ทองคำขาขึ้น สถิติสูงสุดใหม่ นักลงทุนไทยทยอยซื้อตุน หวังแตะ 60,000 บาท คาดระยะยาวยังหวังผลได้ เผยยอดซื้อหน้าร้านเพิ่มขึ้นมากกว่าขาย

ทองขาขึ้น โดยวันนี้ 29 กันยายน 2568 ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) โดยช่วงเวลา 14:48 น. ขายออกอยู่ที่ 58,200บาท สำหรับทองคำแท่ง 96.5% และขายออก 59,000 บาท สำหรับทองรูปพรรณ 96.5%

จากราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องมากว่าอาทิตย์ ภัทริน วชิรคพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ จำกัด วิเคราะห์ว่า ราคาซื้อขายทองคำในวันนี้ทำสถิติใหม่ไปเรื่อยๆ ถ้าทางเทคนิคสามารถยืนอยู่เหนือแนวต้านมาตั้งแต่วันศุกร์ 26 กันยายน 2568 แต่เมื่อเปิดตลาดเช้านี้ก็พุ่งสูงข้ามสถิติสูงสุดเดิม และหลังจากนั้นก็ไม่มีแนวต้านมาเบรก

แต่ถ้ามองปัจจัยของไทย ในการที่ทำให้ทองคำขาขึ้น เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าร่วมด้วยกับราคาซื้อขายในตลาดโลกที่พุ่งสูง เพราะถ้าปกติ SPDR Gold ในตลาดโลกมีราคาขึ้น ค่าเงินบาทจะสวนทางด้วยการที่ค่าเงินบาทจะแข็งตัว เนื่องจากปกติราคาทองคำจะผันไปคนละด้านกับค่าเงินดอลลาร์ เช่น ถ้ายูเอสดอลลาร์อ่อนตัว ทองจะขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ายูเอสดอลลาร์อ่อนตัว เงินบาทก็จะแข็ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือ SPDR Gold ขึ้นสูง แต่ค่าเงินบาทอ่อน และยูเอสดอลลาร์ก็อ่อนลงไปด้วย

...


"การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า มาจากการถูกลดความเชื่อมั่นลง ประกอบกับปัจจัยด้านข่าวสารที่นักลงทุนมีความกังวลกับมาตรการ Government Shutdown ของสหรัฐอเมริกา ที่มีเส้นตายในวันที่ 30 กันยายน 2568 ซึ่งจะมีการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณภายในประเทศ พรรคการเมืองทั้งสองฝั่งของอเมริกาคัดค้านกันอยู่ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านร่างนี้ได้ภายใน 30 กันยายน 2568 จะเกิด Government Shutdown ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568คาดว่าจะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูง และค่าเงินดอลลาร์ ยิ่งอ่อนลง"

คาดเดาราคาทองคำในรอบนี้ นักลงทุนจะต้องจับตา เพราะจากเหตุการณ์ทรัมป์ 1.0 ยาวถึง 35 วัน ถ้าหากรอบนี้รัฐบาลสหรัฐยังตกลงกันไม่ได้ในกรอบเวลาที่กำหนด ส่งผลให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นไปอีก

ราคาทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นในรอบนี้ ส่งผลต่อการซื้อขายทองคำหน้าร้านในไทยค่อนข้างมาก โดยมีผู้เข้ามาซื้อมากกว่ามาขายทองคำ ด้วยข่าวลือที่แพร่สะพัดไปจำนวนมากว่าทองมีโอกาสขึ้นไปถึง 60,000 บาท หลายรัฐบาลในต่างประเทศ ซื้อทองไว้เป็นทุนสำรอง ประกอบกับข่าวเรื่องสงครามที่มีทั่วโลก และมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ย กลายเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำทั้งหมด มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยไปถึงปีหน้า


นักลงทุน ปัจจัยที่เกื้อหนุนราคาทองคำยังอยู่ในระยะยาวเช่น การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) ปีนี้คาดว่าลดอีก 2 ครั้ง ส่วนปีหน้าคาดว่าลดอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ซึ่งเทรนด์ในการลดอัตราดอกเบี้ย มีแต่จะหนุนราคาทองคำให้สูงขึ้น

แนวทางลงทุนทองคำ ถ้ามีเงินเย็นค่อยๆ ทยอยซื้อสะสมในระยะยาว เพราะในอีก 10 – 20 ปี ข้างหน้าราคาทองจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่นักลงทุนในระยะสั้น ถ้าเข้าซื้อตอนนี้ยังมีความน่าห่วง เพราะถ้าระยะสั้นต้องรีบทำกำไรแล้วรีบขาย ถ้าวิเคราะห์ว่าช่วงนี้น่าจะเข้าซื้อหรือไม่ ยังมองว่ามีเพดานที่พุ่งขึ้นไปอีกไม่มาก