JUPITER
เกมพรีเมียร์ลีกที่สนามคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม จบลงไปแบบครบทุกรสชาติจริงๆ โดยเฉพาะเดอะ ค็อป ที่ลุ้นกันใจหายใจคว่ำ กว่าจะได้ 3 แต้มเต็มกลับบ้าน...
ถ้าใครดูเกมถ่ายทอดสด จะเห็นเลยว่า ลิเวอร์พูลเหนือกว่าเยอะ และเลสเตอร์ไม่มีพิษสงที่จะสร้างความยากลำบากอะไรได้เลยสักนิดเดียว เหมือนกับมีปืนในมือแต่ไม่มีลูกกระสุน
แต่เกมกลับมาสูสีเพราะ "อลิสสัน เบคเกอร์" นายทวารเคราดก มือ 1 หงส์แดง คนปัจจุบัน กลับหยิบยื่นกระสุนให้คู่แข่งซะงั้น
หงส์แดงได้ 2 ประตูในครึ่งแรก จาก ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน แต่ฟอร์มโดยรวมยังไม่เปรี้ยงปร้างมากนัก
แต่ในครึ่งหลัง เลสเตอร์ที่มีแต่ปืนไร้กระสุน ก็ได้รับของดีจากอลิสสัน ที่ทำพลาดด้วยการถูกแย่งบอลไปจากเท้า แทนที่จะเตะทิ้งออกมาก็จบแล้ว ส่งผลให้เลสเตอร์ได้ประตูตีไข่แตก และเปิดซิงตาข่ายหงส์แดงได้สำเร็จเป็นทีมแรก
นั่นคงเป็นบทเรียนให้นายทวารแซมบ้าได้พึงสำเหนียกว่า อย่าประมาทคู่แข่ง และอย่ามั่นใจตัวเองเกินเหตุ ที่สำคัญ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มันต่างจาก เซเรีย อา อิตาลี หลายขุม
แม้เจ้าตัวจะเลิกเล่นแบบนี้ไม่ได้ แต่คงจะช่วยให้มันเกิดขึ้นน้อยลงได้อย่างแน่นอน หรือถ้าอยากเล่นมากนัก ก็รอให้ทีมนำห่างสักสามสี่ลูกก่อน คงไม่มีใครว่า
ท้ายที่สุดแล้ว ทีมชนะ ได้ 3 แต้มออกจากรังจิ้งจอก ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม จนอาจมองข้ามความผิดพลาดของอลิสสันไปได้นิดหน่อย แถมยังเป็นการชนะ 4 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่นัดเปิดสนาม ได้เป็นครั้งแรกที่ใช้ชื่อพรีเมียร์ลีก แทนที่ดิวิชั่น 1
ด้วยฟอร์มแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไม่แพ้ก็เสมอ แต่ในปัจจุบัน กับผลที่น่าจะแพ้หรือเสมอ ดันกลับชนะ ก็อาจจะบ่งบอกอะไรบางอย่างได้บ้าง
หลังจากจบนัดที่ 4 จะมีหยุดพัก 2 สัปดาห์ เพื่อให้นักเตะกลับไปรับใช้ชาติ ก่อนจะกลับมาเตะนัดที่ 5 ในวันเสาร์ที่ 15 กันยายน
ซึ่งในนัดดังกล่าว จะเป็นเกมบิ๊กแมตช์ โดยหงส์แดงจะบุกไปเยือนเล้าไก่เดือยทอง สเปอร์ส เตะเวลา 18.30 น. เหมือนเดิม ถือเป็นเกมสำคัญที่จะชี้วัดเลยว่า หงส์แดงแกร่งพอที่จะลุ้นแชมป์หรือยัง
เมื่อถึงวันนั้น ภาวนาอย่าให้แข้งตัวหลักกลับมาจากภารกิจทีมชาติด้วยอาการเจ็บ เป็นของกำนัลก็แล้วกัน
JUPITER