ไทยกัทพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว ปราบม็อบกัมพูชา ยิงกระสุนยาง-แก๊สน้ำตา หลุมพลางปฏิบัติการมวลชน เปิดแนวทางไทยควรจับกุมผู้รุกล้ำเขตแดน ขืนปล่อยซ้ำซาก เป็นภาพลบสายตานานาชาติ ชี้พรมแดน จ.สระแก้ว มีโอกาสปะทะลุกลาม
วันนี้ (17 ก.ย.68) กองทัพบกแจงเหตุการณ์มวลชนกัมพูชาชุมนุมประท้วง บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว พบฝ่ายกัมพูชา นำประชาชนและมวลชนประมาณ 200 คน มาชุมนุมประท้วงการปฏิบัติฝ่ายไทย ระหว่างการวางเครื่องกีดขวาง ลวดหีบเพลงเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
ต่อมา เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ เนื่องจากผลของแก๊สน้ำตา จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD
...
ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านั้นบริเวณริมชายแดนไทย-กัมพูชา มีรายงานการปะทะของมวลชนกัมพูชา ในหลายพื้นที่
รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา และอาจารย์ประจำสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) วิเคราะห์ว่า การดำเนินการกับม็อบของกัมพูชา ที่รุกล้ำรื้อรั้วลวดหนามและมีการประท้วงควรมีขั้นตอนในการปิดประกาศเพื่อเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน ว่าไทยมีแนวทางปฏิบัติจากเบาไปหาหนักอย่างไร โดยระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอธิปไตยของไทย ถ้าทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาจะเริ่มต้นจากการประชุมในระดับผู้ว่าจังหวัด แต่ถ้าไม่มีข้อยุติต้องใช้ตำรวจคุมฝูงชน เพราะประเทศไทยต้องบังคับใช้กฎหมายอาญาในการจับกุมคนที่บุกรุก
ไทยกัมพูชา สิ่งที่ไทยกังวลในเรื่องที่กัมพูชาใช้โล่มนุษย์ และใช้สื่อมาคอยถ่ายคลิปพฤติกรรมความรุนแรงที่ไทยกระทำต่อชาวกัมพูชา ซึ่งไทยต้องยืนยันว่าก่อนหน้านี้เรามีการประกาศเตือนแล้วตามแถลงการณ์ ถ้ามีการฝ่าฝืนต้องจับกุมมาดำเนินคดี โดยไม่ใช่การจับกุมแบบพลการ แต่ใช้ความอดทนตามขั้นตอนแล้ว
ชายแดนไทยกัมพูชา ถ้าทางการไทยไม่จับกุมชาวกัมพูชาที่ก่อเหตุ แล้วปล่อยให้กระทำซ้ำซาก มีโอกาสที่กัมพูชา ใช้โอกาสนี้ในการป่าวประกาศต่อสื่อต่างประเทศว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นอธิปไตยของกัมพูชา
การใช้ตำรวจปราบจลาจลเข้าไปควบคุมในพื้นที่ ถือว่ามีความเหมาะสม เพราะเป็นยุทธวิธีที่ไม่ใช่การรบแบบทหาร แต่ใช้กระสุนยางกับแก๊สน้ำตาเป็นหลัก เพราะเป็นการบังคับใช้กฎหมายอาญาในพื้นที่อธิปไตยของไทย
ไทยกัมพูชา จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดว่าถ้าไม่มีการจัดการที่เด็ดขาดก็จะมีปัญหามาเรื่อยๆ เพราะต้องยอมรับความจริงว่า 1.รั้วลวดหนามหีบเพลง เปราะบางเคลื่อนย้ายได้ง่าย วางเพียงรั้วแค่นี้ไม่เพียงพอ ตัวอย่างเช่นชายแดนฝั่งพม่า บางจุดมีการสร้างกำแพงไม้ไผ่ที่เป็นเหมือนค่ายที่ใช้ในการรบสมัยก่อน
ในพื้นที่ชายแดนสระแก้วกับเมืองบันเตียเมียนเจย เป็นทุ่งราบ ไม่มีภูเขามากั้น ขณะที่บางช่วงก็เป็นเส้นเขตแนวคลองธรรมชาติ บางช่วงไม่มีก็เป็นเส้นตรงตัดกลางทุ่งนา ซึ่งความจริงมีหลักเขตแดนกำหนดอยู่
รัฐบาลชุดใหม่ควรจัดผลประโยชน์ของคนในประเทศก่อน ส่วนผลประโยชน์ของเพื่อนบ้านค่อยเป็นเรื่องตามมา แต่กรณีเพื่อนบ้านใช้โล่มนุษย์มาก็ต้องสื่อสารให้ชัดเจน และถ้าเขาข้ามมาก็ต้องจับกุม ไม่มีทางเลือกอื่น ที่จะสามารถควบคุมได้ในเวลานี้
...
ไทยกัมพูชา พื้นที่แถวสระแก้ว เกิดการปะทะของมวลชนแบบนี้เรื่อยๆ แล้วเป็นอันตรายต่อไทย ถ้าเราไม่ทำอะไร ปล่อยให้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ ภาพลักษณ์ของไทยในต่างประเทศก็จะดูแย่ลง และต้องจับตาดูว่าหลังแต่งตั้งรัฐมนตรีกลาโหม การจัดการพื้นที่ริมชายแดนกัมพูชา ไทยจะเดินเกมรุกหรือตั้งรับเหมือนเช่นที่ผ่านมา
...