สรุปปม “ซีเกมส์ครั้งที่ 33” อลเวงกีฬาอาเซียน หลังเกิดปัญหาตั้งแต่วันแรกของการแข่งขัน สั่นคลอนภาพลักษณ์เจ้าภาพ แม้พิธีเปิดยังไม่เริ่ม แต่ก็เกิดปัญหาตั้งแต่ไฟฟ้าในสนามแข่งขัดข้อง-นักกีฬาถูกทิ้ง จนคนไทยเองก็ตั้งคำถามว่าเราพร้อมจะเป็นเจ้าภาพหรือไม่?
การแข่งขันซีเกมส์ หรือ SEA Games (South-East Asian Games) ปีนี้ เป็นครั้งที่ 33 ไทยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ
บรรยากาศก่อนการแข่งขันเป็นไปด้วยความคาดหวังจากทั้งประชาชนในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ที่รอชมว่าไทยจะถ่ายทอดความพร้อมด้านกีฬา การจัดการ และการเป็นเจ้าภาพได้อย่างไรบนเวทีระดับภูมิภาคครั้งสำคัญนี้
แต่ทันทีที่วันแรกของการแข่งขันเริ่มต้น ความคาดหวังเหล่านั้นก็ต้องสะดุดลงเมื่อเกิดเหตุผิดพลาดหลายจุด จนทำให้ประชาชนตั้งคำถามถึงความพร้อมของฝ่ายจัดงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
...
ซีเกมส์วันแรกสร้างเรื่อง
4 ธ.ค. 68 คือวันแรกของการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ แต่ไทยกลับเปิดฉากแบบ “พลาดตั้งแต่ก้าวแรก” เนื่องจากก่อนการแข่งขันฟุตบอลจะเริ่มต้น ผู้สื่อข่าว TNN รายงานว่า ไฟส่องสว่างในสนามราชมังกีฬาสถานเกิดขัดข้อง ส่งผลให้ “หลอดไฟหลายดวงดับ” แถมไม่มีสต็อกสำรอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งตะเวนขอยืมไฟจากสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่โคราช ผู้คนจึงต่างวิพากษ์ว่า งานระดับภูมิภาคแต่ทำไมถึงไม่มีอุปกรณ์สำรองติดสนาม
ต่อมา เมื่อนัดเปิดสนาม สปป.ลาว พบ เวียดนาม เวลา 16.00 น. เกิดความผิดพลาดของระบบเสียง ทำให้ดนตรีเพลงชาติของทั้งสองทีม ไม่ขึ้นตามพิธีการ นักกีฬาต้องร้องเพลงชาติสดกลางสนาม สร้างความอึดอัดและความงุนงงในสนาม ขณะที่สื่อเวียดนามรายงานข่าววิพากษ์ไทยกันอย่างกว้างขวาง มองว่านี่คือ “ข้อผิดพลาดไม่ควรเกิดในระดับนานาชาติ”
ทางทีมผู้จัดเปิดให้เข้าชมฟรี โดยต้องลงทะเบียนเลือกที่นั่งล่วงหน้า แต่ในเกมคู่ไทย พบ ติมอร์ เลสเต แฟนบอลจำนวนมากพบว่าที่นั่งที่จองไว้ในระบบ กลับไม่มีอยู่จริงในสนาม ทำให้แฟนบอลหลายท่านต้องเดินหาที่นั่งใหม่ หรือต้องไปนั่งโซนอื่น ซึ่งแฟนบอลส่วนใหญ่มองว่าปัญหานี้สะท้อนการเตรียมงานที่หละหลวม
เบื้องหลังพิธีเปิด-ปิด สู่การโดนเทงาน
คุณต้น เรืองฤทธิ์ สันติสุข นักออกแบบแสงและโชว์ระดับประเทศ ได้โพสต์ระบายความในใจเกี่ยวกับการทำหน้าที่ “ไดเรกเตอร์” ออกแบบพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ตนถูกยกเลิกงานทั้งหมด และทีมผู้จัดซีเกมส์เพิ่งมีทีมงานชุดใหม่เข้ามาทำงานแทนตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
...
เมื่อกลางเดือน มี.ค. 68 ได้รับโทรศัพท์จากรุ่นพี่ที่เคารพ เชิญให้ไปรับตำแหน่งไดเรกเตอร์ของพิธีเปิด–ปิดซีเกมส์ แม้จะลังเลอยู่พักใหญ่เพราะไม่เคยทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐมาก่อน แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจรับงาน
ช่วงเริ่มต้น ทีมงานมีเพียง 4 คน เวลาที่เหลืออยู่เพียง 9 เดือนก่อนถึงวันงาน ทำให้ตนต้องสำรองค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจ้างทีมงาน เพื่อจัดทำแบบจำลองเวที วางโครงสร้างโชว์ และจัดทำงานนำเสนอให้ผู้ใหญ่พิจารณา จนกระทั่งได้รับไฟเขียวให้เริ่มดำเนินการได้ ตนและทีมงานจึงเริ่มสร้างงานอย่างจริงจัง
ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา คุณต้นเผยว่า ทางทีมต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ และต่อมายังได้รับแจ้งให้ย้ายสถานที่จัดงานจากสนามหลวงไปยังสนามราชมังคลากีฬาสถาน ทำให้ต้องเริ่มวัดพื้นที่และออกแบบใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง จนกระทั่งสิ้นเดือน ก.ย. 68 มีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ คุณต้นเริ่มรู้สึกถึงสัญญาณไม่ดี เพราะระหว่างทำงานมักมีคนเตือนเป็นระยะ ๆ แต่เมื่อประสานตรวจสอบกับผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังไม่ได้รับข้อมูลที่ผิดปกติใด ๆ
ต่อมาต้นเดือน ต.ค 68 มีโทรศัพท์แจ้งว่ามีทีมผู้ใหญ่ซีเกมส์ชุดใหม่ เข้ามาดูสถานที่สนามราชมังกีฬาสถาน และประชุมร่วมกับทีมผู้ใหญ่ชุดเดิม แต่เมื่อสอบถามถึงการดำเนินงานก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ตนและทีมจึงรอความชัดเจนต่อมาอีก 2 สัปดาห์ จนไม่สามารถรอต่อได้ จึงแจ้งผู้ใหญ่ไปว่าหากยังไม่ได้คำตอบ ทางทีมจำเป็นต้องหยุดการทำงานและคืนคิวศิลปินรวมถึงทีมงานทุกคน เพราะไม่สามารถรับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนได้ และในช่วงกลางเดือน ต.ค 68 ทางทีมจึงหยุดทำงานอย่างเป็นทางการ และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับหนังสือยกเลิกหรือคำยืนยันใด ๆ จากผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง
...
ชะตากรรมของนักกีฬาถูกทอดทิ้ง
ขณะที่ทางด้านของ หมิว พรปวีณ์ นักแบดมินตันหญิง ดีกรี 4 เหรียญทองซีเกมส์ แชมป์เวิลด์ทัวร์ 3รายการ มือ 6 ของโลก และ มือ 1 ของประเทศไทย ได้เปิดเผยผ่านรายการเคลียร์ริมเส้น ไทยรัฐสปอร์ต หลังตนขอถอนตัวจากทีมชาติไทย ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
...
สืบเนื่องจากกรณีเบี้ยเลี้ยงแบดมินตันทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่ “วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” กับ “เมย์ รัชนก อินทนนท์” นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย โดยหักเบี้ยเลี้ยงเหลือเพียง 6,000 บาท เนื่องจากไม่ไปทดสบอร่างกายตามกำหนด
แต่ “โค้ชท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ โค้ชของ หมิว พรปวีณ์ เผยว่าใครทราบกฎของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ทั้งนี้ นักกีฬาไม่ได้ละเลย แต่ติดภารกิจแข่งเพื่อชาติ เนื่องจากแบดมินตนมีโปรแกรมแข่งทุกสัปดาห์
ทำให้ หมิว พรปวีณ์ ขอถอนตัวจากซีเกมส์ 2025 เนื่องจากไม่สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายพัฒนากีฬาได้อย่างสบายใจ และผิดหวังกับความไม่ใส่ใจ และไม่แจ้งให้นักกีฬาทราบว่าจะเข้ามาทดสอบร่างกายโครงการซีเกมส์ย้อนหลังได้เวลาไหน
“ตอนที่ออกมาจากสมาคม คือหนูไม่โอเคกับการฝึกซ้อมหรือระบบการบริหารในสมาคม หนูคิดว่าหนูไม่สามารถพัฒนาได้ ถ้าหนูมีสิ่งแวดล้อมแบบนั้น หนูก็เลยต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อมาหาสิ่งแวดล้อมใหม่ โดยที่หนูต้องจ่ายเงินเองทุกอย่าง หรือต้องเสียสละอะไรหลายๆ อย่าง หนูก็ต้องยอมค่ะ เพราะหนูคิดว่าการเล่นแบดมินตันของหนูมีช่วงเวลาไม่กี่ปี”
ทั้งนี้ การแข่งขันซีเกมส์จะจัดตั้งแต่ 9 - 20 ธ.ค. 68 ทำให้เกิดคำถามจากสังคมว่าในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ไทยจะต้องเจอปัญหาอะไรอีกบ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นวันแรกจึงไม่ใช่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย แต่เป็นสัญญาณน่ากังวล ว่าการที่ไทยดำรงตำแหน่ง “เจ้าภาพซีเกมส์” ครั้งนี้ อาจต้องเร่งมืออย่างหนัก เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ประเทศและวงการไทยเสียหายไปมากกว่านี้