"บิ๊กโจ๊ก" ดับเครื่องชน พิรุธเส้นเงินโยงเครือข่าย "บิ๊กต่อ" ยังรอชี้แจง "อดีตนายตำรวจ" มอง กระบวนการภายในตำรวจเตะถ่วงไม่คืบหน้า ขณะเครือข่ายคนมีสียังไม่ถูกพักราชการแม้แต่คนเดียว ต่อให้ส่งเรื่องไป ป.ป.ช. แต่จุดจบเรื่องนี้ยังอีกนาน

จากกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลกับกมธ.ความมั่นคงฯ ในเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินชุดปฏิบัติการที่ 3 และชุดที่ 4 (PCT 3 และ PCT 4) ศูนย์ปฏิบัติการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีการเรียกรับเงินเครือข่ายพนันออนไลน์ตามหลักฐานที่ผู้ร้องได้มอบมาให้นั้น และมีการเปิดคำให้การของ "พิมพ์วิไล" ที่มีการอ้างว่าเป็นบัญชีม้าพยานปากเอกคดี BNK MASTER ที่เปิดเส้นทางเงินส่วยโยงอดีต ผบ.ตร.


ทีมข่าวเฉพาะกิจ ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตข้าราชการตำรวจ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ที่เข้าร่วมอยู่ในห้องประชุม กมธ.ความมั่นคงฯ เปิดเผยว่า ส่วนตัวมองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นหลักฐานที่ทางด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีอยู่แล้ว ซึ่งหลักฐานเป็นหลักฐานความผิดทางอาญา เคยให้กับทาง ผบ.ตร.แล้วเช่นกัน เพียงแต่เพิ่งนำมาเปิดเผยต่อคณะกรรมาธิการแค่นั้น

...


ส่วนเรื่องของ น.ส.พิมพ์วิไล ที่ถูกว่าจ้างนั้น ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายอาชญากรรมอย่างหนึ่ง แต่ประเด็นสำคัญในเรื่องนี้คือ เขาไปยื่นหลักฐานให้กับทางตำรวจตั้งแต่เดือน ส.ค 67 แล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตำรวจทั้งหลายที่ถูกกล่าวอ้างก็ยังคงนั่งเป็นตำรวจอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ถูกลงโทษ ถูกพักราชการ หรือแม้แต่ถูกไล่ออกแต่อย่างใด


เมื่อทีมข่าวถามว่า ในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ตอบว่า ก็เข้าข่ายละเว้น ถึงแม้ว่าจะมีการส่ง ป.ป.ช.แล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่มีการดำเนินคดี หรือออกหมายจับ แล้วค่อยส่ง ป.ป.ช. ใน 30 วัน ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ไม่ใช่ให้ใครมากล่าวหา แล้วเตะโด่งส่งให้ ป.ป.ช. ทาง ป.ป.ช.ก็ส่งเข้ากระบวนการชะลอการถูกดำเนินคดี แสวงหาข้อเท็จจริง ไต่สวนต่างๆ ซึ่งกว่าจะได้เรื่องก็กินเวลาไปนาน 7-8 ปี



พ.ต.อ.วิรุตม์ เผยว่า ความผิดเหล่านี้เป็นความผิดโทษสูง แต่ทำไม ผบ.ตร. ถึงไม่ดำเนินคดี หรือออกหมายจับ ทำไมถึงออกหมายจับแต่ประชาชน แต่ทั้งนี้ หากจะออกหมายจับ ก็ควรออกหมายจับตามหลักฐานเส้นเงิน และกันบางคนให้เป็นพยานในคดี ซึ่งสามารถเช็คได้หมดว่า นายตำรวจแต่ละคนมีผู้บังคับบัญชาเป็นใคร อยู่สายงานไหน ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ ตอนนี้ ผบ.ตร.มีความตั้งใจอยากจะทำคดีนี้จริงแค่ไหน


เมื่อทีมข่าวถามถึงกรณี “บิ๊กต่อ” หรือ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงกรณีการสืบสวนสอบสวนว่า ควรมีการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งหรือไม่ ทาง พ.ต.อ.วิรุตม์ ตอบว่า ไม่ต้องหรอก ให้ใช้หลักฐานที่เขาส่งไป ซึ่งทางวินัยอาจจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เนื่องจากเกษียณราชการไปแล้ว แต่ทางอาญา ได้มีการเรียกมาแจ้งข้อหาหรือยัง ประเด็นมันอยู่ที่ ถ้าเรื่องมันเข้า ป.ป.ช. มันจะช้า แต่ถ้าตำรวจสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีเอง มันจะเร็วกว่า

...


“กระบวนการทำงานของ ป.ป.ช. มันมีปัญหา ทั้งด้านความเชื่อถือของประชาชน และความมีประสิทธิภาพ ความกระชับกระเฉง ความสุจริตก็มีปัญหา“

ส่วนกรณีที่เป็นข้อถกเถียงกันในเรื่องของ น.ส.พิมพ์วิไล ว่าเป็นหน้าม้าให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่นั้น พ.ต.อ.วิรุตม์ ตอบว่า หน้าม้าหรือไม่ไม่รู้ รู้แค่เป็นพยานคนหนึ่ง ที่ร่วมกันกระทำความผิด ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชี แล้วนำเงินโอนผ่านบัญชีให้กับตำรวจคนอื่นๆ และตำรวจเหล่านี้ก็เบิกเป็นเงินสดนำไปให้เจ้านาย

ทั้งนี้ เมื่อทีมข่าวถามถึงจุดจบของคดีเว็บพนันว่าจะเป็นอย่างไรต่อ พ.ต.อ.วิรุตม์ ตอบว่า คงจะไม่จบเร็วๆ นี้


...