
เข้าใจ (วิ่ง) กันใหม่
5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการวิ่ง 1.วิ่งแล้วปวดหลัง อาการปวดหลังไม่ได้มาจากการวิ่ง แต่มาจากท่าวิ่งที่ไม่ถูกต้อง ให้หลังเหยียดตรง และไหล่เอนไปข้างหลังเล็กน้อย แกว่งแขนตามธรรมชาติ
อีกสาเหตุคือ วอร์มอัปไม่มากพอที่จะทำให้กล้ามเนื้อที่แผ่นหลังคลายตัว เวลาวิ่งร่างกายจะบิดตัวเองไปตามแรงเหวี่ยงของสมดุลของร่างกาย หากวอร์มอัปไม่มากพอ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
ข่าวแนะนำ
2.วิ่งแล้วน่องใหญ่
สาวๆที่กลัวได้น่องปูดเป็นของแถม เลยเลี่ยงที่จะวิ่ง ความจริงแล้ว การออกกำลังกายใดๆที่ไม่ได้ใช้แรงกล้ามเนื้อเต็มที่ จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อเพิ่มขนาด
โดยเฉพาะการวิ่งเป็นการใช้งานกล้ามเนื้อทีละน้อย แต่บ่อยๆ นานๆ ช่วยฝึกความอดทนของกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันบริเวณกล้ามเนื้อน่อง ทำให้น่องกระชับขึ้น ไม่ทำให้น่องโตขึ้นแน่นอน
3.วิ่งทำให้หน้าอกหย่อนยาน
ความจริงแล้วไม่เกี่ยวเลย จะช่วยกระชับมากขึ้น เนื่องจากการวิ่งจะมีการขยับของข้อศอกตลอดเวลา
เพียงแต่สาวๆอาจรู้สึกแรงเหวี่ยงหรือการสะเทือนขณะวิ่ง เลยคิดว่าจะทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย แนะนำว่าให้สวมสปอร์ตบราในการวิ่งหรือออกกำลังกาย
4.วิ่งมากข้อเสื่อม
การวิ่งที่ถูกวิธีอย่างต่อเนื่อง ป้องกันการเสื่อมเร็วของข้อต่อได้มากกว่าการไม่วิ่ง หรือไม่ออกกำลังกายเลย เพราะแรงกดและการปล่อยอย่างเป็นจังหวะจากการวิ่งจะเพิ่มการหมุนเวียนน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ ซึ่งเป็นสารอาหารให้เซลล์กระดูกอ่อน กระตุ้นการสร้าง และซ่อมส่วนที่สึกหรอ
5.วิ่งจะทำให้เตี้ย
กระดูกหรือกล้ามเนื้อส่วนต่างๆก็จะมีการเสื่อมไปตามวัย ใครที่บอกว่าวิ่งนานๆแล้วส่วนสูงหายไป อาจเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย
วิธีป้องกัน คือ รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ออกกำลังกายให้ถูกต้องและสม่ำเสมอ จะช่วยรักษากระดูกให้แข็งแรง
Cr.RunningTipsByExtra
เพจเฟซบุ๊ก ไปวิ่งกัน : RunningHub นำเสนอเรื่องนี้เอาไว้ ซึ่งถือว่าน่าสนใจทีเดียว
เพราะใครหลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการวิ่งกันอยู่ว่า ทำให้เกิดผลเสียตามมามากมาย จนเกิดความกลัวไม่กล้าออกมาวิ่ง
แต่จริงๆแล้ว หากออกกำลังกายอย่างถูกวิธี มีหรือที่จะไม่มีประโยชน์
เมื่อทราบแล้ว เชื่อว่าคงจะเปลี่ยนทัศนคติด้านลบของการวิ่งไปได้ไม่น้อย หากใครยังเข้าใจผิด ก็ขอใช้โอกาสนี้สื่อสารไว้เลย
เพื่อให้เข้าใจกันใหม่...
ฟ้าคำราม