9 วัน 4 ประเทศ "ประธานาธิบดีทรัมป์" เดินหน้าลงนาม MOU-กรอบความร่วมมือ "แรร์เอิร์ธ" หวังกระจายห่วงโซ่อุปทาน ลดการพึ่งพา "จีน" ผู้เป็นเจ้าตลาด
ภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในกรอบความร่วมมือและ MOU ที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก “แรร์เอิร์ธ” ปรากฏบนหน้าข่าวถี่ยิบในช่วงที่ผ่านมา โดยในช่วง 9 วันมานี้ มีการลงนามไปแล้วกับ 4 ประเทศ รวมถึง “ประเทศไทย” โดยความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลัง “ประเทศจีน” ซึ่งเป็นผู้ครองตลาดแร่หายากได้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกและใช้ทรัพยากรเหล่านี้เป็นเครื่องมือต่อรองกับนานาชาติ
ออสเตรเลีย
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.68 ประธานาธิบดีทรัมป์ และแอนโทนี อัลบาเนซี นายกฯ ออสเตรเลีย ได้ร่วมลงนามใน “กรอบความร่วมมือ” (Framework) ชื่อว่า กรอบความร่วมมือสหรัฐฯ และออสเตรเลีย เพื่อประกันความมั่นคงด้านวัตถุดิบในด้านการทำเหมืองและแปรรูปแร่ธาตุสำคัญและแรร์เอิร์ธ
...
บางส่วนของกรอบความร่วมมือดังกล่าว ระบุว่า วัตถุประสงค์ของทั้งสองประเทศ คือการช่วยเหลือกันสร้างความยืดหยุ่นและความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญและแรร์เอิร์ธ ซึ่งรวมถึงการทำเหมือง, การแยก, และการแปรรูป โดยใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานที่มีอยู่ภายในประเทศรวมถึงกำลังการผลิตใหม่ที่จะมีในปี 2026
สหรัฐฯ และออสเตรเลีย จะร่วมมือกันเร่งจัดหาแร่ที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง, ปรับปรุงกฎระเบียบ, กำหนดมาตรฐานการค้าและราคาขั้นต่ำ โดยใน 6 เดือนแรก จะมีการคัดเลือกโครงการแรร์เอิร์ธที่น่าสนใจ และจะมีการออกมาตรการจัดหาเงินทุนอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์ (3.2 หมื่นล้านบาท) ให้กับโครงการที่ตั้งอยู่ในทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) รายงานว่า ในปี 2024 ออสเตรเลียผลิตแร่แรร์เอิร์ธ 13,000 ตัน REO และมีแร่สำรองอยู่มากกว่า 5,700,000 ตัน REO (อ่านฉบับเต็ม)
ไทย
วันที่ 26 ต.ค.68 ประธานาธิบดีทรัมป์ และอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ไทย ได้ร่วมลงนามใน “บันทึกความเข้าใจ” (MOU) ชื่อว่า บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลไทยว่าด้วยความร่วมมือเพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญของโลก และส่งเสริมการลงทุน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า MOU ดังกล่าวไม่มีผลทางกฎหมาย โดยต้องการส่งเสริมการค้า การลงทุนในอุตสาหกรรมการสำรวจ, การสกัด, การแปรรูป, การกลั่น, การรีไซเคิล, การกู้คืน และการดูแลรักษาแร่หายาก เน้นสนับสนุนการลงทุนที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และอุตสาหกรรมการสกัด, สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ตลาด คือ การทำให้แร่หายากนำออกมาใช้สู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ปลอดภัย, โปร่งใส
สำหรับใน MOU ระบุขอบเขตความร่วมมือ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล, ความรู้, และความเชี่ยวชาญทางเทคนิค, ให้ความสำคัญกับแนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบที่ดี ทั้งการออกใบอนุญาต และการลดขั้นตอน รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลที่อาจเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด และคุ้มครองตลาด โดยการอิงกลไกตลาด และการปฏิบัติทางการค้าอย่างเป็นธรรม (อ่านฉบับเต็ม)
...
มาเลเซีย
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.68 ประธานาธิบดีทรัมป์ และอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ได้ร่วมลงนามใน “บันทึกความเข้าใจ” (MOU) ชื่อว่า บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลมาเลเซียว่าด้วยความร่วมมือเพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญของโลกและส่งเสริมการลงทุน
ส่วนหนึ่งในขอบเขตความร่วมมือตาม MOU ระบุว่า ทั้งสองประเทศจะแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแร่หายากของมาเลเซีย สนับสนุนโครงการทวิภาคีที่ส่งเสริมความมั่นคงและยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานแร่ ซึ่งแต่ละประเทศอาจพิจารณาว่าโครงการใดเหมาะสมสำหรับการลงทุน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศจะทำงานด้วยความสุจริตใจเพื่อจัดลำดับความสำคัญการลงทุนจากสหรัฐอเมริกาในแร่หายากที่อาจมีการขายในมาเลเซีย (อ่านฉบับเต็ม)
...
ญี่ปุ่น
วันที่ 28 ต.ค.68 ประธานาธิบดีทรัมป์ และซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ ญี่ปุ่น ได้ร่วมลงนามใน “กรอบความร่วมมือ” (Framework) ชื่อว่า กรอบความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น เพื่อประกันความมั่นคงในการจัดหาแร่สำคัญและแรร์เอิร์ธ ผ่านการทำเหมืองและการแปรรูป
บางส่วนของกรอบความร่วมมือดังกล่าว ระบุว่า ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในการจัดหาแร่ที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมในประเทศ โดยจะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือนโยบายต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนทางการเงินของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น การจัดตั้งระบบคลังสำรองแร่สำคัญ
ใน 6 เดือนแรกจะมีการคัดเลือกโครงการที่น่าสนใจที่จะช่วยแก้ช่องว่างห่วงโซ่อุปทานแร่ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์อนุพันธ์แร่ (Derivative products) เช่น แม่เหล็กถาวร แบตเตอรี่ ตัวเร่งปฏิกิริยา และวัสดุออพติคอล และออกมาตรการเพื่อสนับสนุนด้านการเงินให้โครงการเหล่านี้ เพื่อผลิตสินค้าขั้นสุดท้าย (end product) ให้กับผู้ซื้อในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น หรือประเทศที่มีความคิดคล้ายกันตามความเหมาะสม (อ่านฉบับเต็ม)
...
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ค. 2568 ประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้ลงนามในข้อตกลง เพื่อจัดตั้งกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟูสหรัฐอเมริกา-ยูเครน (United States-Ukraine Reconstruction Investment Fund) กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ เข้าถึงแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน
ขณะที่ในการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ในตอนหนึ่งของ ข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐฯ และกัมพูชา (Agreement on Reciprocal Trade) ระบุว่า กัมพูชาจะอนุญาตและอำนวยความสะดวกแก่การลงทุนของสหรัฐฯ ในกิจการด้านการสำรวจ ทำเหมือง สกัด กลั่น แปรรูป ขนส่ง จัดจำหน่ายและการส่งออกแร่ธาตุสำคัญและทรัพยากรพลังงาน และจัดหาบริการด้านพลังงาน โทรคมนาคม การขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐาน ให้กับผู้ลงทุนของสหรัฐฯ ไม่น้อยไปกว่าที่ให้กับผู้ลงทุนของตนเอง และจะกำกับดูแลการลงทุนดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ต้องจับตาการพบกันระหว่าง ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน ในการประชุมเอเปค ที่เกาหลีใต้ ในวันที่ 30 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าประเด็นแรร์เอิร์ธจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยด้วยเช่นกัน
อ้างอิง : WHITEHOUSE