หน้าแรกแกลเลอรี่

เมื่อ "นามสกุล" ไม่การันตีความสำเร็จ

Lemon Juice

2 เม.ย. 2563 09:30 น.

เรียกได้ว่าเงียบเหงากันไปตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว สำหรับวงการกีฬาโลก ที่โดนพิษ “โควิด-19” เล่นงานเข้าอย่างจัง จนหลายชนิดกีฬาต้องหยุดชะงักไปกลางคัน แถมบางชนิดกีฬาต้องเลื่อนการเปิดฉากการแข่งขันออกไปแบบไร้จุดหมาย

ในส่วนของศึกมอเตอร์สปอร์ตเองก็เช่นกัน นอกเหนือจากโมโตจีพีฤดูกาล 2020 นอกจากจะเลื่อนแล้ว บางอีเวนต์ยังต้องยกเลิกไปอย่างจำใจ เพราะด้วยข้อจำกัดบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถโยกโปรแกรมไปหาวันแข่งขันใหม่ได้

เช่นกันกับรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ที่ฟอร์มูลา วัน ยังเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่แน่ใจว่า จะไปเปิดฉากสนามแรกกันได้ที่ประเทศไหนกันแน่

ล่าสุดมีข่าวมาว่า การแข่งขันที่สนามอันเลื่องชื่อว่า ซิลเวอร์สโตน ในศึกบริติช กรังด์ปรีซ์ 2020 ก็อาจโดนโรคเลื่อนเล่นงานเช่นกัน เพราะในช่วงนี้อังกฤษเอง สถานการณ์ไวรัสก็ไม่น่าไว้วางใจนัก

แต่ที่น่าจับตามองไม่แพ้ไวรัสในตอนนี้ คือการรอวันก้าวขึ้นมาวัดรอยเท้าพ่อ ของเจ้าหนู “มิคกี้” หรือ มิค ชูมัคเกอร์ ซึ่งดูจากนามสกุลก็คงไม่บอกว่าแล้วว่า เป็นลูกเต้าเหล่าใคร

หนุ่มน้อยวัย 20 ปีจากเยอรมนีรายนี้ ได้รับการจับตามองตั้งแต่หลายปีก่อน สมัยที่เริ่มต้นการแข่งขันในศึกฟอร์มูลา โฟร์ (F4) เพราะฉายแววความเก่งไม่แพ้พ่อ ก่อนจะมาสร้างชื่ออย่างจริงจังด้วยการคว้าแชมป์ฟอร์มูลา 3 ได้เมื่อปี 2018

ขณะที่เมื่อปี 2019 ถือเป็นครั้งแรก ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาวาดลวดลายในศึกฟอร์มูลา ทู และทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ เมื่อจับในอันดับ 12 ของประเภทนักขับ ขึ้นโพเดียมแชมป์ได้ 1 สนามจากทั้งหมด 22 รายการ

ด้วยผลงานที่กล่าวมา หลายคนใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่ มิค ชูมัคเกอร์ จะก้าวขึ้นมาไล่ตามความสำเร็จของ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ผู้เป็นพ่อ และคุณอา ราล์ฟ ชูมัคเกอร์ ของเขาบ้าง

แต่เด็กน้อยรายนี้ฉลาดไม่น้อยครับ ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวเองรู้ดีว่าชั้นเชิงยังไม่ถึง ต้องใช้เวลาบ่มเพาะอีกพอสมควร แม้อดีตต้นสังกัดของคุณพ่ออย่าง เฟอร์รารี จะพร้อมใจอ้าแขนต้อนรับเข้าสู่ทีมแล้วก็ตาม

“โดยทั่วไปแล้ว ผมมีความสุขกับฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนในปี 2020 ไม่เพียงแต่ผมจะต้องการพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นไปกว่าเดิมแล้ว ผมยังต้องขับเคี่ยวกับนักขับขั้นนำอีกด้วย” ชูมัคเกอร์ จูเนียร์ กล่าวกับ Argentinean publication Infobae

นอกจากนี้ เจ้าหนูมิคยังรู้ดีว่า ความกดดันและการจับตามองจากรอบด้านกำลังรอเขาอยู่ เพราะนามสกุล ชูมัคเกอร์ มันค้ำคอ ทำให้เจ้าตัวต้องพร้อมที่สุดเท่านั้น จึงจะเดินหน้าไปต่อไปได้ในศึกเอฟวัน

“ไม่มีนักขับจูเนียร์คนไหน ที่มาถึงศึกเอฟวันได้เพราะนามสกุลของพวกเขา นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะรับประกันได้”

“ในสายตาของผมแล้ว พ่อคือนักขับที่ดีที่สุดตลอดกาล หากมีคนเอาผมไปเปรียบเทียบกับพ่อ แน่นอนว่าผมต้องรู้สึกภูมิใจมากแน่"

"ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นบ้างหลังจากนี้ คงเป็นสิ่งที่เราจะพูดคุยกันในอนาคต” ทายาทนักขับในตำนาน กล่าว.