เปิดเส้นทางน้ำเหนือ - เช็กปริมาณน้ำเขื่อนหลัก รับมือ "พายุคัลแมกี" เข้าปกคลุมไทย 7-10 พ.ย.นี้ ส่งผลกระทบฝนตกเพิ่มขึ้น ขณะที่ล่าสุดกรมชลประทานเร่งระบายน้ำเพิ่ม  

ประเทศไทยยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน “พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี” (KALMAEGI) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลางและขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลาง จากนั้นอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันและกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันที่ 7-10 พ.ย. ทำให้มีฝนตกมากขึ้น และตกหนักบางแห่ง

ด้านสถานการณ์น้ำล่าสุด กรมชลประทาน เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 4 พ.ย. 68 ดังนี้


ปริมาณฝนสะสมปี 2568 สูง

ปริมาณน้ำฝนสะสมทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ต.ค.68 พบอยู่ที่ 1,539.8 มม. สูงกว่าค่าปกติที่ 1,450.1 มม.ที่ 6% โดยภาคเหนือ สูงกว่าค่าปกติ 15% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สูงกว่าค่าปกติ 7% ภาคกลาง ต่ำกว่าค่าปกติ 0.4% ภาคตะวันออก สูงกว่าค่าปกติ 4% ภาคใต้ฝั่งตะวันออก สูงกว่าค่าปกติ 1% และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ต่ำกว่าค่าปกติ 4%

...

สถานการณ์น้ำในเขื่อน-อ่างเก็บน้ำ

ประเทศไทยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมกัน 483 แห่ง โดยข้อมูลวันที่ 3 พ.ย. พบว่า มีปริมาณน้ำใช้การ 67,979 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 89% มากกว่าปี 2567 ที่ 4,585 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้การ 44,030 ล้าน ลบ.ม. (84%) มากกว่าปีก่อน 4,579 ล้าน ลบ.ม. โดยสามารถรับน้ำได้อีก 8,590 ล้าน ลบ.ม. (16%)

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (35 แห่ง)

1. ปริมาณน้ำเกิน 80% : 21 แห่ง เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา เป็นต้น

2. ปริมาณน้ำ 51-80% : 5 แห่ง

3. น้ำน้อยกว่า 50% : 9 แห่ง

อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง (448 แห่ง)

1. ปริมาณน้ำเกิน 100% : 119 แห่ง

2. ปริมาณน้ำ 80-100% : 176 แห่ง

3. ปริมาณน้ำ 50-80% : 95 แห่ง

4. ปริมาณน้ำน้อยกว่า 50% : 58 แห่ง

สถานการณ์ 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา

สำหรับ 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา พบว่าปริมาณน้ำอยู่ในระดับมาก-เกินความจุ โดยปริมาณน้ำใน 4 อ่างรวม 24,221 ล้าน ลบ.ม. (97%) มากกว่าปีก่อน 2,465 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้การ 17,525 ล้าน ลบ.ม. (96%) เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 125 ล้าน ลบ.ม. (ปี2567 = 15,060 ล้าน ลบ.ม.) มากกว่าปีก่อน 2,465 ล้าน ลบ.ม. โดยสามารถรับน้ำได้อีก 682 ล้าน ลบ.ม. ดังนี้

1. เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ (97%)

ปริมาณน้ำ 9,510 จาก 9,256 ล้าน ลบ.ม.

2. เขื่อนภูมิพล จ.ตาก (97%)

ปริมาณน้ำ 13,035 จาก 13,462 ล้าน ลบ.ม.

3. เขื่อนแควน้อยฯ จ.พิษณุโลก (101%)

ปริมาณน้ำ 947 จาก 939 ล้าน ลบ.ม.

4. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี (102%)

ปริมาณน้ำ 983 จาก 960 ล้าน ลบ.ม.

น้ำล้นตลิ่ง 17 สถานี

ข้อมูล ณ เวลา 06.00 น. วันที่ 4 พ.ย.68 พบว่ามีสถานีที่ระดับน้ำล้นตลิ่ง 17 สถานี แบ่งเป็น

1. แม่น้ำชี 1 สถานี

- อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น สูงกว่าตลิ่ง 0.1 เมตร

2. แม่น้ำปิง 1 สถานี

- อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร สูงกว่าตลิ่ง 0.33 เมตร

3. แม่น้ำวัง 1 สถานี

- อ.สามเงา จ.ตาก สูงกว่าตลิ่ง 0.03 เมตร

4. แม่น้ำยม 4 สถานี

- อ.โพทะเล จ.พิจิตร สูงกว่าตลิ่ง 0.01 เมตร

- อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก 3 สถานี สูงกว่าตลิ่ง 0.2-1.41 เมตร

5. แม่น้ำเจ้าพระยา 4 สถานี

- อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สูงกว่าตลิ่ง 0.56 เมตร

- อ.บางบาง จ.พระนครศรีอยุธยา สูงกว่าตลิ่ง 2.02 เมตร

- อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 2 สถานี สูงกว่าตลิ่ง 0.97-2.51 เมตร

6. แม่น้ำสะแกกรัง 1 สถานี

- อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ สูงกว่าตลิ่ง 0.44 เมตร

7. แม่น้ำแม่กลอง 1 สถานี

- อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี สูงกว่าตลิ่ง 0.99 เมตร

8. แม่น้ำท่าจีน 4 สถานี

- อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สูงกว่าตลิ่ง 0.49 เมตร

- อ.บางเลน จ.นครปฐม สูงกว่าตลิ่ง 0.71 เมตร

...

- อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สูงกว่าตลิ่ง 1.59 เมตร

- อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี สูงกว่าตลิ่ง 0.8 เมตร 

เร่งระบายน้ำเพิ่ม

วันที่ 4 พ.ย. 68 กรมชลประทาน ประกาศแจ้งเตือนการปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยระบุว่า ปริมาณน้ำจากทางตอนบนเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.2 นครสวรรค์ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุดวัดได้ 2,696 ลบ.ม./วินาที ดังนั้นเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า จึงขอแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยจะทยอยปรับจากอัตรา 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 2,400 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น. ของวันนี้ และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง จะมีผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 10-30 ซ.ม. ใน 24 ชม. ข้างหน้า

สถานการณ์น้ำตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะฝนที่ตกหนักและฝนสะสมในพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย ทำให้ 2 วันที่ผ่านมานี้ เขื่อนเจ้าพระยาต้องปรับการระบายเพิ่มถึง 400 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว รวม 2 วัน น้ำขึ้นสูงร่วม 1 เมตร ภายในระยะเวลาสั้นๆ

...

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบครอบครัวของ น.ส.กนกทิพย์ งามนุช อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กำลังขนย้ายตู้เย็น เครื่องซักผ้า และสิ่งของจำเป็นกลับเข้าบ้าน แม้ว่าบริเวณบ้านยังคงมีดินโคลนและน้ำขังอยู่บ้าง โดยเปิดเผยว่า ครอบครัวรวม 5 คน ได้อพยพมาอาศัยริมถนนคันคลองมหาราชตั้งแต่คันดินหน้าวัดสมอแตกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม รวมเป็นเวลากว่า 1 เดือน แต่ก็ยังคงต้องคอยเฝ้าระวังและเตรียมอพยพ เพราะน้ำจ่อเข้ามาท่วมซ้ำรอบที่ 3 แล้ว ต้องระวังกันรายชั่วโมง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลมาคอยช่วยเหลือและประกาศอยู่ตลอดทำให้คลายกังวลใจ

ขอบคุณ : กรมชลประทาน