เปิด 20 ข้อเสนอ แผนสันติภาพกาซา ฉบับล่าสุดของ "ทรัมป์" หยุดยิงปล่อยตัวประกันทันที ตั้งคณะกรรมการสันติภาพดูแลการเปลี่ยนผ่าน ทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ   

วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยแผนสันติภาพ 20 ข้อ เพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา หลังการพบปะหารือกับนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ที่ทำเนียบขาว ซึ่งทางผู้นำอิสราเอลได้ตอบตกลงข้อเสนอดังกล่าวแล้ว พร้อมระบุว่า 

"หากฮามาสปฏิเสธแผนของท่านประธานาธิบดี หรือตอบตกลงแต่กระทำการที่ขัดกับข้อตกลงนั้น อิสราเอลจะเป็นผู้จบงานนี้ด้วยตัวเอง" 

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เตือนกลุ่มฮามาสว่า หากปฏิเสธข้อเสนอนี้ อิสราเอลจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการดำเนินมาตรการใดๆ ก็ตามที่เห็นว่าจำเป็น 

อย่างไรก็ดีขณะนี้ (30 ก.ย.) ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการจากกลุ่มฮามาส โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดว่า ทางทีมเจรจาของฮามาสกำลังพิจารณาข้อเสนออย่างจริงใจก่อนให้คำตอบ  

...

ทำเนียบขาว ได้เผยแพร่ 20 ข้อเสนอ ในแผนสันติภาพของทรัมป์ ดังนี้ 

ยุติสงครามทันที 

1. กาซาต้องเป็นเขตปลอดการก่อการร้าย และไม่เป็นภัยคุกคามต่อเพื่อนบ้าน

2. กาซาจะได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในกาซา ที่ได้รับความทุกข์ทรมานมามากเกินพอแล้ว

3. ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบในข้อตกลงนี้ สงครามจะยุติทันที กองกำลังอิสราเอลจะถอนกำลังกลับไปอยู่ในแนวที่ตกลงกันไว้เพื่อเตรียมรับการปล่อยตัวประกัน ในระหว่างนี้ ปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่จะถูกระงับทั้งหมด และแช่แข็งเส้นแนวหน้าการปะทะเอาไว้ ณ จุดเดิม จนกว่าจะบรรลุเงื่อนไขสำหรับการถอนกำลังตามขั้นตอนอย่างสมบูรณ์

4. ภายใน 72 ชั่วโมงหลังอิสราเอลยอมรับข้อตกลงอย่างเปิดเผย ตัวประกันทั้งหมด ทั้งที่ยังมีชีวิตและเสียชีวิตจะต้องถูกส่งกลับ

5. เมื่อปล่อยตัวประกันทั้งหมด ทางการอิสราเอลจะปล่อยนักโทษจำคุกตลอดชีวิต 250 คน และชาวกาซาอีก 1,700 คน ที่ถูกควบคุมตัวนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 รวมถึงเด็กและผู้หญิงที่ถูกควบคุมตัวในบริบทนั้นด้วย สำหรับทุกๆ ร่างของตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกส่งกลับ อิสราเอลจะส่งมอบร่างชาวกาซาที่เสียชีวิตคืน 15 ราย

6. เมื่อตัวประกันทั้งหมดถูกปล่อยตัว สมาชิกกลุ่มฮามาสที่มุ่งมั่นจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติและยอมปลดอาวุธจะได้รับการนิรโทษกรรม และสมาชิกคนใดที่ต้องการออกจากกาซาจะได้รับการรับรองความปลอดภัยในการเดินทางไปยังประเทศปลายทางที่รับตัว

7. เมื่อมีการเห็นชอบข้อตกลงนี้ ความช่วยเหลือทั้งหมดจะถูกส่งไปที่ฉนวนกาซาทันที อย่างต่ำคือสัดส่วนความช่วยเหลือตามข้อตกลงวันที่ 19 ม.ค. 2568 ว่าด้วยความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ซึ่งรวมถึงการฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐาน (ประปา ไฟฟ้า ระบบบำบัดของเสีย) ฟื้นฟูโรงพยาบาล ร้านขนมปัง และเปิดทางให้เครื่องมือที่จำเป็นเข้าไปกำจัดซากปรักหักพังและคืนพื้นผิวถนน

8. การแจกจ่ายความช่วยเหลือในกาซาจะดำเนินการโดยไม่มีการแทรกแซงจากทั้ง 2 ฝ่าย ผ่านองค์การสหประชาชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสภากาชาด รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เปิดทางข้ามแดนราฟาร์ในทั้ง 2 ฝั่ง ตามกลไกภายใต้ข้อตกลงวันที่ 19 ม.ค. 2568


ฟื้นฟูกาซา

9. กาซา จะอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลชั่วคราวของคณะกรรมการปาเลสไตน์ที่เป็นผู้เชียวชาญและไม่ฝักใฝ่การเมือง รับผิดชอบงานบริการสาธารณะและการบริหารส่วนท้องถิ่น โดยคณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยชาวปาเลสไตน์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ 

โดยจะได้รับการกำกับดูแลและแนะนำจากองค์กรเปลี่ยนผ่านระหว่างประเทศชุดใหม่ ชื่อว่า “คณะกรรมการแห่งสันติภาพ”(Board of Peace) ที่มีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธาน และนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกฯ สหราชอาณาจักร รวมถึงสมาชิกและผู้นำประเทศอื่นๆ ซึ่งจะประกาศในภายหลัง  

คณะกรรมการชุดนี้จะกำหนดกรอบการทำงาน และจัดหางบประมาณในการพัฒนาพื้นที่กาซา จนกว่าองค์การบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian Authority : PA) จะสามารถบรรลุเป้าหมายการปฏิวัติได้ตามเค้าโครงและข้อเสนอก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงแผนสันติภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ในปี 2563 และข้อเสนอซาอุดีอาระเบีย-ฝรั่งเศส จนสามารถกลับมาปกครองกาซาได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ โดยคณะกรรมการจะดำเนินการตามมาตรฐานสากลที่ดีที่สุดเพื่อสร้างการบริหารจัดการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในการรับใช้ชาวกาซาและเอื้อต่อการดึงดูดการลงทุน

...

 10. แผนพัฒนาเศรษฐกิจของทรัมป์ในการกระตุ้นและฟื้นฟูกาซา จะถูกจัดทำขึ้นโดยความร่วมมือของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเคยมีส่วนช่วยสร้างเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองของหลายเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลาง กลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติซึ่งมีเจตนาดีจะร่างข้อเสนอการลงทุนที่รอบคอบรวมถึงแผนการพัฒนาที่น่าสนใจ และจะถูกนำมาพิจารณาและบูรณาการร่วมกับกรอบทำงานด้านความมั่นคงและการบริหารภาครัฐ เพื่อดึงดูดการลงทุนที่จะสร้างงาน โอกาส และความหวังสำหรับอนาคตของกาซา

11. จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยจะมีการเจรจาภาษีและเงื่อนไขการเข้าถึงตลาดแบบพิเศษกับประเทศที่เข้าร่วม

ส่งกองกำลังเข้าไปดูแล

12. จะไม่มีใครถูกบังคับให้ออกจากฉนวนกาซา สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางออกสามารถทำได้และกลับเข้ามาได้อย่างอิสระ โดยส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ต่อและจะเสนอโอกาสในการร่วมสร้างฉนวนกาซาให้ดีขึ้น

13. ฮามาส และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องตกลงว่าจะไม่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารฉนวนกาซา ไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม หรือในรูปแบบใดๆ โดยโครงสร้างพื้นฐานทางการทหาร การก่อการร้าย และการโจมตี ซึ่งรวมถึงอุโมงค์และโรงงานผลิตอาวุธจะต้องถูกทำลายทั้งหมดและไม่กลับมาสร้างใหม่ โดยจะมีกระบวนการปลดอาวุธอย่างถาวรในกาซาภายใต้การกำกับดูแลของผู้ตรวจสอบอิสระ  

...

14. พันธมิตรในภูมิภาคจะช่วยรับประกันว่าฮามาส และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง จะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ และฉนวนกาซาโฉมใหม่จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศเพื่อนบ้านหรือประชาชนของตนเอง

15. สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับพันธมิตรอาหรับและนานาชาติ ในการพัฒนา กองกำลังรักษาเสถียรภาพชั่วคราว (International Stabilization Force : ISF) เข้าไปประจำการในกาซา เพื่อฝึกอบรมและสนับสนุนกองกำลังตำรวจปาเลสไตน์ที่ผ่านการตรวจสอบ และจะหารือกับจอร์แดนและอียิปต์ซึ่งมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ เพื่อให้กองกำลังนี้เป็นทางออกด้านความมั่นคงภายในกาซาในระยะยาว

ISF จะทำงานร่วมกับอิสราเอลและอียิปต์ในการดูแลความมั่นคงบริเวณชายแดนร่วมกับตำรวจชาวปาเลสไตน์ที่ผ่านการฝึกใหม่ โดยสิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้มีอาวุธเล็ดรอดเข้ามาในพื้นที่ และอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าที่รวดเร็วและปลอดภัยเพื่อสร้างและฟื้นฟูกาซา โดยจะมีการจัดตั้ง “กลไกการป้องกันความขัดแย้ง” (deconfliction mechanism) ที่ทุกฝ่ายตกลงร่วมกัน 

16. อิสราเอลจะไม่เข้ายึดครองหรือผนวกฉนวนกาซา เมื่อ ISF สามารถควบคุมสถานการณ์และสร้างเสถียรภาพได้ กองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกจากพื้นที่ตามมาตรฐาน หมุดหมาย และกรอบเวลาที่เชื่อมโยงกับกระบวนการปลดอาวุธ ซึ่งจะมีการตกลงร่วมกันระหว่างกองทัพอิสราเอล ISF สหรัฐฯ ประเทศผู้รับรองอื่นๆ ด้วยเป้าหมายให้กาซามีความมั่นคง ไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล อียิปต์ และประชาชนของตนเอง

ในทางปฏิบัติ กองทัพอิสราเอลจะทยอยส่งมอบดินแดนที่เข้ายึดครองในฉนวนกาซาให้กับ ISF ตามข้อตกลง จนกว่าจะถอนกำลังออกจากกาซาโดยสมบูรณ์ ยกเว้นพื้นที่ความมั่นคงรอบนอกที่ยังคงอยู่จนกว่ากาซาจะปลอดภัยจากภัยคุกคามการก่อร้ายที่อาจกลับมาอีกครั้ง

...


17. หากฮามาสชะลอหรือปฏิเสธข้อเสนอนี้ ข้อเสนอข้างต้น ซึ่งรวมถึงการเพิ่มความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม จะดำเนินการต่อในพื้นที่ปลอดการก่อการร้าย ซึ่งจะถูกส่งมอบจากกองทัพอิสราเอลให้กับ ISF

18. จัดตั้งกระบวนการเจรจาระหว่างศาสนา (Interfaith Dialogue) โดยยึดหลักคุณค่าของความอดทนอดกลั้นและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อพยายามเปลี่ยนทัศนคติและมุมมองของชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล โดยเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากสันติภาพ

19. ระหว่างที่การพัฒนากาซาและการปฏิรูปขององค์การบริหารปาเลสไตน์ (PA) เดินหน้าดำเนินการอย่างสุจริต ในที่สุดอาจมีเงื่อนไขที่นำไปสู่เส้นทางการกำหนดอนาคตของตนเอง (self-determination) และการเป็นรัฐ (statehood) ของปาเลสไตน์ ซึ่งเราตระหนักว่าเป็นความปรารถนาของชาวปาเลสไตน์

20. สหรัฐฯ จะจัดการเจรจาระหว่างอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ เพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับขอบเขตทางการเมืองสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและรุ่งเรือง

ขอบคุณ : aljazeera, apnews, reuters