ภารกิจพาผีพลิกนรก

ยังสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องสำหรับ โอเล กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากพาทีม “ปิศาจแดง” เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ไป 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด
ทำให้ตอนนี้ “โซลชา” ยืดสถิติยังไม่แพ้ใครในลีกเป็น 12 นัดติดต่อกันแล้ว โดยชนะ 10 นัด เสมอ 2 นัด ตั้งแต่เข้ามาคุมทัพเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ไม่ใช่ใครจะทำได้ง่ายๆ
ข่าวแนะนำ
ถ้าหากนับรวมทั้งหมดตั้งโซลชา เข้ามาคุมทัพพาแมนฯยูลงเตะไปแล้ว 16 นัด ชนะ 13 นัด เสมอ 2 นัดและแพ้แค่นัดเดียว
สำหรับนัดที่แพ้นั้นก็เป็นเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่โดนปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกมาอัดพังพาบคารังโอลด์แทรฟเฟิร์ด 0-2 ซึ่ง โซลชาออกมายอมรับว่าสู้ไม่ได้ทุกกระบวนท่า
โดยในวันพุธที่ 6 มี.ค.นี้ “ปิศาจแดง” จะลงเตะนัดที่สองจะออกไปเยือน ปาร์ค เดอ แพรงส์ของ เปแอสเช เรียกได้ว่าเป็นงานหนักของ “โซลชา” จริงๆ
และจะถือว่าเป็นการพิสูจน์ฝีไม้ลายมือของกุนซือชาวนอร์เวย์วัย 46 ปีว่าจะสามารถพา “ปิศาจแดง” พลิกเข้ารอบต่อไปได้หรือไม่
ในฐานะแฟนบอล “ปิศาจแดง” บอกตรงๆ ยากมากที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
เนื่องจากสถิติในประวัติศาสตร์ของการแข่ง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่ผ่านมา ไม่เคยมีทีมไหนที่แพ้ในรอบน็อกเอาต์ด้วยผลต่าง 2 ลูกขึ้นไปคาบ้านของตัวเองในเกมแรก แล้วพลิกกลับมาผ่านเข้ารอบได้เลยสักครั้ง
โดยก่อนหน้านี้มี 34 ทีมที่แพ้ 2 ลูกขึ้นในบ้านตัวเอง ไม่มีใครหลุดรอดเข้าสู่รอบต่อไปได้เลยแม้แต่ทีมเดียว ถ้าหากดูจากสถิติที่ผ่านมา โอกาสที่ “ปิศาจแดง” จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปนั้นแทบจะเป็นศูนย์
แถมตอนนี้สถานการณ์ของแมนฯยูก็ ค่อนข้างย่ำแย่พอสมควรตัวหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น เนมันยา มาติช, อันเดร์ เอร์เรรา, แอนโธนี มาร์กเซียล, เจสซีย์ ลินการ์ด, ฆวน มาตา เจ็บทั้งหมด แถมล่าสุดต้องมาเสียตัวของอเล็กซิส ซานเชซ กองหน้าจอมพลิ้วชาวชิลีที่พอจะฝากความหวังในการสร้างเกมรุกไปอีกราย
ขณะเดียวกัน ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสติดโทษแบนหลังจากโดนไล่ออกในเกมแรกทำให้ไม่มีชื่ออยู่ในทีม เรียกได้ว่าทัพ “ปิศาจแดง” ที่จะเหินพาไปกรุงปารีส ของฝรั่งเศส นั้นเรียกได้ว่าสภาพแทบจะพิการเลยทีเดียว
แม้ว่าเปแอสเชยังไม่มีเอดิสัน คาวานี กับเนย์มาร์ 2 แนวรุกคนสำคัญเหมือนในเกมแรก แต่เพียงแค่คิเลียน เอ็มบัปเป กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสเพียงแค่คนเดียวก็น่าจะป่วนแนวรับของ “ปิศาจแดง” ได้เหมือนเคย
เมื่อเทียบสภาพผู้เล่นแล้ว “ปิศาจแดง” เป็นรองปารีส แซงต์ แชร์กแมง อยู่หลายช่วงตัว
สุดท้ายก็ต้องมาวัดกันที่กึ๋นของกุนซือว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา จะร่ายคาถาเวทมนต์วิเศษออกมาได้เหมือนกับทำในศึกพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่
เมื่อปี 1999 ในรอบชิงชนะเลิศ โซลชา ยิงประตูชัยพา “ปิศาจแดง” กลับมาชนะ
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก 2-1 ในช่วงนาทีสุดท้ายคว้าแชมป์มาครองในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ
อีก 20 ปีถัดมา โซลชาอาจจะพา “ปิศาจแดง” พลิกนรกกลับมาอีกครั้งก็เป็นได้!!
มะระหวาน