ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในปี 2025 ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก โดยหนึ่งในยุทโธปกรณ์ที่กลายเป็นที่กล่าวถึงและเป็น "อาวุธหลัก" ในเชิงยุทธวิธีของกัมพูชาคือ BM-21 Grad (บีเอ็ม-21 แกรด) ซึ่งเป็นเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง (Multiple Rocket Launcher) สัญชาติโซเวียตที่มีประวัติยาวนาน
เหตุผลที่กัมพูชาเลือกใช้ BM-21 ต้นทุนของมัน และอุปสรรคที่ทำให้ฝ่ายไทยยังไม่สามารถกำจัดอาวุธชนิดนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จในบางสถานการณ์
1. ทำไม BM-21 ถึงเป็นอาวุธหลักของกัมพูชา?
...
เหตุผลที่กัมพูชาเลือกใช้ BM-21 เป็นหัวหอกในการโจมตี ไม่ใช่เพราะความแม่นยำ แต่เป็นเพราะ"ประสิทธิภาพในการทำลายล้างเป็นวงกว้าง" และ "ความคล่องตัว"
การยิงแบบปูพรม (Area Saturation): BM-21 สามารถยิงจรวดขนาด 122 มม. จำนวน 40 นัดได้ภายในเวลาเพียง 20 วินาทีถึง 1 นาที จรวดเหล่านี้จะตกลงสู่พื้นที่เป้าหมายในลักษณะกระจายตัว(Saturation) ทำให้ยากต่อการป้องกัน และสร้างความเสียหายต่อที่ตั้งทางทหารหรือชุมชนในวงกว้าง
ยุทธวิธี "ยิงแล้วหนี" (Shoot and Scoot): ตัวเครื่องยิงติดตั้งอยู่บนรถบรรทุกขับเคลื่อน 6 ล้อ ทำให้สามารถเคลื่อนที่เข้าสู่จุดยิงและถอนตัวออกไปได้ทันทีหลังจากยิงเสร็จก่อนที่เรดาร์ตรวจจับวิถีกระสุนของไทยจะระบุพิกัดและยิงตอบโต้ได้ทัน
อำนาจการทำลายทางจิตวิทยา: เสียงและปริมาณจรวดที่ตกหนักหน่วงส่งผลต่อขวัญกำลังใจของทหารและพลเรือนในพื้นที่แนวหลังมากกว่าปืนใหญ่ทั่วไป
2. ราคาลูกกระสุน BM-21
ราคาของจรวด BM-21 (ขนาด 122 มม.) นั้นมีความผันแปรตามแหล่งที่มา (ของแท้จากรัสเซียหรือรุ่นผลิตในจีน/ยุโรปตะวันออก) และสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ โดยประมาณการได้ดังนี้:
ราคาเฉลี่ยต่อลูก: ประมาณ 1,200 – 3,800 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 40,000 – 130,000 บาท)
การยิงเต็มชุด (40 นัด): จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1.6 – 5.2 ล้านบาทต่อหนึ่งชุดยิง
แม้ดูเหมือนจะมีราคาสูง แต่เมื่อเทียบกับขีปนาวุธนำวิถี (Guided Missiles) ที่มีราคาหลักสิบล้านบาทต่อลูก BM-21 ถือเป็น "อาวุธราคาถูก" ที่ให้ผลลัพธ์ในการกดดันพื้นที่เป้าหมายได้อย่างมหาศาล
...
3. ทำไมไทยยังไม่สามารถโจมตีทำลายได้ทั้งหมด?
แม้กองทัพไทยจะมีเทคโนโลยีเหนือกว่า ทั้งเรดาร์ตรวจจับวิถีกระสุน (Counter-battery radar) และเครื่องบินรบ F-16 แต่มีเหตุผลสำคัญ 3 ประการที่เป็นอุปสรรค:
การใช้ "โล่มนุษย์" และโบราณสถาน: มีรายงานข่าวและหลักฐานระบุว่า กัมพูชาใช้ยุทธวิธีนำรถยิงจรวดไปตั้งฐานอยู่ใกล้กับ วัดหรือปราสาทขอมโบราณ (เช่น ปราสาทตาควาย หรือปราสาทตาเมือนธม) รวมถึงพื้นที่ชุมชน เพื่อใช้เป็นเกราะคุ้มกัน หากไทยยิงตอบโต้อย่างรุนแรงและโบราณสถานเสียหาย กัมพูชาจะใช้เป็นเครื่องมือทางการทูตเพื่อประณามไทยในเวทีโลก
สภาพภูมิประเทศ: พื้นที่ป่าเขารกชึฏบริเวณชายแดนเอื้อต่อการพรางตัวและการเคลื่อนย้ายรถยิงจรวดได้ง่าย ทำให้การตรวจการณ์ทางอากาศทำได้ลำบากในบางสภาพอากาศ
กฎการใช้กำลัง (ROE): กองทัพไทยยึดถือหลักการระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทบพลเรือนฝั่งกัมพูชา การโจมตีกลับจึงมักเป็นการยิงจำกัดเฉพาะจุดที่ยืนยันพิกัดได้ชัดเจนเท่านั้น ซึ่งต่างจากฝ่ายกัมพูชาที่ใช้ BM-21 ยิงสุ่มเข้ามาในพื้นที่กว้าง
...