จริง ๆ คุณไม่ต้องซื้อไปกินเองก็ได้ ซื้อไปทำบุญ ไปบริจาคก็ได้ สุดท้ายเราขายข้าวสารได้ 8 ตัน ขายจนแบรนด์ข้าวสารแทบส่งไม่ทัน” แต๋งพูดไปขำไป

เดบิวต์เป็นนักไลฟ์ร่างทองด้วยข้อมูลของ Shopee Live

ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ยอดขายทาง Shopee Live ของแต๋งสูงถึง 45 ล้านบาท เธอเคยเรียกยอดสูงทะลุ 12 ล้านบาทในการไลฟ์เพียงหนึ่งครั้ง แถมในช่วง Mega Campaign นักไลฟ์ร่างทองคนนี้ยังเคยทำยอดโตกว่า 300 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

ตั้งแต่ตอนที่ทำธุรกิจ แต๋งมักจะย้ำเสมอว่า ‘ข้อมูล’ คือปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนทุกสิ่งอย่าง ความสำเร็จที่เธอสร้างผ่านการไลฟ์ขายสินค้าเองก็ไม่ต่างกัน

นอกจาก Shopee Live จะซัปพอร์ตในส่วนของโค้ดส่วนลด และ Shopee Coin ซึ่งเอื้อต่อการกดซื้อของคนดูแล้ว แพลตฟอร์มยังคอยประสานงาน เปิดการมองเห็น ตลอดจนตระเตรียมโปรดักชันคุณภาพที่ส่งเสริมให้การไลฟ์มีความน่าตื่นตาตื่นใจ

ไม่เพียงเท่านั้น แดชบอร์ดและข้อมูลหลังบ้านยังช่วยให้แต๋งสามารถขับเคลื่อนการไลฟ์ให้มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากครั้งที่ทำธุรกิจ After Yum

แต๋งสารภาพกับเราว่า เธอไม่เคยคิดว่า ผลิตภัณฑ์ยอดขายอันดับ 1 ที่เธอทำได้บน Shopee Live ในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา จะเป็นผ้าอ้อมสำหรับเด็ก การได้รู้ข้อมูลนี้ช่วยให้เธอเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงเป็นใคร ทั้งยังช่วยให้เธอสามารถออกแบบวิธีสื่อสารที่ตรงใจและเหมาะสมกับผู้ชมมากยิ่งขึ้น

“เราเช็กฟีดแบ็กทุกครั้ง ทั้งตอนไลฟ์และหลังไลฟ์ ดูว่าสินค้าไหนขายดี 5 อันดับแรก 10 อันดับแรก 20 อันดับแรก พอเช็กเสร็จก็ต้องคิดต่อด้วยว่า ทำไมจึงเป็นแบบนั้น ทำไมยอดผ้าอ้อมถึงขายดี” แต๋งอธิบาย

“ต้องเช็กฟีดแบ็กระหว่างไลฟ์ด้วยเหรอ” เราถาม

“ใช่ แต๋งให้ทีมงานเขียนให้ดูบ้าง หรือบางทีเดินไปหลังกล้องเพื่อดูเองก็มี เราต้องดูเพื่อให้รู้ จะได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้แบบปัจจุบันทันด่วน การตัดสินใจคือสิ่งสำคัญ ข้อมูลหลังบ้านที่ทาง Shopee Live รวบรวมจะช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นว่าต้องเลี้ยวซ้ายหรือขวา จะขายชิ้นนี้ต่อหรือพอแค่นี้” นักไลฟ์ร่างทองสรุป

ตัวแทนไทยไปเมืองจีน!

ความสำเร็จในฐานะนักไลฟ์ส่งให้แต๋งได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมงาน Shopee Marketing Solutions Summit 2025 ที่ประเทศจีน งานวันนั้นมีตัวแทนจากไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมีลูกค้าแวะเวียนมาเข้าร่วมกว่า 100 ชีวิต

แต๋งมีเวลาในการนำเสนอเรื่องราวบนเวทีเพียง 5 นาที

เราสงสัยเหลือเกินว่า เธอจัดการแต่ละวินาทีอันมีค่านั้นอย่างไร…

“นาทีแรก แต๋งขึ้นไปเต้นก่อน ยอมเสียหนึ่งนาทีครึ่งไปกับการเต้น เต้นเสร็จ แต๋งถามผู้ชมว่า รู้ไหม ทำไมหนูต้องเต้นเพลงนี้ หนูเต้นเพราะตอนอยู่ไทย หนูเต้นเพลงนี้จบแล้วหนูได้ 3 ล้าน การเปิดเวทีแบบนี้ มันทั้งฮุกและตอบในสิ่งที่เขาสงสัย ทุกคนเข้าใจว่า ทำไมแต๋งถึงต้องเต้น และเขาก็อยู่กับเราไปจนจบ”

ความเต็มที่บนเวทีส่งผลให้ผู้ที่มาร่วมงานเข้ามาต่อแถวรอพูดคุยกับแต๋ง บูธประเทศไทยได้รับความนิยมจนผู้จัดงานยังอึ้ง หลายคนเข้ามาขอบคุณแต๋งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาภายในเวลาเพียง 5 นาที ขณะที่แต๋งเองมองว่า ช่วงเวลาสั้น ๆ บนเวทีวันนั้นแทบจะเปลี่ยนชีวิต เธอได้เป็นตัวแทนคนไทย หอบสินค้าแปลก ๆ ใหม่ ๆ กลับมาบ้าน ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนคอนเนกชันที่อาจงอกเงยเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต

“ถามจริง ตอนจะขึ้นเวทีทั้งที่รู้ว่ามีเวลาแค่ 5 นาที คุณแต๋งกดดันไหม” เราสงสัย

“เอาจริง แต๋งมั่นใจนะ มั่นใจ แต่ไม่มั่นหน้า ตอนนั้นท่องคำว่า Believe กับ Focus คือเชื่อและมีสมาธิกับสิ่งที่ต้องทำ พอผ่านมาถึงวันนี้ แต๋งอยากขอบคุณทาง Shopee ที่ให้เกียรติเชิญแต๋งไปร่วมงาน มันคือความสนุกที่มาพร้อมประสบการณ์ที่ใหม่และคุ้มค่ามากๆ”

ก่อนจากกัน เราขอให้แต๋งฝากคำแนะนำสำคัญถึงคนไทย หลังเคยสร้างแรงบันดาลใจไปแล้วที่แผ่นดินจีน แต๋งยิ้ม แล้วบอกว่าอย่าลืมพูดในสิ่งที่ผู้ฟังอยากได้ยิน อย่าลืมขายในสิ่งที่เขาอยากซื้อ และหากอยากลองไลฟ์ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร Shopee Live คืออีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยให้การไลฟ์ของทุกคนสะดวกสบายมากขึ้น ขนาดแต๋งที่เริ่มต้นไลฟ์เพราะเข้าใจว่าถูกเชิญมาบรรยายให้ความรู้ เธอยังติดใจสิ่งนี้จนทำมาได้อย่างยาวนาน ทั้งยังทำได้ดีจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน

“ลองถามตนเองว่า ที่ผ่านมาสู้กับอะไรมาบ้าง วันนี้เราแค่เหนื่อย แต่เหนื่อยแล้วเราจะหยุดเหรอ เราไม่สงสารตนเองในอดีตที่สู้มาได้ขนาดนี้เหรอ เหนื่อยก็พักได้ แต่พักแล้วอย่าลืมสู้ต่อ อย่าลืมเป้าหมายที่จะทำให้เราตายตาหลับ ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร เราอาจไม่ประสบความสำเร็จในวันนี้พรุ่งนี้ แต่สิ่งที่เราพยายามไม่มีทางสูญเปล่า”