“บิ๊กเต่า” เส้นทางมือปราบทุจริต พลีชีพ...ไม่สนตกขบวนแต่งตั้งตำรวจ ขอทำงานหนัก เรียกร้องความเป็นธรรมคนทำงาน
"ส่วนตัว แม้ไม่ได้รับการแต่งตั้งอีกในปีหน้า จะไม่มีการร้องเรียนใดๆ แต่ยิ่งทำงานหนักเพื่อส่วนรวม ไม่มีเสียขวัญกำลังใจ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ให้สัมภาษณ์หนักแน่นวันนี้ (1 ก.ย. 68) หลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พิจารณาแต่งตั้งตำรวจ โยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย แต่ไม่มีชื่อตนเอง หลังยอมพลีชีพร้องเรียนแต่งตั้งไม่เป็นธรรม
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ขึ้นชื่อว่าเป็นมือปราบสายตงฉิน จับคดีดังไม่สนการวิ่งเต้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อดีตรักษาราชการแทนผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจทางหลวง อดีตผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พื้นเพลูกหลานคนสุพรรณบุรี จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 29 (ตท.29) โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 45
ปูทางรับราชการจากตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 จ.เพชรบุรี ต่อมาเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อย ๆ จนได้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจทางหลวง และรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
...
ทำคดีเกี่ยวข้องกับส่วยทางหลวง สติ๊กเกอร์รถบรรทุก ซึ่งเกี่ยวโยงกับกำนันนก ผู้กว้างขวางในเมืองนครปฐม แต่คดีนี้ก็เกิดแรงกระแทกในสังคมจับตาการทำงาน พร้อมกับศึกในกรมตำรวจ
"มือปราบการทุจริต" พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับตำแหน่งสำคัญใน กองบัญชาการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการ ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้บังคับการกองปราบปรามการทุจริตในวงราชการ(ผบก.ปปป.) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขาได้โชว์ผลงานการปราบปรามทุจริตที่สร้างชื่อเสียงอย่างมาก เช่น คดีอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือคดีอธิบดีกรมสรรพากร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ด้วยผลงานที่ประจักษ์ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้ขึ้นสู่ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในเวลาต่อมา แม้ผลงานการปราบทุจริตพระ ทั้งกรณีวัดไร่ขิง และหลวงพ่ออลงกต แต่จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อ 31 ส.ค.68 ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง ในการจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย
แต่ปรากฏว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ไม่มีชื่อในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยออกมาเปิดหน้ายื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ให้สัมภาษณ์กับสื่อ วันนี้ 1 ก.ย.68 ถึงผลการแต่งตั้งดังกล่าว ยืนยันไม่น้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานได้รับโอกาส เช่น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตนยินดีด้วย เพราะพล.ต.ต.นพศิลป์ เป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน หรือ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผบช.ตชด. ที่ได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จากผลงานร่วมรบที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตนเองดีใจด้วย
แต่ก็ยังมีบางรายชื่อ 2-3 นายที่ตนเองยังมองว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับเลื่อนยศจากพลตำรวจตรี ขึ้นเป็นพลตำรวจโท ส่วนระดับยศพันตำรวจเอกขึ้นพลตำรวจตรี ตนเองยังไม่เห็นรายชื่อ จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มองว่า ถ้าเพียงแค่ตนเองกระตุกเตือน ก.ตร. หรือผู้บังคับบัญชาให้แก้ไขเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมได้ ก็เป็นสิ่งที่ดี หลังจากนี้ตนเองจะไปหารือกับกรรมาธิการการตำรวจ
...
รวมทั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อวางแนวทางโครงการการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถให้มีความชัดเจนต่อไป ว่าควรคำนึงถึงอะไรบ้างในการแต่งตั้ง และช่วยผลักดัน ก.ตร. ชุดนี้ใช้ พ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ.2565 สำหรับการแต่งตั้งในอนาคตให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นธรรมกับทุกคน