สิ้นสุดการรอคอยกว่า 40 เดือน สำหรับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผงาดกลับมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังบุกไปสอย เบิร์นลีย์ 1–0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด
โดย “ปิศาจแดง” ขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงล่าสุดในวันที่ 9 ก.ย. ปี 2017 ตอนสมัยที่โจเซ มูรินโญ กุนซือชาวโปรตุกีสคุมทัพอยู่
ข่าวแนะนำ
หากย้อนกลับไปเมื่อ 8 สัปดาห์ก่อนหากใครจะพูดว่า “ปิศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ด จะขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงก็คงมีแต่คนขำให้
ยิ่งสถานการณ์ในช่วงกลางเดือนกันยายน มาถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ลงเตะเกมลีกไปทั้งหมด 6 นัด แมนฯยูไนเต็ด ชนะแค่ 2 เกม แพ้ 3 นัดเสมอ 1 นัด
หลังจากเกมที่ “ปิศาจแดง” แพ้อาร์เซนอล 0-1 ตอนนั้นโอเล กุนนาร์ โซลชา อยู่ในสถานการณ์เก้าอี้ร้อนแบบสุดๆ จะโดนเด้งเมื่อไรก็ยังไม่รู้
แต่เกมถัดมาคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ แมนฯ ยูไนเต็ด คืนฟอร์มบุกไปทุบ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน คาถิ่น 3-1 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 11 นัด “ปิศาจแดง” ยังสะกดคำว่าพ่ายแพ้ไม่เป็น ชนะถึง 9 เกม เสมอ 2 นัด
ส่วนหนึ่งของการที่แมนฯยูไนเต็ด กลับมาคืนฟอร์มเก่ง ก็เพราะโอเล กุนนาร์ โซลชา เริ่มหาระบบที่เข้ากับทีมได้อย่างเป็นที่เรียบร้อย
โดยปรับมาเล่นระบบ 4-4-2 แบบไดมอนด์ สลับกับ 4-2-3-1 จน “ผีแดง” กลับมาเล่นอย่างลงล็อกมากที่สุด
เท่านั้นยังไม่พอมาช่วงจังหวะที่แนวรับอย่าง แฮร์รี แมคไกวร์ กับวิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่กลับมาเล่นเข้าขากันและไม่มีอาการเหวอให้เห็นเหมือนช่วงต้นฤดูกาล เช่นเดียวกับดาวิด เด เคอา จอมหนึบทีมชาติสเปนที่กลับมาเซฟได้เหนียวหนึบอีกครั้ง
นอกจากนั้นการกลับมาคืนฟอร์มเก่งของ เฟร็ด กองกลางทีมชาติบราซิล และสกอตต์ แมคโทมิเนย์ มิดฟิลด์ร่างยักษ์ชาวสกอต ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมดีขึ้นเช่นกัน
แต่ที่ผู้เขียนคิดว่าเป็นคีย์แมนหลักที่ทำให้ “ปิศาจแดง” กลับมาเจิดจ้าไม่นับบรูโน แฟร์นันเดส มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสที่ขึ้นหิ้งไปแล้วกลายเป็นคนที่แมนฯยูไนเต็ด ขาดไม่ได้แล้ว
นั่นก็คือการกลับมาฟิตเปรี๊ยะของปอลป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกอีกครั้ง
ป็อกบาถือว่าเป็นนักเตะที่มีชั้นเชิงเข้าขั้นนักเตะระดับ “เวิลด์คลาส” คนหนึ่ง แต่ช่วงที่ผ่านมาอาจจะฟอร์มหลุดจนกู่ไม่กลับ เพราะมีแต่เรื่องวุ่นวายนอกสนาม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวเอง หรือแม้กระทั่งเอเย่นต์ตัวแสบมิโน ไรโอลา เอเย่นต์จอมเขี้ยวลากดินที่มักจะสร้างเรื่องการย้ายทีมของอดีตกองกลางยูเวนตุสอยู่เสมอ
แต่หลังจากกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง เริ่มตั้งใจซ้อม เพื่อจะยึดตัวจริงกลับมา และไม่มีการว่อกแว่กเรื่องนอกสนามอีกเลย
จนทำให้ป็อกบาฟิตเปรี๊ยะกลับมาอีกครั้งและเจ้าตัวก็สามารถเค้นฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้ง
เชื่อว่าตอนนี้ป็อกบาก็กลายเป็นอีกคนที่ “ปิศาจแดง” ขาดไม่ได้นอกจากบรูโน แฟร์นันเดส
แม้ว่าตอนนี้เพิ่งจะผ่านไปแค่ 17 นัด การพูดถึงเรื่อง “ปิศาจแดง” คว้าแชมป์ก็คงจะมากเกินไปเพราะหนทางยังอีกยาวไกล
เพราะนัดต่อไป “ปิศาจแดง” ก็ต้องเจอกับของแข็งอย่างลิเวอร์พูล แชมป์เก่า ในวันที่ 17 ม.ค.นี้
ถ้าหาก “โอเล่” สามารถพาแมนฯยูไนเต็ด บุกไปเก็บ 3 แต้มกลับออกมาจากถิ่นแอนฟิลด์ได้
น่าจะก้าวเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว!!
มะระหวาน