ยึดอายัดทรัพย์ชั่วคราว “สส.ชนนพัฒฐ์” สัญญาณเตือนคนมีสี เขย่าการเมือง? อดีตนายตำรวจมอง กระบวนการพิสูจน์เส้นเงินจากนี้ จับตาพิรุธสีน้ำตาล-กากี ระดับท้องถิ่น

เมื่อวาน 11 พ.ย. 68 ปปง. ได้มีมติอายัดทรัพย์สินที่อาจเกี่ยวโยงกับเว็บพนันของ สส.ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว พร้อมผู้เกี่ยวข้องชั่วคราว ในกรณีการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวไม่เกิน 90 วัน โดยเป็นทรัพย์สินประเภท เงินสด รถยนต์ ที่ดิน เงินและหลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมจำนวน 69 รายการ มูลค่าประมาณ 159 ล้านบาท

โดยหากผู้ถูกกล่าวหาประสงค์ขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งนั้น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ ปปง.พร้อมด้วยหลักฐานเกี่ยวข้องที่แสดงว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดภายในสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือ


การยึดอายัดทรัพย์ “สส.ชนนพัฒฐ์” ทำให้มีการจับตาทางการเมือง และผู้เกี่ยวข้องที่อาจเป็นคนมีสี ที่จะต้องมีการตรวจสอบต่อไป ทีมข่าวเฉพาะกิจ ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม วิเคราะห์ว่า กรณีนี้มีสัญญาณเตือน อาจมีการสาวไส้ไปถึงคนมีสีเช่น สีน้ำตาล และกากี ในระดับท้องถิ่น ซึ่งอาจย้อนไปถึงสมัยที่ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นชาวบ้านธรรมดาและถูกดำเนินคดีมา

...

ประเด็นที่ ปปง. เพิ่งดำเนินการเพราะเป็นคณะธุรกรรม ซึ่งมีเลขา ปปง. เป็นเลขาธิการโดยใช้อำนาจตามเหตุควรที่สงสัย โดยจากข้อมูลที่แถลงยืนยันว่ามาจากสาเหตุมูลฐานตามมาตรา 3 (9) การสั่งอายัดไว้เป็นมาตรการทางแพ่ง แต่ความผิดทางอาญายังไม่กำเนิด แต่ถ้ามีการตรวจทรัพย์สินที่ปรากฏ ถ้าปรากฏว่ามาจากแหล่งของการพนันก็จะไปเข้าตามความผิดมูลฐาน โดยต้องไปตรวจเส้นเงินแต่ละทรัพย์สินอีกครั้ง ว่าในทรัพย์สินจำนวน 69 รายการ มูลค่าประมาณ 159 ล้านบาท มีอะไรพัวพันกับเส้นเงินบ้าง

ทรัพย์สิน 69 รายการ อาจมีทรัพย์สินสัก 60 รายการที่ไม่ถูกยึด ถ้ามีแหล่งที่มาชัดเจนว่าไม่เกี่ยวกับเว็บพนัน แต่ถ้าตรวจสอบเส้นเงินว่า มีบัญชีม้าที่ทำธุรกิจสีเทาโอนมาให้ก็จะถูกดำเนินการกรณีฟอกเงิน


ส่วนถ้ามีการตรวจสอบว่าเส้นเงินมีการพัวพันกับธุรกิจสีเทา คนที่เกี่ยวข้อง หากมีการตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดร่วม ผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินคดีไปด้วยข้อหาสมคบการฟอกเงิน

หากมีการพิสูจน์ว่ามีความผิด จะส่งผลกระทบต่อการเมืองหรือไม่ ก็ต้องไปดูว่าการเข้ามาเล่นการเมืองของผู้ถูกร้อง เข้าสู่เส้นทางการเมืองด้วยความโปร่งใสหรือไม่ โดยต้องไปดูว่าผู้ถูกกล่าวหามีการนำเงินเข้ามาสู่กระบวนการพรรคการเมืองแบบไหน และใช้เงินส่วนนั้นมาบริจาคหรือบำรุงพรรคการเมือง

ถ้ามีการพิสูจน์พบว่า มีการนำเงินจากเส้นทางสีเทามาส่งให้พรรคการเมือง พรรคการเมืองที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่อาจจะได้รับผลกระทบในเรื่องจริยธรรมได้ โดยพรรคการเมืองก็ต้องต่อสู้ว่าไม่รู้ที่มาของเงินนั้น ซึ่งอาจมีแนวโน้มว่าพรรคการเมืองอาจถูกยื่นเพื่อพิจารณายุบพรรคได้