ไทม์ไลน์ "เกาหลีใต้" เดินหน้าแก้ปัญหาประชาชนถูกหลอกทำงานแก๊งคอลฯ แนะห้ามเดินทางไปกัมพูชา - เตรียมจัดตั้ง "Korean Desk" ส่งตำรวจไปประจำการ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกาหลีใต้ วางแผนตั้ง "Korean Desk" หรือตำรวจหน่วยพิเศษ ประจำการในสถานีตำรวจกัมพูชา เพื่อช่วยดูแลคดีความที่เกี่ยวข้องกับชาวเกาหลีใต้ หนึ่งในมาตรการแก้ปัญหาชาวเกาหลีใต้ ถูกหลอกไปทำงานสแกมเมอร์ในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง
ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้พบว่า ในปี 2025 (เดือน ม.ค.-ส.ค.) มี พลเมืองชาวเกาหลีถูกหลอกไปทำงานสแกมเมอร์และถูกคุมขังโดยไม่สมัครใจในประเทศกัมพูชา กว่า 330 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากรายงาน 17 รายในปี 2022 และ 220 ราย ในปี 2024
กรกฎาคม 68 : เตือนถูกหลอกทำงาน
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนระวังประกาศรับสมัครงานในต่างประเทศ ที่โฆษณาว่าจะให้ค่าตอบแทนสูง เสนอออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ โดยให้ยืนยันความน่าเชื่อถือกับหน่วยงานทางการท้องถิ่นก่อนและห้ามเซ็นสัญญาใดๆ ที่ตนไม่เข้าใจเนื้อหา
...
สิงหาคม 68 : นักศึกษาหนุ่มถูกทรมานดับ
ต่อมาเกิดข่าวใหญ่ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.68 นายพัค นักศึกษาหนุ่มชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปี ถูกพบเป็นศพ ใน จ.กัมปอต ประเทศกัมพูชา 3 สัปดาห์หลังจากที่หนุ่มรายนี้ได้แจ้งพ่อแม่ว่าจะมาร่วมมหกรรมหางาน (Job Expo) ที่กัมพูชา แต่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ ถูกยึดโทรศัพท์และพาสปอร์ต และเรียกค่าไถ่จากครอบครัว 50 ล้านวอน (ราว 1.2 ล้านบาท) โดยทางตำรวจแนะนำไม่ให้ครอบครัวจ่ายเงินค่าไถ่ และประสานงานไปยังสถานทูตเกาหลีใต้ในกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยได้เพราะไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
การสืบสวนในภายหลังพบว่านายพัค ถูกพาตัวไปที่ศูนย์สแกมเมอร์ในเมืองกัมปอต ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของแก๊งอาชญากรชาวจีนกว่า 20 กลุ่ม และมีการคุมขังเหยื่อกว่า 2 หมื่นคน โดยถูกคุมขังและทรมานอย่างหนัก ในใบรับรองการเสียชีวิตระบุว่า สาเหตุจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากการถูกทรมาน
ในเดือนเดียวกันตำรวจกัมพูชาได้จับผู้ต้องสงสัยชาวจีนรวม 3 คนและดำเนินการสอบสวน รวมถึงขยายผลช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ 14 คน ที่ถูกจับตัวไว้ในอาคารเดียวกัน ขณะนี้ผ่านมาเกือบ 2 เดือน แต่ทางครอบครัวของนายพัคยังไม่ได้รับศพลูกชาย เนื่องจากทางตำรวจกัมพูชาอ้างว่าการชันสูตรไม่แล้วเสร็จ
ตุลาคม 68 : เตรียมจัดตั้ง "Korean Desk"
ต่อมาในช่วงต้นเดือนตุลาคม ตำรวจกัมพูชาได้ช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ 2 คนในพื้นที่สีหนุวิลล์ โดยทั้งคู่เผยว่าถูกหลอกมาทำงานสแกมเมอร์ ถูกข่มขู่และทำร้ายร่างกาย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ทำให้ทางการเกาหลีใต้ได้ยกระดับ คำเตือนการเดินทางพิเศษ (special travel advisory) สำหรับการเดินทางไปกรุงพนมเปญ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ในคืนวันที่ 11 ต.ค. ประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้ ได้ออกมาให้คำมั่นว่าจะยกระดับการคุ้มครองประชาชน โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทุ่มเทความพยายามทางการทูตอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องพลเมืองเกาหลีใต้จากอาชญากรรมในกัมพูชา
ด้านนายโจ ยง-ซล โฆษกพรรคพลังประชาชนเกาหลีใต้ (PPP) พรรคแกนนำฝ่ายค้าน ก็ได้ออกมาเรียกให้รัฐบาลดำเนินอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหาลักพาตัวชาวเกาหลี แนะว่าแทนที่จะพึ่งพาช่องทางการทูต รัฐบาลเกาหลีใต้ควรส่งตำรวจลงพื้นที่ ร่วมมือกับอินเตอร์โพลและเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น
ในวันที่ 13 ต.ค. นายยู แจ-ซอง รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (KNPA) เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างตำรวจเกาหลีและตำรวจกัมพูชา “ไม่ค่อยราบรื่นนัก” หากเทียบกับประเทศอื่นๆ
นายยู แจ-ซอง ระบุว่า ทาง KNPA พยายามยื่นขอความร่วมมือในการสืบสวนอย่างเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงการขอเข้าร่วมการชันสูตรศพนักศึกษาที่เสียชีวิต รวมถึงขอเข้าถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ทางกัมพูชาระบุว่าคำร้องขอนี้ต้องดำเนินการผ่านความร่วมมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและต้องได้รับการเห็นชอบจากกระทรวงยุติธรรมของทั้งสองประเทศอย่างเป็นทางการ
...
นายยู แจ-ซอง ยังระบุด้วยว่า เป็นไปได้ยากในการประสานความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ หากอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ แต่ทาง KNPA จะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ ทั้งช่องทางการเยือน ช่องทางระหว่างประเทศ และการกดดันทางการทูต
“หากมีช่องทางกดดันผ่านองค์กร อย่างเช่น อินเตอร์โพล เราก็จะดำเนินการ”
ทาง KNPA เตรียมเสนอให้มีการจัดตั้ง "Korean Desk" หรือหน่วยเจ้าหน้าที่พิเศษชาวเกาหลีใต้ ประจำการที่สถานีตำรวจในกัมพูชา เพื่อช่วยเหลือดูแลคดีของชาวเกาหลี ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานตำรวจกัมพูชา ในการประชุมทวิภาคี 23 ต.ค.ที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกันวันที่ 13 ต.ค.มีรายงานว่า ทางการกัมพูชาได้ตั้งข้อหาฆาตกรรม แก่ 3 สมาชิกแก๊งอาชญากรชาวจีน ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนักศึกษาหนุ่มซึ่งจับกุมไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันนี้ (14 ต.ค.) มีรายงานว่า กมธ.กิจการต่างประเทศและการรวมชาติของรัฐสภาเกาหลีใต้ วางแผนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ประเทศกัมพูชาในสัปดาห์หน้า โดยนัดหารือที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ณ กรุงพนมเปญ ในวันที่ 22 ต.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์การหลอกลวงไปทำงาน และอาชญากรรมอื่นๆ ที่มุ่งเป้าชาวเกาหลี
...
อ้างอิง : straitstimes, koreaherald, straitstimes, koreajoongangdaily