หั่นแหลก “6 อาคาร” หน่วยงานรัฐ สร้างใหม่-ต่อเติม ถูกตัดงบประมาณ ปี 69 มากสุด “คมนาคม” ยืนเบอร์หนึ่ง ขอสร้างใหญ่โตระดับ 115,000 ตร.ม. จอดรถได้พันคัน รองรับเจ้าหน้าที่ 1,018 คน ด้านตำรวจขอ 90 ล้าน ทำบ้านพัก ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร. รวม 7 หลัง พร้อมลานจัดเลี้ยง “ศุภณัฐ” สส. พรรคประชาชน ชี้ราชการของบสอดไส้เกินเหมาะสม ก่อนการประชุมสภาฯ วาระพิเศษ ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2569 กรอบวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และอนุฯ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง กล่าวว่า วิธีการของบประมาณของหน่วยงานรัฐ ยังไม่ได้ดูถึงความเหมาะสม เช่น ของบปรับปรุงและก่อสร้างในขนาดพื้นที่เกินความจำเป็น ขณะเดียวกันก็มีงบตกแต่งที่สูงกว่าความเป็นจริง ทำให้บางโครงการที่ของบสามารถตัดงบประมาณได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ แต่การตัดงบของอนุกรรมการฯ ไม่ได้ตัดในเรื่องของปริมาณ แต่จะจัดงบต่อหน่วย เช่น งบการสร้างกำแพงตารางเมตรละ 5,000 บาท แต่ตัดงบเหลือตารางเมตรละ 2,000 บาท บางกรณีมีการของบประมาณอย่างที่ไม่ควรขอ เช่น บ้านพัก ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร.
...
การตัดงบครั้งนี้เป็นเหมือนยอดของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งหลักการต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการของบประมาณที่เหมาะสม และสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการตัดงบประมาณครั้งนี้ อาจได้เพียง 1เปอร์เซ็นต์จากงบประมาณประเทศทั้งหมด และมีการซุกซ่อนการของบในรูปแบบต่างๆ จำนวนมาก ประกอบกับการพิจารณาของคณะกรรมการมีเวลาไม่ถึง 20 วัน
ขณะที่สำนักงบประมาณ ก็บอกว่ามีเวลาพิจารณางบประมาณไม่ถึง 1 เดือน และไม่มีโปรแกรมในการกรองราคาในการก่อสร้าง
โดยข้อมูลจากเพจ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และอนุฯ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ระบุไว้ดังนี้
อันดับ 1 เป็นใครไม่ได้นอกจาก ตึกกระทรวงคมนาคม 3,832 ล้าน เรียกว่า ที่สุดของปีเพราะนอกจากจะสร้างใหญ่โตระดับ 115,000 ตร.ม. ข้างสถานีกลางบางซื่อแล้ว ยังถือว่าเป็นโครงการสายแข็งสุดของรุ่น แม้ว่าจะมีเหตุผลล้านแปดว่าไม่เหมาะสมอย่างไร แต่องค์รักษ์พิทักษ์ตึกก็พร้อมแบก
แม้จะชื่อ “ที่ทำการกระทรวงคมนาคม” แต่นี่คือชื่อหลอก เพราะหน่วยงานหลักอย่าง กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า รฟท. รฟม. ขสมก. ไม่มีใครย้ายมาตึกใหม่นี้เลย มีแค่สำนักปลัด กรมขนส่งทางราง สถาบันราง และ SRTA ซึ่งหมดนี่มีจนท.รวมกันแค่ 1,018 คนเท่านั้น ซึ่งพท.สำนักงานเดิมใช้กัน 28,000 ตร.ม. แต่ที่ใหม่กลับสร้างใหญ่ถึง 115,000 ตร.ม. เป็นพท.สำนักงาน 67,000 ตร.ม. ใหญ่กว่าเดิม 3 เท่า เฉลี่ย 67 ตร.ม./คน ใหญ่กว่ามาตรฐาน 4 เท่า มีที่จอดรถ 1,000 คัน ทำให้เป็นอาคารที่มีอัตราที่จอดรถต่อพนักงานสูงถึง 1:1 ทั้งที่สร้างติดสถานีรถไฟ เรียกว่า ผลาญกันถึงที่สุด ถ้าดูตามความเหมาะสม ควรเล็กกว่านี้ 50% ซึ่งจะประหยัดงบได้เกือบ 2,000ล้านบาท แต่ก็ต้องแพ้โหวตพรรคของเจ้ากระทรวงที่แบกตึกเต็มที่ ทำได้แค่ตัดงบ 380 ล้าน หรือ 10%
อันดับ 2 พิพิธภัณฑ์องค์ความรู้ไม้มีค่า มรดก คสช. ดูผิวเผินเหมือนไม่มีอะไร เพราะปีนี้ของบระยะ 3 400 ล้าน แต่ถ้ารวม 3 ระยะจะตกใจ เพราะนี่คือ อภิมหาโปรเจกต์ 3,800 ล้านบาท ของกระทรวงทรัพยฯ ออกแบบมาเวอร์วัง สร้างตั้งแต่ปี 59 แต่ยังไม่เสร็จ ระดับความแพงเรียกว่าสุดในรุ่น ก่อสร้างอาคาร เฉลี่ย 130,000/ตร.ม.
...
รอบนี้งบที่ขอคือ ค่า landscape และระบบไฟฟ้ารวม 400 ล้านบาท ขนาดงบเครื่องปั่นไฟสูงกว่า รพ.ใช้ถึง 6 เท่า โดยอ้างว่าต้องเปิดแอร์ 24 ชม. จนอนุงงว่า ไม้เนื้อแข็งกลัวความร้อนขนาดไฟดับไม่กี่ชั่วโมงจะพังเลยหรือ และพท.สวน 30 กว่าไร่ เฉลี่ยค่าสวนตร.ม.ละ 5,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเรตที่แพงมาก ทางอนุจึงตัดงบไป 50 ล้าน ซึ่งยังถือว่าน้อยมากกับงบที่ใช้
อันดับ 3 ค่าปรับปรุงอาคารสำนักงาน ก.พ. 628 ล้านบาท โดยเป็นอาคารราว 11,000 ตร.ม. ใช้โครงสร้างเดิม ไม่ได้ทุบทำใหม่ แต่กลับใช้งบปรับปรุงตกแต่งเฉลี่ย 57,000/ตร.ม. เรียกว่า แพงมหาโหด เลยโดนแขวนงบ จี้ให้ปรับ 2 รอบ รอบแรกเหลือ 470 ล้านบาท แต่ผมบอกว่าน้อยไป ถ้าไม่เลข 3คงต้องตัดทิ้งทั้งโครงการ สุดท้ายจบที่ 385 ล้านบาท ลดเกือบ 40% จากที่ตั้งคำขอมา
อันดับ 4 ค่าตกแต่ง รพ.ราชทัณฑ์ 260 ล้าน รพ.ที่ได้งบก่อสร้างแล้ว และมาขอค่าตกแต่งต่อในปีนี้ ถ้าใครเห็น BOQ แล้วจะอึ้งกันหมด เพราะแพงมหาโหดจนงงว่านี่ รพ.ราชทัณฑ์ หรือ รพ.บำรุงราษฎร์ บิ้วอินแพงทุกชิ้นเพราะไม่มีราคากลาง ตู้รองเท้าครึ่งล้าน ตู้ใส่ผ้าหลักล้าน ทั้งยังมีห้องผู้ป่วย VIP จนนึกว่า ชั้น 14 รพ.ตำรวจ สุดท้ายตัดงบไปเกือบ 50% เหลือ 138 ล้าน
อันดับ 5 โครงการบ้านข้าราชการตำรวจ 90 ล้านบาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฟังเหมือนไม่มีอะไร แต่โชคเข้าข้างที่สงสัย ไปเปิดไส้ดูพอดี และก็ jackpot เพราะมันคือบ้านพัก ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร. รวม 7 หลัง 90 ล้าน แต่ในเอกสารเขียนว่า ไว้เป็นศูนย์บัญชาการเหตุ พร้อมที่หลบภัยของตำรวจระดับสูง กรณีมีการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งตรงปทุมวันอาจตกเป็นเป้า ไม่ปลอดภัย
...
แต่พอดูแบบกลับพบว่า สร้างเป็นบ้านเดี่ยว 7 หลัง ภายในมีห้องจัดเลี้ยง มีลานจัดเลี้ยง ห้องนอน 3 ห้อง สร้างใกล้กัน ผบ.ตร. 1 หลัง รองอีก 6 หลัง ซึ่งย้อนแย้งกับการเป็น command center มาก จึงเสนอตัดทั้งรายการทันที 100%
อันดับ 6 อาคารสุขสันติ์ หรือบ้านบางแค ver. ไฮโซ ด้วยงบ 500 ล้าน กะให้เป็นโครงการตัวอย่างแก่เอกชน แต่กลับไม่ดูความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เพราะโอกาสคืนทุน 0 ตอนแรกเตรียมให้อยู่แค่ 200 คน เท่ากับจ่ายให้คนละ 2.5 ล้านไม่รวมค่าที่ดิน เรียกว่า แพงกว่าสร้างคอนโดแจกคนละห้อง เลยให้ไปปรับแบบจนยัดคนเพิ่มเป็น 330 คน แต่เพราะเอาแบบจาก A49 ราคาเลยสูงถึง 46,000/ตร.ม. แพงกว่าสร้าง รพ. เลยตัดงบ 30 ล้าน และตั้งข้อสังเกตว่า ต่อไปไม่ต้องสร้างเอง เพราะสร้างแพง และ “ฝนตกไม่ทั่วฟ้า” ควรใช้การอุดหนุนเอกชนให้ลงทุนแทน จะช่วยคนได้มากกว่านี้หลายเท่า
ทั้งนี้ยังมี “ตัวตึง” อีกหลายที่อย่าง ตึก สปก., ตึกกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, ตึก DOA future lab กรมวิชาการเกษตร, ตึก ก.พลังงาน, อาคารดุริยาง กองทัพอากาศ และ อาคารกรมฝนหลวง แต่วันนี้ขอหยิบแค่ 6 อันดับมาเล่าให้ฟังก่อนนะครับ
...
สำหรับ ปี 69 งบที่เข้า ห้องอนุสิ่งก่อสร้างที่ผมนั่ง ยอด 320,000 ล้าน โดยเราตัดงบได้คือ 2,878ล้าน สูงสุดอันดับ 1 และยังมีงบผูกพันในอนาคตที่เราตัดไปได้อีกราว ๆ 1,700 ล้านบาท รวมแล้วปีนี้ช่วยเซฟงบประเทศไปได้ 4,500 ล้าน ถือว่าก็พอคุ้มค่าเหนื่อยครับ สำหรับการนั่งอนุ จันทร์ถึงศุกร์ ตลอดเดือนกรกฎาคม ที่หลายท่านอาจจะเห็นว่าผมดูเงียบๆ ไปหน่อย
ทั้งนี้ยังมีงบอีกมาก ที่นอกจากแพงแล้ว ยังไม่ค่อยสมเหตุสมผล หรือยังไม่จำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบสร้าง ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเช่นนี้ ซึ่งถ้าทุกพรรคร่วมใจกันพิจารณาแบบเข้มงวด และยอมตัดงบไร้สาระจริงๆ โดยไม่ดูว่า เป็นงบของกระทรวงใครพรรคใด ผมเชื่อว่าจะประหยัดงบให้ประเทศได้อย่างน้อยๆ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อไปลงทุน ไปพยุงเศรษฐกิจ sector ที่มีปัญหา หรือจัดสวัสดิการดีๆ ให้กับประชาชนได้ครับ