หน้าแรกแกลเลอรี่

ของขวัญปีใหม่

บี บางปะกง

1 ม.ค. 2561 05:01 น.

ก่อนอื่นคงต้องขอ “สวัสดีปีใหม่ พุทธศักราช 2561” ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ดลบันดาลให้แฟนๆกราวกีฬา ไทยรัฐทุกท่านจงประสบแต่โชคดี มีความสุข ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย ไร้ภยันตรายใดๆมาแผ้วพาน

“ปีจอ” หรือปีหมา เห่าโฮ่ง โฮ่ง ตามนักษัตรจีน มีการทำนายกันว่า จะเป็นปีแห่งความเงียบสงบ ราบเรียบ ไม่วุ่นวายว้าวุ่นเหมือนกับ “ปีระกา” ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เป็นปีแห่งการผ่อนคลาย ผู้คนมองหาความสงบ และสันโดษไม่ดิ้นรน ครอบครัวจะใกล้ชิดแนบสนิทกัน มากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญจะเป็นปีแห่งการทบทวนผลดีผลเสียของการกระทำที่ผ่านมา และใช้สติปัญญาตรึกตรองถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ดังนั้น ผมจึงสรุป (เอาเอง) ได้ว่า ปีนี้น่าจะเป็น ปีแห่งการเตรียมตัว เตรียมใจ ก่อนที่เราจะเจอกับ สิ่งแปลกใหม่ต่อไปในอนาคตข้างหน้า ซึ่งยากจะ คาดเดาจริงๆ เพราะโลกใบนี้กำลังอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง

เช่นเดียวกับสมาคมกีฬาขวัญใจมหาชนอย่าง “สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ” ที่ในช่วงหลังปีใหม่นี้มีแพลน ที่จะเรียก 18 สโมสรในศึกไทยลีก ฤดูกาลใหม่ 2018 มาประชุมหารือกันเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนซีซั่นจะเปิดในช่วงเดือนหน้า ก.พ.

ประเด็นที่จะพูดคุยกัน ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าเรื่องของจำนวนทีมในลีกสูงสุด ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่าทางสมาคมลูกหนังไทยมีนโยบายที่จะลดจำนวนทีมลงจาก 18 ทีม ให้เหลือ 16 ทีม ในฤดูกาลถัดไป

นั่นจึงทำให้ปีนี้จะต้องมีทีมกระเด็นตกชั้นลงไป ทีเดียวถึง 5 ทีม ดังนั้น ไทยลีกในซีซั่นใหม่จึงถูกขนานนามให้เป็น “นรกไทยลีก” ของแท้

โดยเฉพาะบรรดาทีมน้องใหม่ ทีมกลางตารางไปถึง โซนท้ายประเภทลูกผีลูกคนจะตกไม่ตกแหล่ถึงกับเดือดร้อนต้องดิ้นรนกันอย่างหนักหน่วงเลยล่ะครับ

เพราะปกติร่วงหล่นชั้น 3 ทีมก็แทบจะเอาตัว ไม่รอดอยู่แล้ว นี่จะเอาตกกันถึง 5 ทีม มันจะไปเหลืออะไร!

ยังดีครับ ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังคงเปิดช่องให้เรื่องนี้มีโอกาสทบทวนแก้ไขกันอีกรอบในการหารือเที่ยวนี้ โดยจะให้ทั้ง 18 ทีม ที่มีส่วนได้ ส่วนเสียโดยตรงได้ถกกันเพื่อหาจุดที่เหมาะสมของลีก สูงสุดว่าจะให้มีกี่ทีมกันแน่

ถ้าจะให้ยังมี 18 ทีมเหมือนเดิม ก็ต้องดูว่าเรื่อง โปรแกรมเตะจะรับกันได้หรือไม่ถ้าคิวยังแน่นแบบเดิม รวมถึงโปรแกรมทีมชาติที่ต้องให้เวลากันพอสมควรขณะที่ปีหน้ามีหลายทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญรออยู่

เรื่องนโยบายการลดไทยลีกให้เหลือ 16 ทีม ดูแล้วน่าจะเป็นไอเดียของสโมสรใหญ่ๆทั้งหลาย ที่มีอำนาจในการบริหารจัดการบอลลีกไทยอยู่ในยุคปัจจุบัน

ความจริงผมเองก็เคยเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับ นโยบายนี้ แต่ลืมคิดไปว่าองคาพยพของบอลลีกต้อง ยึดโยงผลประโยชน์ของทุกสโมสรอย่างเท่าเทียมกัน

บอลลีกไทยคงปราศจากสีสันถ้ามีแต่บิ๊กทีมที่เงินถุงเงินถังฟาดฟันกันตะพึด ไม่เปิดช่องทางให้ทีมเล็กได้มีโอกาสหายใจหายคอกันบ้าง

เรื่องนี้ถ้าจะให้ดีต้องให้ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในองค์กรอย่าง “นายกสมาคมฯ” ลงมารับฟังความคิดเห็นของทุกสโมสรอย่างทั่วถึง

ที่สำคัญต้องมีส่วนในการตัดสินบทสรุปสุดท้ายให้ชัดๆด้วยตัวเอง

ถือเป็น “ของขวัญปีใหม่” ชิ้นโต ที่คนเป็น ผู้นำพึงจะมอบให้ได้ถ้ารู้จักคิดเป็น!!!

บี บางปะกง