วัดพระบาทน้ำพุ เก็บศพกางมุ้ง ผู้ป่วยกว่า 10 ปี หมอมองโอกาสแหล่งแพร่กระจายเชื้อระยะยาว ชี้ว่าเชื้อจะปนอยู่ในเลือดและแพร่กระจายได้ 5 – 7 วัน ถ้าฉีดฟอร์มาลีน ลดการแพร่กระจาย แต่ยังเสี่ยงต่อเชื้อแบคทีเรีย

เมื่อวาน (วันที่ 20 ส.ค.68) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะที่มีอธิบดีกรมฯ และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องของการเปิดการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคเอดส์ อาคารสถานที่ โดยการเก็บศพผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ประมาณ 20 ร่าง ที่วัดพระบาทน้ำพุ โดยมีการกางมุ้ง และฉีดฟอร์มาลีนให้ร่างกายเหี่ยวแห้ง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ล่าสุดทางวัดเตรียมเผาศพผู้ป่วยโรคเอดส์ 20 ร่างตามคำแนะนำ สธ.


รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มองว่า การเก็บศพของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV แล้วมีการฉีดฟอร์มาลีน จากนั้นปล่อยร่างของผู้เสียชีวิตให้แห้ง แต่มีข้อกังวลว่าจะเป็นการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่อยู่ใกล้ทั้งจากการหายใจและการสัมผัส

...

มีงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า กรณีการเก็บศพของผู้ป่วย HIV ที่เชื้อจะอยู่ในเลือดของร่างกาย ถ้าเสียชีวิตไปแล้ว เลือดที่ออกจากระบบร่างกายจะมีลักษณะแห้ง ลดการแพร่กระจายเชื้อกว่า 90 % แต่กรณีการแพร่กระจายเชื้อของศพผู้เสียชีวิตที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ ไปสู่คนอื่นนั้น มีระยะเวลา 5 – 7 วัน ตัวเชื้อ HIV จะอยู่ในเลือดที่แห้งของผู้ป่วยที่เสียชีวิตได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์

การฉีดฟอร์มาลีน เป็นเงื่อนไขในการรักษาสภาพของศพ เพื่อชะลอการเน่า และทำลายโปรตีนและโครงสร้างของไวรัสและแบคทีเรียในศพ เมื่อฉีดฟอร์มาลีนเข้าไปในร่างของผู้ป่วยที่เสียชีวิต จะช่วยทำลายเชื้อไวรัส ทำให้ศพที่อาจแพร่กระจายเชื้อได้ภายใน 1 สัปดาห์ ลดการแพร่กระจายเชื้อลง หรือไม่ถึง 1 สัปดาห์


กรณีร่างผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ HIV ที่มีการฉีดฟอร์มาลีน จะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อแค่ช่วงแรก แต่หลัง 1 สัปดาห์ การแพร่กระจายเชื้อจะลดลงเรื่อยๆ

ถ้ามองความเสี่ยงการติดเชื้อในกระบวนการเน่าของศพ ที่จะมีเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลต่อผู้ที่สัมผัสก็มีโอกาสอยู่แล้ว หรือกรณีที่ศพดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่มีพาหะ เช่น แมลงวัน สัตว์ฟันแทะ เกิดไปสัมผัสกับศพ และนำเชื้อไปปนเปื้อนอาหารที่คนทานต่อ ก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อ


โอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อจากศพ จะมีเฉพาะในช่วงแรก การนำศพผู้ติดเชื้อทั้งหมดไปฌาปนกิจถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะถือเป็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ทุกคนควรได้รับ และเพื่อป้องกันการเป็นแหล่งกระจายเชื้อ

สำหรับคนที่ต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีร่างของผู้ติดเชื้อ ควรสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการสัมผัส หากต้องสัมผัสต้องสวมถุงมือ และล้างมือทุกครั้งหลังเสร็จสิ้นภารกิจ