สรุปผลกระทบฝุ่น PM 2.5 ต่อร่างกาย คาดกรุงเทพฯ ฝุ่นมากตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 ไปจนถึงกุมภาพันธุ์ 2569 การป้องกัน และช่วงเดือนที่มีฝุ่นสูงสุดในปี 2568 ได้ดังนี้
🦠 ผลกระทบของ PM 2.5 ต่อร่างกาย (อาการแพ้ฝุ่น)
ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กมากจนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ กระแสเลือด และอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้ ส่งผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้ค่ะ
...
ระบบร่างกาย | ผลกระทบระยะสั้น(อาการแพ้/ระคายเคือง) | ผลกระทบระยะยาว(ความเสี่ยงโรคเรื้อรัง) |
ระบบทางเดินหายใจ | * ไอ, จาม, คัดจมูก,น้ำมูกไหล, คันคอ, แสบจมูก * หายใจลำบาก,แน่นหน้าอก, เหนื่อยง่าย * อาการภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบ *ปอดอักเสบ, ติดเชื้อในปอดและทางเดินหายใจง่ายขึ้น | * มะเร็งปอด (โดยเฉพาะชนิดAdenocarcinoma) * โรคถุงลมโป่งพอง *โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง * สมรรถภาพปอดลดลง |
ระบบหัวใจและหลอดเลือด | * อาจทำให้เส้นเลือดอักเสบเฉียบพลัน * ผู้มีโรคหัวใจอยู่แล้วอาจมีอาการกำเริบ | * โรคหัวใจขาดเลือด,เส้นเลือดสมองตีบ/แตก(อัมพาต) * ความดันโลหิตสูง * เลือดหนืดขึ้น, หลอดเลือดแข็งตัว* หัวใจล้มเหลว |
ผิวหนัง | * ระคายเคือง, ผื่นคัน,ผื่นลมพิษ, ผิวหนังอักเสบ | * ผิวมีจุดด่างดำ, รอยย่น, ดูแก่กว่าวัย |
ดวงตา | * ระคายเคืองตา, แสบตา, คันตา, ตาแดง,น้ำตาไหล * เยื่อบุตาอักเสบ, ตาแห้ง | * มีผลต่อการทำลายฟิล์มน้ำตาและเยื่อบุตา |
สมอง | - | * เพิ่มความเสี่ยงภาวะสมองอักเสบ * เพิ่มความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน (ในผู้สูงอายุ) * อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนรุนแรง |
อื่น ๆ | * ทำลายภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้ป่วยง่าย * พัฒนาการในเด็กล่าช้า | * มีบุตรยาก (ผลต่อระบบสืบพันธุ์) * โรคเบาหวาน |
🛡️ การป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการลดการสัมผัสฝุ่นและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ
...
หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง: หากค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน (สีส้ม/สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้เปลี่ยนมาออกกำลังกายในอาคารแทน
สวมหน้ากากอนามัย: สวมหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ เช่น หน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่ได้มาตรฐานทุกครั้งที่ออกจากอาคาร โดยสวมให้กระชับใบหน้า
อยู่ในอาคารที่ปลอดภัย:
ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทเพื่อป้องกันฝุ่นเข้า
ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA
ดูแลสุขภาพส่วนบุคคล:
พักผ่อนให้เพียงพอ
ดื่มน้ำให้มาก ๆ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
กลุ่มเสี่ยง (เด็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ, โรคหัวใจ, สตรีมีครรภ์) ควรหลีกเลี่ยงการสูดดมฝุ่น และควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ
ทำความสะอาดร่างกาย: หลังกลับเข้าอาคาร ควรสระผม อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อชำระล้างฝุ่นที่อาจติดมากับร่างกายและเสื้อผ้า
...
🗓️ การคาดการณ์ช่วงเดือนที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงสุด ปี 2568
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มักจะมีความรุนแรงในช่วงฤดูหนาวและฤดูแล้ง เนื่องจากสภาพอากาศนิ่ง ลมสงบ และอัตราการระบายอากาศต่ำ ทำให้ฝุ่นสะสมตัวได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงที่มีการเผาในที่โล่ง รวมถึงข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นที่เริ่มมีการรายงานในช่วงต้นปี 2568 (มกราคม - กุมภาพันธ์ 2568) สามารถสรุปแนวโน้มเดือนที่มีฝุ่นสูงสำหรับปี 2568 ได้ดังนี้:
...
ภาค | ช่วงเดือนที่น่าเป็นห่วงที่สุด | ปัจจัยหลัก |
กรุงเทพฯ และปริมณฑล | ปลายเดือนพฤศจิกายน – มกราคม/กุมภาพันธ์ | การจราจร, อุตสาหกรรม, สภาพอากาศปิด (มีมวลอากาศเย็น/ความกดอากาศสูงแผ่ลงมา) |
ภาคเหนือ | มกราคม – พฤษภาคม | การเผาในที่โล่ง (เกษตรกรรมและป่าไม้),หมอกควันข้ามแดน |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | มกราคม – กุมภาพันธ์/มีนาคม | การเผาในที่โล่ง (เกษตรกรรม), สภาพอากาศปิด |
ภาคกลาง/ตะวันตก | มกราคม – มีนาคม | การจราจร, โรงงานอุตสาหกรรม, การเผาอ้อยและพื้นที่เกษตร |
ภาคใต้ | ดีอย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องเฝ้าระวังช่วงกันยายน – พฤศจิกายน (นอกฤดูฝุ่นปกติ) | โดยทั่วไปคุณภาพอากาศดีกว่าภาคอื่น แต่มีโอกาสได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงฤดูแล้งของประเทศทางใต้ |
หมายเหตุ: ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์จากแนวโน้มสภาพอากาศและสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วง มกราคม และ กุมภาพันธ์ มักเป็นช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นมีความเข้มข้นสูงในหลายพื้นที่ของประเทศ (ยกเว้นภาคใต้) อย่างไรก็ตาม ควรติดตามการรายงานสถานการณ์ฝุ่นจากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและเป็นประจำทุกวันค่ะ