แอบบี้ ชอย ฆาตกรรมซุปมนุษย์จากน้ำมือครอบครัวหฤโหด

“ไช่เทียนเฟิง” (Cai Tianfeng) หรือชื่อที่คนทั่วไปรู้จักอย่างกว้างว่า “แอบบี้ ชอย” (Abby Choi) อายุ 28 ปี หนึ่งในเซเลบคนดังของวงการบันเทิงฮ่องกง หลังเธอมักไปได้ปรากฏตัวในงานแฟชั่นสำคัญๆ หลายต่อหลายครั้ง และล่าสุดยังได้ขึ้นปกนิตยสาร L’Officiel Monaco ฉบับดิจิทัล นอกจากนี้เธอยังถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลมีเดียของฮ่องกง ด้วยยอดผู้ติดตามมากกว่า 100,000 Follower ทาง Instagram ซึ่งมักมีภาพที่เธอโชว์ชีวิตหรูหราไฮโซ พร้อมแบรนด์เนมราคาแพงลิบลิ่วตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก

แต่แล้วจู่ๆ...ชีวิตที่ฟูฟ่องและอาบเคลือบไปด้วยความหรูหราของเธอ ก็เดินทางมาถึง “จุดพลิกผัน” และกลายเป็นคดีฆาตกรรมสุดสยดสยองที่ไม่มีใครคาดคิดว่า มันจะเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนาได้ถึงขนาดนี้!

จุดเริ่มต้นการหายตัวไปอย่างปริศนา :

21 ก.พ. 66 :

ตำรวจฮ่องกง ส่งกำลังออกติดตามหา “แอบบี้ ชอย” หลังจู่ๆ เธอได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และปล่อยให้ลูกทั้ง 2 คนของเธอรออยู่ที่โรงเรียนจนถึงช่วงค่ำของวันนั้น โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยัง “อเล็กซ์ ควอง” (Alex Kwong) อดีตสามีของเธอ รวมถึง พี่ชายและพ่อแม่ของอดีตสามีเพื่อสอบถามข้อมูลด้วย แต่ทั้ง 4 คน ยืนยันว่าไม่รู้ว่านางแบบชื่อดังหายตัวไปไหน

อย่างไรก็ดีในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า “จุดสุดท้าย” ที่ “แอบบี้ ชอย” ปรากฏตัวก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยนั้น คือ บริเวณถนนฟอซุน (Fo Chun) ในหมู่บ้านลัว เหมย (Lung Mei) เขตไทพอ (Tai Po) เมื่อเวลา 14.15 น. ของวันที่ 21 ก.พ. 66 โดยในภาพที่ปรากฏในกล้อง CCTV นั้น เธอสวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงสีขาว รองเท้าแตะสีขาว และถือกระเป๋าสีม่วง

ฆาตกรรมซุปมนุษย์สุดอำมหิต :

24 ก.พ. 66 :

ตำรวจฮ่องกงบุกเข้าตรวจค้นอาพาร์ตเมนต์เช่าแห่งหนึ่งในหมู่บ้านลัวเหมย เขตไทพอ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบ “แอบบี้ ชอย” ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายมากเท่าใดนัก และสิ่งที่ตำรวจฮ่องกงพบหลังบุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ก็ทำให้ทั้งชาวฮ่องกง และชาวโลกต้องตกตะลึง!

หลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ :

เมื่อเข้าไปภายในตำรวจฮ่องกงพบ หม้อต้มซุปขนาดใหญ่ 2 หม้อ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 ซม. โดยภายในหม้อมีน้ำซุปที่มีส่วนผสมของเศษชิ้นส่วนมนุษย์และเครื่องปรุงต่างๆ ที่ผ่านการเคี่ยวด้วยความร้อนมาอย่างยาวนานจนกระทั่งเนื้อเปื่อยยุ่ยลอยอยู่ อีกทั้งเมื่อไปเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ยังพบชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกแช่ทิ้งไว้ด้วย

นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบ อุปกรณ์ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ในการชำแหละศพจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบดเนื้อ, เลื่อยไฟฟ้า, ค้อน, เสื้อกันฝน, ถุงมือ, หน้ากาก และถุงพลาสติกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าผู้ที่ลงมือสังหารโหดในครั้งนี้มีการวางแผน และตระเตรียมทั้งสถานที่และอุปกรณ์สำหรับการชำแหละศพเป็นอย่างดีไว้ล่วงหน้า

อย่างไรก็ดี จากการที่ตำรวจพบบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเครดิต และของใช้ส่วนตัวอื่นของ “แอบบี้ ชอย” อยู่ในอพาร์ตเมนต์เช่าดังกล่าว จึงทำให้เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า เศษชิ้นส่วนมนุษย์ในหม้อต้มซุปดังกล่าวน่าจะเป็นของ “นางแบบและเซเลบสาวชื่อดังของฮ่องกง” ที่มีส่วนสูงประมาณ 155 ซม. และมีน้ำหนักเพียงประมาณ 40 กิโลกรัม

ซึ่งข้อสันนิษฐานนี้ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา จากเจ้าหน้าที่นิติเวชของฮ่องกง ที่ได้นำชิ้นส่วนมนุษย์และกะโหลกศีรษะในหม้อซุปดังกล่าวไปทำการตรวจ DNA และเปรียบเทียบฟัน จนกระทั่งยืนยันได้ว่า ความสยดสยองที่ได้พบในหม้อซุปดังกล่าวก็คือ ร่างของ “แอบบี้ ชอย” โดยจากการแถลงของนิติเวชฮ่องกงยังระบุอีกด้วยว่า "กะโหลกศีรษะที่พบนั้น มีรูกว้างขนาด 6.5 x 5.5 ซม. ที่บริเวณใกล้หลังใบหูขวา ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็น “สาเหตุของการเสียชีวิตด้วย”

ตามไล่ล่าครอบครัวหฤโหด :

25 ก.พ. 66 :

ตำรวจฮ่องกง เข้าสกัดจับ “อเล็กซ์ ควอง” อดีตสามีของ “แอบบี้ ชอย” ขณะพยายามหลบหนีขึ้นเรือเร็วข้ามฟากไปยังประเทศจีน พร้อมเงินสดมูลค่า 500,000 เหรียญฮ่องกง และนาฬิกาหรูมูลค่า 4 ล้านเหรียญฮ่องกง ที่ท่าเรือข้ามฟากทางด้านชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะลันเตา

26 ก.พ. 66 :

ตำรวจฮ่องกง บุกเข้าจับกุม พ่อ แม่ และพี่ชายของอเล็กซ์ ควอง ที่มีอายุ 65 ปี 63 ปี และ 31 ปี ตามลำดับ พร้อมตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆาตกรรม และมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือเพื่อบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน

โดยสาเหตุที่นำไปสู่การจับกุมดังกล่าว มาจากผลการสืบสวนที่พบว่า พ่อของอเล็กซ์ ควอง ได้ใช้ให้หญิงคนหนึ่งไปเช่าอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุก่อนวันลงมือสังหารเพียงไม่กี่วัน ส่วนพี่ชายของอเล็กซ์ ควอง นั้น ในวันที่ “แอบบี้ ชอย” หายตัวไปนั้น เขาเป็นคนขับรถยนต์ไปรับเหยื่อ และอาจจะเป็นผู้ลงมือทำร้ายเหยื่อจนสลบก่อนจะนำร่างมาชำแหละยังสถานที่ที่พบชิ้นส่วนอวัยวะของผู้ตาย ด้านแม่ของอดีตสามี แอบบี้ ชอย นั้น ถูกกล่าวว่าได้ให้การเท็จเพื่อช่วยเหลือและปิดบังการฆาตกรรมอำพรางสุดโหดเหี้ยมในครั้งนี้ ในขณะที่ “อเล็กซ์ ควอง” นั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงคาดว่า อาจจะเป็นผู้ลงมือชำแหละศพอดีตภรรยาของตัวเอง

ขณะเดียวกัน จากการรายงานของสื่อในฮ่องกง ซึ่งได้อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของแหล่งข่าวในทีมสอบสวนคดีนี้ ยังระบุด้วยว่า “ครอบครัวจอมโหด” ได้ร่วมกันวางแผนสำหรับการสังหารโหดในครั้งนี้มานานถึง 1 เดือนเต็มด้วย

27 ก.พ. 66 :

ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำ หลังศาลฮ่องกงปฏิเสธคำร้องขอประกันตัว

ประวัติครอบครัวจอมโหด :

สำหรับอดีตสามี “อเล็กซ์ ควอง” มีประวัติถูกกล่าวหาใน "คดีฉ้อโกงประชาชน" มูลค่ามากกว่า 5 ล้านเหรียญฮ่องกง ในช่วงระหว่างปี 2014-2015 และนำไปสู่การถูกฟ้องร้อง ด้วยมูลหนี้มากกว่า 15.7 ล้านเหรียญฮ่องกง

ส่วนอดีตพ่อสามี ซึ่งคาดว่าเป็นผู้บงการสังหารในครั้งนี้ "เป็นอดีตตำรวจยศจ่า" ที่เพิ่งออกจากราชการเมื่อปี 2005

ปมสังหารข้อพิพาททรัพย์สินมูลค่านับหมื่นล้านฮ่องกง :

สำหรับสาเหตุที่นำไปสู่การ “ฆาตกรรมซุปมนุษย์” ในครั้งนี้ จากรายงานของสื่อส่วนใหญ่ในฮ่องกงระบุว่า น่าจะมีสาเหตุจาก “ข้อพิพาททางการเงินมูลค่านับหมื่นล้านเหรียญฮ่องกง” หลัง “แอบบี้ ชอย” พยายามขายอสังหาริมทรัพย์ในย่านทำเลทองของฮ่องกง อย่าง Kodoorie Hill ซึ่งเธอเป็นคนซื้อเอาไว้ในนามของอดีตพ่อตาของเธอ

และแม้ว่า “เหยื่ออำมหิต” จะให้คำมั่นสัญญาว่าจะขายอสังหาริมทรัพย์ ก็ต่อเมื่อครอบครัวของอดีตสามียอมย้ายออกไปแล้วก็ตาม แต่ประเด็นความขัดแย้งนี้ก็ได้นำไปสู่การมีปากเสียงอย่างเผ็ดร้อนระหว่าง อดีตพ่อตาและแอบบี้ ชอย มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

ความคืบหน้าล่าสุด :

ตำรวจฮ่องกงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมกู้ภัยนับร้อยนาย ออกค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะของ “แอบบี้ ชอย” ที่ยังสูญหายทั้งในบริเวณสุสานเก่าที่ทางตำรวจพบว่า พี่ชายและพ่อของอดีตสามีจอมโหด เดินทางไปหลังการหายตัวของเซเลบคนดัง รวมถึงแหล่งน้ำที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจุดชำแหละศพแต่จนถึงวันนี้ (27 ก.พ.) ก็ยังไม่พบชิ้นอวัยวะที่เหลือของ “แอบบี้ ชอย” แต่อย่างใด

และสำหรับ “แอบบี้ ชอย” นั้น จากรายงานล่าสุดของสื่อฮ่องกง ระบุว่า ปัจจุบันได้อยู่กินกับสามีคนใหม่ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าได้หย่าขาดกับอดีตสามีจอมโหดคนนี้มาเนิ่นนานขนาดไหนแล้ว

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก sathit chuephanngam

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จัก “ไซโคพาธ” โรคไร้สำนึก โกหกหน้าตาย น่ากลัวกว่าคนโรคจิต

คดีน้องต่อ ล่าสุด ตีวงหารอบชุมชน เตือนสังคมอย่ารีบ “พิพากษา”

หยุดที่เธอ! เมื่อรักและใคร่ จบที่ "ตุ๊กตายาง" จิตแพทย์ชี้ผิดปกติหรือไม่

คุณวุฒิขาดแคลน เบื้องหลัง-ทางลัด เด็กฝาก สู่ ตำรวจกาฝาก?

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน...ใกล้แล้วแค่ไหน?