ปราสาทคนา เปิดข้อมูล 24 ปีก่อน ศิลปากรไทยสำรวจ ก่อนทหารกัมพูชาเคลม ด้านทหารไทยยันตัวปราสาทอยู่ในเขตไทย แม้ตัวปราสาทพังทลาย ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรักใกล้ชายแดนไทย - กัมพูชา
กรณีที่ปรากฏภาพและข้อมูลว่ามีทหารกัมพูชา มีการก่อสร้างสะพานไม้ขึ้นไปพื้นที่ด้านบนของตัวปราสาทคนาม จาการสำหรับการสำรวจพื้นที่โดยรอบปราสาทคนา ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เบื้องต้นทราบว่าตัวปราสาทไม่ได้มีอยู่แล้ว หลังพบมีข้อมูลในโลกโซเชียลทหารกัมพูชา สร้างสะพานขึ้นมา
เพจกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา เปิดเผยถึงข้อมูลของ สมเดช ลีลามโนธรรม นักโบราณคดีชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ว่า ปราสาทหนองคนา ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรักใกล้ชายแดนไทย - กัมพูชา ทางทิศใต้ของบ้านแนงมุด ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ปราสาทแห่งนี้ถูกค้นพบโดยกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 216 และประสานไปยังสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา (สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่ชาติที่ 9 นครราชสีมา ในขณะนั้น ดำเนินการสำรวจในเดือนกันยายน พ.ศ.2544
...
ผลการสำรวจพบว่าเป็นปราสาทที่ก่อสร้างด้วยอิฐจำนวน 3 หลัง หรือมากกว่านั้น หันหน้าหรือมีทางเข้าด้านทิศตะวันออก มีกำแพงก่อด้วยศิลาแลงล้อมรอบ กำแพงขาดหายเป็นช่วงแต่สามารถวัดขนาดได้ว่ามีความยาวด้านละ 39.50 เมตร ปราสาทมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ชิ้นส่วนประกอบอาคารหลุดร่วงแตกหัก เช่น เสาประดับกรอบประตูแปดเหลี่ยม ทับหลังสลักภาพช้างเอราวัณ 3 เศียร ทับหลังสลักภาพบุคคลนั่งชันเข่า ศิวลึงค์ที่มีลักษณะติดกับฐานปรากฏส่วนวิษณุภาคที่มีแปดเหลี่ยม และส่วนรุทรภาคที่แตกหัก จำนวน 3 ชิ้น พบบริเวณกลุ่มปราสาทประธานและห่างออกไปทางทิศตะวันตก ใกล้กับตัวปราสาทมีหนองน้ำชื่อหนองคะนา และหนองน้ำขนาดเล็กอีกแห่งหนึ่ง
จากหลักฐานที่พบสันนิษฐานได้ว่า ปราสาทหนองคะนาเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 15 หรือประมาณ 1,100 ปีมาแล้ว เป็นโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานของผู้คนบริเวณเทือกเขาพนมดงรักหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่มีมาตั้งแต่อดีต
ทหารยันตัวปราสาทคนา อยู่ในดินแดนไทย
พลตรี วินทัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏภาพและข้อมูลว่ามีทหารกัมพูชา มีการก่อสร้างสะพานไม้ขึ้นไปพื้นที่ด้านบนของตัวปราสาทคนาม ว่า สำหรับการสำรวจพื้นที่โดยรอบปราสาทคนา ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เบื้องต้นทราบว่าตัวปราสาทไม่ได้มีอยู่แล้ว
ตอนนี้ยังคงหลงเหลือแต่เพียงพื้นที่โดยรอบที่มีแนวกำแพงศิลาแลงล้อมรอบ ซึ่งมีความสูงประมาณ 1.6 เมตร ยาวประมาณ 25 เมตร สำหรับตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณห่างจากขอบหน้าผามาทางฝั่งไทยประมาณ 100 ม. เป็นพื้นที่ราบสูง มีองค์ประกอบคือ สระน้ำ 2 แห่ง คือสระน้อยและสระใหญ่ จากการสำรวจข้อมูลของตัวปราสาทคนานั้น ยืนยันได้ว่า อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทยตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที แต่ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีบุคคลผ่านไปมา เพราะไม่ได้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหรือ เป็นพื้นที่จำเป็นที่ชาวบ้านจะต้องเดินทางไป
บริเวณใกล้เคียงปราสาทต่ำลงไปทางขอบหน้าผามีฐานทหารกัมพูชา ตั้งอยู่เป็นแนวไปทางทิศใต้ โดยมีฐานทหารของไทย โดย ฉก.ทพ.26 อยู่บริเวณใกล้เคียงปราสาทไปทางทิศเหนือ ควบคุมพื้นที่ 2 แห่งคือ ฐานสระใหญ่และฐานสระน้อย และสำหรับที่ผ่านมาทางทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 และรับผิดชอบพื้นที่บริเวณจุดใกล้เคียงปราสาทดังกล่าวก็ทราบมาโดยตลอดว่าทางทหารกัมพูชามีการสร้างบันไดไม้จากพื้นราบขึ้นสู่หน้าผาของเขาที่ตั้งตัวปราสาทคนา และยังเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาตั้งฐานปฏิบัติการ
...
ซึ่งทางกัมพูชาก็จะมีการผลัดเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทหารขึ้นมาตรวจพื้นที่บ้าง แต่ก็อยู่ในจุดที่ตัวปราสาทลาดลงไปจนถึงหน้าผาและจุดที่ทหารกัมพูชาขึ้นมาตรวจการนั้นก็เป็นพื้นที่ที่อยู่อาณาเขตของกัมพูชา
จากการสำรวจพื้นที่ทั้งหมดของตัวปราสาทคณนาพบว่า สามารถขึ้นปราสาทได้ทั้ง 2 ฝั่งคือหากขึ้นทางฝั่งประเทศไทยจะขึ้นได้ง่ายกว่าแต่หากขึ้นจากฝั่งประเทศกัมพูชาจะค่อนข้างมีอุปสรรคเนื่องจากว่าเป็นพื้นที่จุดที่มีหน้าผาสูงชัน
ซึ่งโดยปกติแล้วพื้นที่ชายแดนก็จะไม่ได้มีการกำหนดเส้นอะไรที่ชัดเจน แต่จะอาศัยตามประเพณีธรรมเนียมที่เคยอยู่กันมา ซึ่งก็จะเจอกันและพูดคุยตกลงกันได้ แต่หากถามถึงแนวแบ่งพื้นที่นั้น จะแบ่งในลักษณะของสันปันน้ำ ซึ่งการแบ่งปราสาทจะเเบ่งลงจากจุดสูงสุด และตัวปราสาทเองก็อาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับหน้าผา จึงมีพื้นที่บางส่วนที่อยู่ในแนวลาดต่ำลงไป ซึ่งสำหรับแนวพื้นที่ที่ราบต่ำลงไปเป็นหน้าผาก็อยู่ในอาณาเขตของประเทศกัมพูชา จึงทำให้ทหารกัมพูชาตั้งฐาน
...