งบรายหัวจำกัด วอนเพิ่มงบอาหาร ทหารแนวหน้า จุดห่างไกลมีค่าเดินทางซื้อวัตถุดิบ บางหน่วยติดกรอบราชการเบิกจ่ายยากถูกตรวจสอบย้อนหลัง
เหตุปะทะทหารไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังตลอดชายแดน แต่ในโลกโซเชียลกลับมีภาพทหารที่อ้างว่าเป็นทหารจากแนวหน้า ได้รับอาหารเพียงไข่ต้ม ทำให้สังคมเกิดคำถามถึงการได้รับเบี้ยเลี้ยงของทหารแนวหน้าในภาวะศึกสงคราม
ล่าสุด พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีการจัดการอาหารของทหารแนวหน้าว่า กรณีที่มีการปล่อยคลิป ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้อง เพราะบางพื้นที่อยู่ห่างไกลขอให้ไปดูให้ทั่วถึง และน้องทหารแนวหน้าอยากให้แจ้งมาที่ผู้บังคับบัญชาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเราจะได้ลงไปแก้ได้ถูกต้อง
ทีมข่าวสอบถามไปยังนายทหารระดับสูงรายหนึ่ง ระบุว่า ในการรบอาหารของทหารแนวหน้ามีด้วยกันหลายแบบ โดยเฉพาะทหารรบพิเศษจะเป็นอาหารแบบ Ration Pack หรือ MRE อาหารสำเร็จรูปที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับสถานการณ์ที่ท้าทาย กินได้เลยโดยไม่ต้องปรุง หรือเป็นอาหารกระป๋อง ที่จะมีราคาสูง ซึ่งการมารับเสบียงส่วนใหญ่จะมีเวลากำหนด เช่น 2 วัน มารับเสบียงทีนึง
...
อีกประเภทจะมีโรงครัวในแนวหลัง แล้วผลัดกันไปส่งในแนวหน้า การปรุงอาหารลักษณะนี้จะไม่ใช่หน่วยที่อยู่แนวหน้ามาก เช่น หน่วยลาดตระเวน ที่ทำงานคล้ายกับส่วนหน้า แต่ต่างจากแนวหน้าในการปะทะที่ต้องกินอาหารแห้งๆ เพราะมีโอกาสในการปะทะอยู่ได้ตลอด การแจกจ่ายเสบียงลักษณะนี้ สามารถมานั่งกินพร้อมกัน แต่ต้องมีการผลัดกันเข้าเวร
ปกติวงรอบของการส่งอาหารที่ต้องไปปรุงกันเองให้กับแนวหน้า ส่วนใหญ่ 7 วันส่ง 1 ครั้ง การทำอาหารในภาวะวิกฤติจะมีการทำอาหารตามกองพันแล้วจ่ายไปยังกองร้อยต่างๆ แต่บางพื้นที่ห่างไกลกันก็อาจมีการจัดการวันส่ง เช่น 3 วันส่ง 1 ครั้ง หรือถ้าบางพื้นที่ใกล้กันก็ส่งวันละครั้ง
ตอนนี้เสบียงที่แจกจ่ายให้กับกำลังพลที่ทำงานในแนวหน้าเพียงพอ แต่อาจไม่อร่อยเหมือนในสถานการณ์ปกติ ด้วยตัวงบประมาณไม่สามารถทำให้กินแบบอร่อยได้ ด้วยเบี้ยเลี้ยงทหารอยู่ที่หัวละร้อยกว่าบาท แต่ด้วยสภาวะนี้ การตั้งโรงครัวสนามในพื้นที่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายการเดินทางที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากทหารที่อยู่แนวหน้าห่างไกลจากพื้นที่ปกติ ตัวอย่างเช่น เดิมไปซื้อวัตถุดิบปรุงอาหารทีละมากๆ ได้ราคาถูกลง แต่ตอนนี้อาจต้องไปซื้อในตลาดที่ห่างไกลกว่าเดิม ทำให้มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของอาหาร ด้วยเบี้ยเลี้ยงอาหารที่มีจำกัด ก็อาจทำให้บางหน่วยกินอาหารที่ไม่ได้ดีพอ
ในภาวะวิกฤตินี้ควรมีการเพิ่มงบค่าจัดซื้ออาหารของทหารในแนวหน้า เพราะงบรายหัวที่ได้รับอยู่ตอนนี้ทำมานาน แต่ยังอยู่ที่หัวละร้อยกว่าบาท สิ่งนี้ทำให้วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารมีอย่างจำกัด
สำหรับวิกฤติควรมีงบประมาณเพิ่มในเรื่องการจัดเลี้ยงอาหารให้กับทหารในแนวหน้า ขณะเดียวกันควรจะมีนักโภชนาการที่คอยดูแลจัดการเรื่องอาหารอย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าจะให้ดีเราควรมีหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องการเงินของราชการมาร่วมด้วย เช่น สตง. ที่มาร่วมและสังเกตการณ์ เพราะนี่เป็นสถานการณ์วิกฤติ แต่ราชการหลายคนไม่กล้าที่จะหางบค่าจัดเลี้ยงมาเพิ่ม เพราะกลัวจะถูกตรวจสอบว่าทุจริต