• สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน กำลังเข้าสู่เดือนที่ 4 ไม่มีทีท่าจะยุติ ปะทะกันอย่างดุเดือดบริเวณสมรภูมิรบเมืองเซเวโรโดเนตสก์ในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน และรัสเซีย ซึ่งมีทั้งหน่วยปืนไรเฟิล และกองปืนใหญ่ ใกล้ยึดครองเมืองเซเวโรโดเนตสก์ได้ทั้งหมด

  • แต่ยูเครนยังคงยืนหยัดต่อสู้ จนสามารถขับไล่กองกำลังรัสเซียออกจากหมู่บ้านทอชคิฟก้า ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซเวโรโดเนตสก์ และต้องการอาวุธยุทโธปกรณ์จากชาติตะวันตก เพื่อสู้รบกับรัสเซีย ในภูมิภาคดอนบาส เพราะในแต่ละวันจะมีทหารยูเครนเสียชีวิตประมาณวันละ 100-200 นาย



  • ยุทโธปกรณ์ต่อสู้ระยะไกล ทั้งปืนใหญ่หรือรถยิงจรวด จากตะวันตก มีความสำคัญมากสำหรับยูเครน เปรียบเหมือนวัคซีน เพื่อต้านทานหน่วยปืนใหญ่ของรัสเซียที่มีจำนวนมหาศาลเหมือนไวรัสโควิด และเป็นความหวังของยูเครนจะช่วงชิงเมืองเซเวโรโดเนตสก์ เมืองเอกของจังหวัดลูฮานสก์กลับคืนมาให้ได้

  • ท่าทีของวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ดูเหมือนจะยอมรับในที่สุดว่าการทำสงครามในยูเครน เป็นการทวงคืนดินแดนให้กับรัสเซีย และเชื่อว่าแผ่นดินยูเครนจะถูกประกาศเป็นของรัสเซียในเร็วๆนี้ เปรียบเหมือนชัยชนะของปีเตอร์มหาราช กษัตริย์ในช่วงศตวรรษที่ 18 ของรัสเซีย ทำสงครามกับสวีเดน เป็นเวลา 21 ปี

...

สถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน กำลังจะรุนแรงมากขึ้น เข้าใกล้สงครามโลกครั้งที่ 3 เมื่อสหรัฐฯและนาโต ตัดสินใจส่งอาวุธหนักให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ส่วนตุรเคีย(ตุรกี) ตกลงร่วมกับซีเรียและรัสเซีย เตรียมไล่สหรัฐฯ ให้พ้นจากตะวันออกกลาง

จากการวิเคราะห์ของ น.อ.สัมฤทธิ์ ทองอินทร์ ผู้เขียนหนังสือสงครามโลกครั้งที่ 3 มองว่า แม้สหรัฐฯ จะสับขาหลอกว่าลดพิสัยขีปนาวุธลงเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วยังส่งขีปนาวุธให้ยูเครนไม่เลิก หวังว่ายูเครนจะใช้ถล่มรัสเซียต่อไป จนรัสเซียฉุนขาดออกมาประกาศว่า จะถล่มแหลกด้วยอาวุธที่ยูเครนไม่เคยเจอมาก่อน เพื่อจะทำให้ยุโรปทั้งทวีปสะเทือนอย่างโกลาหล และปั่นป่วนที่สุด

“รัสเซียทำตามคำขู่ทันที ด้วยการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลความแม่นยำสูง จากเรือรบกลางทะเลสาบแคสเปียน ระยะยิงเฉียด 2,000 กิโลเมตร จากที่ยิงได้ถึง 4,000กิโลเมตร ถล่มกรุงเคียฟ ใจกลางเมืองหลวงและท่าเรือสำคัญของยูเครน หลังจากว่างเว้นไปเกือบสองเดือน จนควันไฟลุกโชน เห็นได้ในรัศมีไกลนับ 100 กิโลเมตร และนี่คือการข่มขวัญสหรัฐฯ และนาโต ว่าหยุดให้ขีปนาวุธระยะไกลและอาวุธหนักแก่ยูเครนเดี๋ยวนี้”

แต่ไม่มีคำตอบจากทำเนียบขาวและเลขาธิการนาโต เพราะทั้งสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร กลับเรียกประชุมชาติสมาชิกสหประชาชาติ เพื่อบีบให้รัสเซีย เปิดทางให้ยูเครนส่งออกอาหารได้ พร้อมแอบส่งอาวุธให้กองเรือยูเครนในทะเลดำ เพื่อกดดันรัสเซียให้เปิดท่าเรือในทะเลอาซอฟที่ยึดไว้ได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ทางปูติน ต้องออกประกาศจะถล่มจุดสำคัญในยูเครน เพื่อทำให้ยุโรปปั่นป่วนหนักขึ้น ซึ่งจะเลือกปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 9 ข้อ 1. บริเวณแนวชายแดนของยูเครนที่ติดกับยุโรปทั้งหมด 2.โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนในทุกที่ทุกโรง 3. การใช้นิวเคลียร์ขนาดจิ๋ว 4. การโจมตีกลุ่มสมาชิกนาโต

...

5. การก่อวินาศกรรมที่หนักกับประเทศสำคัญๆ ของสมาชิกนาโต 6.การตัดระบบส่งแก๊สกับยุโรปทั้งหมด 100% 7. ส่งกองทัพขนาดใหญ่เข้ายึดยูเครนอีกครั้ง 8.ระดมยิงขีปนาวุธพิสัยไกลให้มากขึ้นทั่วยูเครน หรือบางประเทศของสมาชิกนาโต หรือ 9.ให้เบลารุสบุกยึดยูเครน ซึ่งทั้งหมดนี้ รัสเซียต้องทำหนึ่งใน 9 ข้อนี้เท่านั้น เพื่อจะทำให้ยุโรปสะเทือนไปทั้งทวีป ตามคำโฆษณาชวนเชื่อปลุกระดมข่มขู่ของปูติน.

...