ไทยรัฐฉบับพิมพ์
สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เปิดคิวแข่งแน่นตลอดปี 2562 ชุดใหญ่ประเดิมระดับนานาชาติ ในศึกยกน้ำหนักอีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปียนชิปส์ ล่าโควตาโอลิมปิกเกมส์ ระหว่างวันที่ 7-10 ก.พ. ที่ จ.เชียงใหม่ ต่อด้วยจอมพลังรุ่นจิ๋ว ลัดฟ้าลุยยกน้ำหนักยุวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่นครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 8-15 มี.ค. “มาดามบุษ” บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมเดินเครื่องเต็มที่ หวังคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ให้มากที่สุด ยกผู้หญิงสุดเจ๋งมีสิทธิ์ได้เต็ม 4 คน ส่วนผู้ชายได้แน่อย่างน้อย 2-3 คน
“มาดามบุษ” นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ.2562 สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ มีโปรแกรมแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก โดยภารกิจสำคัญอยู่ที่การสะสมคะแนนเพื่อคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหนนี้จะมีการเปลี่ยนกฎระเบียบใหม่ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการให้โควตาเป็นบุคคลจากเดิมเป็นที่นั่ง, ระบบการคัดเลือก, การปรับรุ่นน้ำหนักใหม่ เป็นต้น
สำหรับโปรแกรมระดับนานาชาติ จะประเดิมในศึกยกน้ำหนัก อีแกท คัพ อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนชิป (รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์) ระหว่างวันที่ 7-10 ก.พ. ที่ จ.เชียงใหม่, ยกน้ำหนักยุวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่นครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 8-15 มี.ค., ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย (รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์) ระหว่างวันที่ 20-30 เม.ย. ที่ประเทศจีน, ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ระหว่างวันที่ 1-8 มิ.ย. ที่ประเทศฟิจิ, ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยแห่งโลก ระหว่างวันที่ 3-14 ก.ค. ที่ประเทศอิตาลี
ยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ 20-27 ต.ค. ที่ประเทศเกาหลีเหนือ, ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก (รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์) ระหว่างวันที่ 16-27 ก.ย. ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี, ยกน้ำหนักสโมสรชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย เดือน พ.ย. (ยังไม่กำหนดสถานที่) และปิดท้ายด้วยมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-10 ธ.ค. ที่ประเทศฟิลิปปินส์
ขณะที่การแข่งขันภายในประเทศ จะเริ่มด้วยรายการอีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประเภทประชาชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 2-6 ก.พ. ที่ จ.เชียงใหม่ และรายการอีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประเภทยุวชน และประเภทเยาวชน ระหว่างวันที่ 15-25 มิ.ย. ที่ จ.ขอนแก่น
นอกจากนี้ ยังควบคุมมาตรฐานและรับรองผลการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ที่ จ.บุรีรัมย์, กีฬาโรงเรียนกีฬา ครั้งที่ 22 ที่ จ.ขอนแก่น และกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย ที่ จ.เชียงใหม่ ตลอดจนการจัดสัมมนาผู้ตัดสินและผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักด้วย
นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯกล่าวต่อว่า ต้องถือว่าภารกิจในปีนี้ค่อนข้างหนัก ทางคณะกรรมการบริหารฯ จะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ รวมทั้งกำชับผู้ฝึกสอน และนักกีฬาให้ปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้กีฬายกน้ำหนักของไทยรักษามาตรฐานให้อยู่ในระดับแถวหน้าของโลกต่อไป รวมทั้งจะพยายามคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 ให้ได้มากที่สุด โดยในส่วนของผู้หญิงน่าจะได้เต็ม 4 คน ส่วนผู้ชายคาดว่าจะมี 2-3 คน เป็นอย่างน้อย.