โคลนถล่มหนา 60 เซนติเมตร ต้นเหตุเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ เขตปกครองว้าแดง กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ แหล่งเพาะปลูกกลุ่มไทใหญ่ จับตาสารปนเปื้อนไหลเข้าไทย

เหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ในพื้นที่เขตปกครองของกลุ่มว้า ในพื้นที่เมียนมา ซึ่งเหมืองแร่เหล่านี้มักก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชน เนื่องจากต้องใช้สารเคมีในกระบวนการสกัด และมีการปล่อยสารพิษลงสู่แหล่งน้ำ ที่ก่อนหน้านี้มีการสำรวจพบสารปนเปื้อนเข้ามาในแหล่งน้ำของไทยในพื้นที่เชียงรายและเชียงใหม่


ล่าสุด แถลงการณ์ โดย มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ 18 กันยายน 2568 ระบุว่า น้ำท่วมโคลนถล่มทำลายพื้นที่เพาะปลูกในเมืองขาก ที่ตั้งอยู่ทางท้ายน้ำของเหมืองแร่แรร์เอิร์ธของว้า (UWSA)

พื้นที่เพาะปลูกหลายร้อยไร่ริมแม่น้ำโหลยในเมืองขาก ทางตะวันออกของรัฐฉาน ถูกทำลายด้วยดินโคลน

และน้ำท่วมฉับพลันแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ในพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ซึ่งอยู่

...

ห่างประมาณ 20 กิโลเมตร จากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเขตเมืองป้อกภายใต้การควบคุมของกองทัพว้า (UWSA)


ฝนที่ตกหนักทำให้แม่น้ำโหลเอ่อล้นตลิ่งเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ไหลท่วมพื้นที่เพาะปลูกทั้งสองฝั่งแม่น้ำด้วยระดับน้ำสูงถึงสองเมตร เมื่อระดับน้ำลดลงหลังจากผ่านไปสามวัน โคลนหนา 60เซนติเมตร ก็ถูกทิ้งไว้บนครึ่งหนึ่งของพื้นที่เพาะปลูกที่เคยถูกน้ำท่วม ทำลายพืชผลในท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้าว ข้าวโพด ถั่วลิสง และถั่วเหลือง ที่ตั้งของเมืองขากที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่

จากการขยายตัวของ เหมืองแร่แรร์เอิร์ธในพื้นที่เมืองป้อกที่ผ่านมา ซึ่งมักจะปล่อยกากของเสียลงสู่ลำธารที่ไหลลงสู่แม่น้ำโหลยตอนเหนือของเมืองขาก ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท้ายน้ำ จึงสันนิษฐานได้ว่า ปริมาณตะกอนดินและโคลนที่เพิ่มขึ้นในแม่น้ำโหลยเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธดังกล่าว


การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเมืองป้อก มักใช้วิธีแบบละลายแร่ สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการฉีดสารเคมีลงสู่พื้นที่ภูเขาเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเกิดการตัดไม้ทำลายป่าและดินถล่มเป็นวงกว้าง

รายงานของสำนักข่าวว้า ระบุว่า มีคนงานเหมืองแร่คนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุดินโคลนถล่มที่เหมืองแร่ แรร์เอิร์ธในเมืองป้อก เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 ศพของเขาถูกค้นพบในวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุ


ชาวบ้านดั้งเดิมในเมืองขากส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่ ซึ่งพึ่งพาการเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักเมืองขากตั้งอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพพม่า ถัดจากตัวเมืองเป็นที่ตั้งกองบัญชาการปฏิบัติการทาง

ยุทธวิธี ของรัฐบาลทหารพม่าอีกสี่กองพัน ได้แก่ กองพันทหารราบที่ 227 กองพันทหารเคลื่อนที่เร็ว 327กองพันทหารเคลื่อนที่เร็ว 328 และกองพันทหารปืนใหญ่ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้กองบัญชาการภูมิภาคสามเหลี่ยม (Triangle Regional Command)

...


แม่น้ำโหลยไหลผ่านเมืองขาก แล้วจึงไหลไปยังเมืองเชียงตุงและเมืองลา จากนั้นไหลเข้าเขตเมืองยองซึ่งอยู่

ภายใต้การควบคุมของ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ NDAA (หรือที่รู้จักในชื่อ กลุ่มเมืองลา) ก่อนจะไหล

ลงไปบรรจบแม่น้ำโขงที่สบโหลย นอกจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเมืองป้อกแล้ว ยังมีเหมืองแร่แรร์เอิร์ธอีกแห่งที่

เมืองยอง ในพื้นที่ควบคุมของ NDAA ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโหลย


โดยก่อนหน้านี้ เหมืองแร่ดังกล่าวในเขตปกครองของว้าแดง ในพื้นที่เมียนมา มีการรายงานว่า เป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ปล่อยสารพิษลงในแม่น้ำ และทำให้แม่น้ำในพื้นที่ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ของไทย มีสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำค่อนข้างสูง แม้ก่อนหน้านี้จะมีการเจรจากับตัวแทนว้าแดง แต่ก็ต้องจับตาผลกระทบที่มาจากภัยธรรมชาติหลังจากนี้ ที่อาจส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำในไทย