ส่องท่าที เพื่อไทย VS ภูมิใจไทย ขอเสียงโหวตนายกฯ เปิดหน้าขุดคดีอีกฝ่ายสู้ เดิมพันเลือกตั้งครั้งหน้า ใครพลาดมีโอกาสถูกขุดหลุมฝังทางการเมือง

การเมืองไทยยังไม่หายฝุ่นตลบหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" อดีตนายกจากพรรคเพื่อไทย ถูกคำสั่งจากศาลรัฐธรรมนูญ หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีคลิปเสียงฮุนเซน และทันที นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เดินสายขอคะแนนเสียงในการสนับสนุนเป็นนายกฯ และตัวแปรสำคัญคือพรรคประชาชน ที่วันนี้พรรคเพื่อไทยได้ส่งแกนนำพรรคมาเจรจา เพื่อยืนยันตอบรับเงื่อนไข แต่ทั้งหมดนี้ ก็ต้องจับตาช่วงบ่ายวันที่ 1 ก.ย.นี้ ว่าที่ประชุมพรรคประชาชน จะมีมติโหวตให้พรรคไหนขึ้นมาเป็นนายกฯ


ผศ.ว่าที่ ร.ต.จตุพล ดวงจิตร อาจารย์ประจำวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ว่า ท่าทีของทั้งฝั่งเพื่อไทยและภูมิใจไทย ต่างต่อสู้กันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ก็ต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้านการต่อรองของพรรคประชาชน มีการต่อรองค่อนข้างสูง

...

พรรคเพื่อไทย แม้จะมีข้อเสนอให้ทำการยุบสภาฯ แต่คาดว่ายังไม่ไปถึงตรงนั้น เพราะถ้าเพื่อไทย ยุบสภาฯ ตอนนี้ก็เหมือนปิดสวิตช์ตัวเองในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ขณะเดียวกันเพื่อไทยก็มีการยื่นข้อเสนอให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ก่อน ในความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่า พรรคประชาชน ก็คงไม่รับข้อเสนอนี้

“เงื่อนไขที่พรรคประชาชนตั้งไว้ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจต้องใช้เวลามากกว่า 4 เดือน แต่ดีลข้อเสนอที่พรรคประชาชนตั้ง มีแนวโน้มที่จะโหวตให้กับพรรคภูมิใจไทยมากกว่า เพราะวันนี้พรรคการเมืองทุกพรรคจะมองหาโอกาสในการเลือกตั้งครั้งถัดไปมากกว่า ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามควบคุมฐานคะแนนเสียงของพรรคในอนาคตให้ได้”


การแข่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย มีสัญญาณที่ชัดเจน ในการที่จะเร่งคดีที่ทางฝั่งคู่แข่งยังติดปัญหาอยู่ให้เร็วขึ้น ถือเป็นธรรมชาติของการเมืองที่พยายามดิสเครดิตของกันและกัน ซึ่งทั้งสองฝ่าย ต้องพยายามควบคุมอำนาจรัฐให้ได้เพื่อยื้อและจัดการกับกรณีร้องเรียนที่เข้ามาให้ได้สำเร็จ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ฝั่งภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย พยายามดึงอำนาจสูงสุดในการจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาไว้กับตัวเอง

การที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย จะซื้อใจพรรคประชาชนได้ ในการโหวตฯ นายกฯ ให้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การรับเงื่อนไขให้ครบทุกข้อตามที่เรียกร้องมา ขณะเดียวกันก็ต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ แต่ด้วยที่นั่งที่ดีลกันไว้ คาดว่าจะเป็นภูมิใจไทย ที่จะก้าวมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะเสียงสนับสนุนมากกว่า บวกกับท่าทีแสดงออกมีความชัดเจน

แม้ใครจะมองว่าพรรคประชาชน มีแต้มต่อค่อนข้างสูงในรอบนี้ แต่ในทางการเมืองแม้จะไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร แต่คะแนนสนับสนุนตอนนี้เริ่มเทมาทางภูมิใจไทย ส่วนเพื่อไทย ก็เริ่มมี สส.ที่หันมาสนับสนุนพรรคฝั่งตรงข้ามมากขึ้น


การเลือกตั้งส่วนใหญ่ ยังมองที่ตัวบุคคลโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ด้วยสภาวะการเมืองเวลานี้ คาดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จะมีการซื้อตัว สส.กันอย่างดุเดือด และมีแนวโน้มว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทย กับพรรคประชาชน จะมีคะแนนมาในอันดับต้นๆ

...


ยืดอายุรัฐบาลเพื่อไทย มองโอกาสยุบสภาฯ


ด้าน รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัววันนี้ (31 ส.ค.68) ว่า ที่ว่าเพื่อไทยเป็น "ศพเดินได้ รอวันเผา" เพราะสูญเสียความชอบธรรมไปตั้งแต่ทรยศประชาชนสิบล้านเสียงที่เชื่อ "เทคนิคการหาเสียง" ของเพื่อไทยลงคะแนนเสียงให้แล้วโดนตระบัดสัตย์ การบริหารที่ล้มเหลวตลอดสองปีและความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในปัญหากัมพูชาและความสัมพันธ์กับกองทัพ ยิ่งทำให้เพื่อไทยไม่มีทุนการเมืองเหลืออยู่อีกแล้ว

...



ทุกวันนี้ ผู้คนธรรมดาที่ปกติไม่สนใจการเมือง ไม่ใช่ด้อมพรรคใด ต้องการผ่านพ้นรัฐบาลเพื่อไทย ไปเสียที ต้องการยุบสภาโดยเร็ว แต่เพื่อไทยก็ทู่ซี้ไม่ยอมยุบสภา เพราะรู้ว่าเลือกตั้งคืองานเผาศพตัวเอง ทางออกที่เหลือคือ ประยุทธ์ นายกฯ คนนอก รัฐประหาร หรือสภาเลือกรัฐบาลใหม่ที่มีภารกิจยุบสภาโดยเร็ว

พรรคประชาชน ต้องไม่ยื่นมือไปต่อชีวิตให้กับศพการเมืองนี้ ถ้าทำเช่นนั้น ก็เท่ากับเอาทุนการเมืองของตัวเองไปอุ้มศพที่เน่าเหม็น ถูกมองว่าไปยืดอายุรัฐบาลเพื่อไทยไปถึงปี 70 พรรคก็อย่าหวังที่จะได้ใจจากคนกลุ่มนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า