เปิดเบื้องลึก GBC สมัยพิเศษ กัมพูชายอมอ่อน หลังถูกอเมริกากดดันหนัก "ที่ปรึกษากลาโหม" ไทยไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 เผยสร้างรั้วชายแดน 8 กิโลเมตรแรก จ.จันทบุรี
เมื่อ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซียตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย และถือเป็นความคืบหน้ามากที่สุด หลังการเจรจาเมื่อเกิดเหตุปะทะ กัมพูชา ยอมรับเงื่อนไข 4 ข้อหลัก
การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีการจับตามองถึงการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเดินทางมายังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 26 ต.ค.นี้
...
เบื้องลึกการเจรจา GBC สมัยพิเศษ ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหม ในฐานะที่เข้าไปร่วมด้วย ได้เผยเบื้องหลังให้ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ฟังว่า จากการประชุมร่วมกับกัมพูชา เหมือนทุกอย่างจะราบรื่น แต่ก่อนหน้านี้ทีมงานของฝั่งไทยต้องทำงานกันอย่างหนักของทีมเจรจาวงเล็ก และทีมคณะทำงานที่เป็นทีมที่มาก่อนล่วงหน้า ขณะที่หลายช่วงฝั่งกัมพูชา ก็พยายามขอปรับเนื้อหาการเจรจาตลอดเวลา จนไทยต้องไปโวยกับตัวแทนของสหรัฐอเมริกา ถึงท่าทีของกัมพูชาที่ไม่ชัดเจน
สหรัฐ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ได้ออกแอ็กชันว่าถ้ากัมพูชา ยังพยายามแก้และไม่สามารถหาข้อยุติได้ วันที่ประธานาธิบดีทรัมป์มาประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ถ้ากัมพูชาไม่ยอมตามเงื่อนไขที่ไทยร่างไว้ ก็อาจไม่รับประกันว่าจะมีการลงนามในเงื่อนไขสันติภาพ ในวันนั้น พอเราพูดอย่างนั้น ตัวแทนของสหรัฐอเมริกา มีท่าทีเคร่งเครียดอย่างชัดเจน
พอวันรุ่งขึ้น ตัวแทนจากกัมพูชา ก็ดูจะยอมรับข้อตกลงง่ายมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเราไม่รู้ว่าตัวแทนของอเมริกาไปกดดันหรือคุยกับทางกัมพูชาว่าอย่างไร โดยคาดว่ากัมพูชา คงถูกบีบหรือกดดันบางอย่าง ทำให้ยอมรับทุกข้อเงื่อนไข
ที่สำคัญรอบนี้มีแอ็กชันแพลน หรือกำหนดเวลาในการดำเนินการตามข้อตกลง ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีเลย ต่อให้กัมพูชาส่งใครมาก็จะบ่ายเบี่ยงว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่รอบนี้กลับผิดคาด เมื่อมีตัวแทนจากอเมริกามาเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ทุกอย่างก็ดูจะราบรื่นกว่าที่คิดไว้
การเจรจาในรอบนี้เงื่อนไขของไทยไม่ได้เสียเปรียบ เพราะด้วยเงื่อนไขการเปิดด่าน หรือส่งคืนตัวประกันจะต้องได้รับการตอบรับจากกัมพูชา ครบทั้ง 4 ข้อ เช่น จัดการทุ่นระเบิก ถอนกำลังทหาร ปราบสแกมเมอร์ และการจัดการพื้นที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว
การที่ไทยยื่นข้อเสนอว่า สหรัฐต้องให้กัมพูชายอมรับทั้ง 4 ข้อ ถึงจะลงนามตามสัญญา เพราะไทยก็ไม่ต้องการจะทำสงคราม ซึ่งถ้ากัมพูชา ยังขัดขวางการสำรวจพื้นที่ที่มีการวางกับระเบิดร่วมกันนั่นแสดงว่ากัมพูชาระเมิด หลังจากนั้นก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก
สำหรับเนื้อหาในร่าง ไทยพยายามปรับภาษาให้ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติของการเป็นมิตรประเทศ ซึ่งถ้าเป็นภาวะปกติ ก็อาจมีหัวจดหมายว่า พณฯ ท่าน หรือรองนายกรัฐมนตรี แต่ตอนนี้มุ่งใช้ภาษาที่เป็นทางการว่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหมแห่งกัมพูชา
...
เรื่องพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และหนองจาน ทางทหารมีแนวความคิดจะไปจัดการกับการรุกล้ำอยู่แล้ว ส่วนการสร้างรั้วกำแพง จะเริ่มสร้าง 8 กิโลเมตรแรก ที่โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งฝั่งกัมพูชา ยินยอม และเป็นการป้องกันการลักลอบมาขโมยสินค้าการเกษตรด้วย
ที่ผ่านมาทางผู้นำกัมพูชา อ้างเรื่องว่าไทยยอมรับพื้นที่ 1:200,000 แต่ความจริงแล้วเราไม่เคยระบุมาก่อนเลย แต่อาจจะเป็นทางลงของผู้นำกัมพูชามากกว่า ซึ่งการเข้ามาของอเมริการอบนี้ ทำให้ไทยได้เปรียบมากกว่า และจะทำให้ความตึงเครียดริมชายแดนค่อยๆ ลดลงหลังจากนี้
...