เบบี๋ มิสแกรนด์ประจวบฯ ดราม่าภาพหลุดถูกปลดฟ้าผ่า "แฟนนางงาม" มองกรอบ สะท้อนสังคมไทย ข้อจำกัดผู้หญิงในอุดมคติ ย้ำไม่ควรทับถม ทำร้ายจิตใจ

เบบี๋ สุพรรณี น้อยโนนทอง มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ โดนปลดฟ้าผ่า หลังถูกวิจารณ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยเมื่อวาน (21 ก.ย. 68) เฟซบุ๊ก “มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ – Miss Grand Prachuap Khiri Khan” โพสต์ประกาศปลด น.ส.สุพรรณี น้อยโนนทอง มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์

เบบี๋ สุพรรณี ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อมาว่า ดิฉัน เบบี๋ สุพรรณี น้อยโนนทองผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ ประจวบคีรีขันธ์ขอน้อมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต ได้สร้างความไม่เหมาะสมและก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของเวที รวมถึงสังคมโดยรวม

ดิฉันขอกราบขอโทษต่อครอบครัว คณะผู้จัดการประกวด กองประกวด เพื่อนผู้เข้าประกวด ตลอดจนผู้ที่ให้การสนับสนุนและสังคมทุกท่านมา ณ ที่นี้

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนอันมีค่าที่จะทำให้ดิฉันตระหนักถึงความรับผิดชอบในทุกการกระทำ และจะตั้งใจปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

สุดท้ายนี้ ดิฉันขอขอบพระคุณทุกกำลังใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับโอกาสให้ก้าวต่อไปอย่างสร้างสรรค์และสง่างาม

...


สะท้อนนางงามในอุดมคติสังคมไทย


ดราม่านางงามสะท้อนสังคมไทย ฐิติพงษ์ ด้วงคง อาจารย์พิเศษ วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ติดตามเวทีประกวดนางงามทั่วโลก วิเคราะห์ว่า เวทีประกวดนางงามกรณีของไทย ยังคงมีการตีกรอบชุดความคิดนางงาม ว่าต้องเป็นผู้หญิงที่ดี เป็นชุดความคิดเชิงอนุรักษินิยม ส่งผลกระทบต่อน้องที่เป็นกรณีล่าสุด เพราะน้องยังอยู่ในชุดความคิดของผู้คนส่วนใหญ่ ไม่ว่าะเป็นเรื่องของ Sex Worker และการทำงานของ Sex Creator หรือในงานอื่นๆ ที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ผู้หญิงดี ซึ่งในพื้นที่ของการประกวดนางงาม ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว เช่น รณรงค์ให้ Sex Worker ถูกกฎหมาย และไม่เปื้อนมลทินด้วยคอนเซ็ปต์ความชั่วร้าย หรือความผิดศีลธรรม เพราะว่าทั้งหมดนี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ปรากฎในสังคมอยู่


กรณีของบ้านเรา คือ Sex Worker ยังไม่ถูกยอมรับ ซึ่งผู้คนคิดว่า ในสังคมปัจจุบัน มีการพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงคือ ในระบบของบ้านเราก็ยังมีการชักเย่อของความคิดอยู่ ทีนี้ สิ่งที่จะมาตัดสินว่าอะไรชอบธรรมหรือไม่ชอบธรรม ส่วนตัวมองว่า ส่ิงนั้นคือกฎหมาย ที่มีการเสนอร่าง หรือมีการรณรงค์กันอยู่ในกลุ่มนักเคลื่อนไหว หรือ กลุ่มนักกฎหมาย แต่เนื่องจากสังคมในปัจจุบัน มันไปเร็วกว่ากฎหมายเพราะฉะนั้น กฎหมายก็อาจตามไม่ทันพลวัตรนี้ โดยเฉพาะเรื่องเพศ หรือ เรื่องสมัยใหม่


การประกวดเวทีมิสแกรนด์ หรือการประกวดเวทีอื่นใด เขาก็ต้องผูกคะแนนนิยม หรือผูกขาดผู้ชม ประชาชนทั้งสองฟาก โดยเขาก็คงจะต้องชั่งนํ้าหนักว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น กระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรไหม กระทบกับตัวนางงามไหมเพราะเขาก็มองว่านางงามเป็นคนในสังกัดเขา หรือเรียกว่าเป็นโปรดักซ์หนึ่งขององค์กรเขา สิ่งที่มันเกิดขึ้น คือสังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งแตกเป็นสองชุด ทีนี้ ถ้าถามว่าเกิดขึ้นจากอะไร ที่น้องโดนปลด ผมคิดว่าก็คงอาจจะเกิดขึ้นจากชุดอุดมการณ์ที่ยังไม่ตัดขาดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือชอบธรรมหรือเปล่า หรือหลายคนยังคิดว่ามันยังไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม โดยใช้เรื่องของปัญญา หรือเรื่องของศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวด้วย


...


ส่วนเรื่องระยะเวลาในการปลดน้องจากตำแหน่ง ว่าเร็วหรือไม่เร็ว มองว่า ผู้ที่มีอำนาจเป็นคนตัดสินใจ ในบริบทนี้คือ อำนาจของผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งตัวน้องอาจเซ็นต์สัญญาอยู่ โดยกรณีนี้ ผู้ที่มีอำนาจ มีสิทธิ์ทางชอบธรรม แต่ถ้าถามว่า เร็วไปไหม ผมคิดว่า สังคมอย่าเพิ่งพิพากษาน้อง เพราะว่า จริงๆ แล้วต่อให้ตัวน้องทำหรือไม่ทำ ท้ายสุดแล้ว นางงามก็คือมนุษย์

Sex Worker ก็คือมนุษย์ ทุกคนควรจะอยู่บนพื้นฐานที่ไม่มีศาลเตี้ยไปพิพากษาเขาก่อน ซึ่งเขาอาจมีเหตุผลส่วนตัวของเขา ถ้าเกิดเขาจะทำ หรือ ถ้าเขาไมได้ทำ ผมคิดว่าเราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกล่าวหาเขา สิ่งนี้ มันเป็นการช่วยผู้หญิงซึ่งกันและกัน และผมคิดว่า ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องมาปกป้องผู้หญิงด้วยกันเสมอไป ผมคิดว่าผู้ชาย หรือ LGBTQ ซึ่งเป็นฐานของกลุ่มนางงาม เขาควรจะให้โอกาสน้องเขา

ในฐานะของเพื่อนมนุษย์ผมคิดว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้ มีผลต่อสภาพจิตใจ เขาอาจจะได้รับผลกระทบ ไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าในโลกโซเชียลตอนนี้ มันถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็ได้รับผลกระทบ แต่ถ้าเรายิ่งไปทับถมด้วยดราม่า ซึ่งมันก็เป็นเชื้อเพลิง หรือสีสัน หรือเป็นความแซ่บของวงการนี้อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ Toxic เพราะฉะนั้น คุณจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Toxic ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไหม หรือคุณแค่ยังเสพสื่ออย่างมีวิจารณญาณ เพราะทุกวันนี้เราอยู่ในยุคหลังความจริง เรายังไม่รู้ความจริง แต่เราก็ตีความไปแล้วว่านี่คือความจริง

สิ่งสำคัญตอนนี้คือ หลายคนไม่ได้เป็นคนในวงใน และหลายคนไม่ได้อยู่ในชุดข้อมูลที่ออกมาทั้งหมด และความจริงคือ ข้อมูลอาจจะมีความจริงหลายชุดก็ได้ โดยแต่ละชุดอาจถูกเล่าจากหลายมุมมองหรือว่าหลายคน ทั้งมุมของผู้ถูกกระทำเอง หรือมุมของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือแม้กระทั่งตัวแฟนๆเอง ก็จะมีชุดเรื่องเล่าไม่มากก็น้อย แตกต่างกันออกไปในประเด็นดังกล่าวนี้

...

อยากฝากไว้คือ อยากให้เสพสื่ออย่างมีวิจารณญาณ และ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมคิดว่า เราทุกคนอย่าลืมความเป็นมนุษย์ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่า เราไม่มีทางรู้ว่า ชีวิตของผู้ที่ได้รับการพูดถึงหรือได้รับผลกระทบ จะมีความสำคัญกับชีวิตคนอื่นๆ อีกไหม ทั้งคนในครอบครัวเขา ทั้งคนรอบตัวเขา และแม้กระทั่งคนท่ีเป็นต้นสังกัดเขา เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมคิดว่าสุขภาพจิต และชีวิตของคนที่อยู่ในเรื่องเล่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เวทีนางงาม เป็นพื้นที่ที่ทำให้เกิดการวิพากษ์ และนำไปสู่เรื่องของ Sex Worker หรือเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นประเด็นที่กระทบต่อประชากร หรือกระทบต่อประชาชน ในระบบสังคมที่มีกฎหมายรองรับอยู่ ผมคิดว่าตัวกฎหมายเอง มันช้าเกินไปหรือเปล่า ที่จะออกมาคุ้มครองสิทธิ์ หรือออกมาทำให้ชีวิตของพลเมืองไทย มันไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายอย่างเต็มที่