ส่องท่าทีกองทัพ ยอมล้มโต๊ะเจรจา GBC กัมพูชายื้อเวลาหยุดยิง ยัน 11 จุดควบคุม ไม่ตีเส้นพรมแดนใหม่ จับตากัมพูชา เปลี่ยนตัวหัวหน้าทีมเจรจา ไทยช้าพลาดท่าตั้งแต่ตกลงเปิดโต๊ะเจรจาที่กัมพูชา ดีที่คิดได้ ยื่นหนังสือขอเปลี่ยนไปมาเลเซีย
โต๊ะเจรจาคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) ส่อวุ่น หลังไทยประกาศยอมรับคำเชิญกัมพูชา แต่ขอเปิดโต๊ะเจรจาประเทศที่ 3 อย่างมาเลเซีย ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเจรจาหยุดยิงกับกัมพูชาที่มาเลเซีย โดยตอนแรกนัดประชุมกันวันที่ 4 ส.ค.นี้ แต่ทางไทยขอเพิ่มวันประชุมเป็น 4 – 7 ส.ค.นี้ ที่มาเลเซีย ดีที่ฝั่งไทยยังฉุกคิดทัน ไม่หลงเดินทางไปให้กัมพูชาเชือดถึงถิ่น
แม้มีการเปิดโต๊ะเจรจา GBC แต่ถ้าส่องเงื่อนไข ฝั่งกองทัพ ที่เสียกำลังพล และประชาชนผู้บริสุทธิ์ฝ่ายไทยไปจำนวนมาก การเจรจาเพื่อให้กัมพูชาต่อรอง ในพื้นที่ที่ทหารไทยสู้รบจบควบคุมได้ 11 จุด ก็อาจไม่ใช่เรื่องง่าย กรณีนี้ นายทหารระดับสูงรายหนึ่ง มองว่า ทางกองทัพยืนยันว่าการยึดคืนทั้ง 11 จุดในการปะทะกับกัมพูชาครั้งนี้ ฝั่งทหารจะยึดตามจุดนี้ไว้ ดังนั้นจุดไหนที่ยึดอยู่ตอนนี้ จะไม่คืนให้กัมพูชา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การไปเจรจาของรัฐบาล
เพราะทางทหาร การปฏิบัติการปะทะกับกัมพูชาครั้งนี้ เราเสียกำลังพลไปมาก การจะไปให้คืนบนโต๊ะเจรจาฝั่งทหารก็ไม่ยินยอมแน่
“เท่ากับว่าไทยต้องฉีก MOU เดิมที่เคยตกลงกับกัมพูชาไว้ ก่อนหน้านี้ไทยก็ยึดตามข้อตกลงนั้นมาตลอด แต่กัมพูชาไม่เคยสนใจ MOU และทำการละเมิดถึง 70 ครั้ง เป้าหมายของผู้นำกัมพูชา แค่พยายามสร้างภาพว่าเอาชนะไทยได้ และสร้างความเคียดแค้นให้กับกัมพูชา เพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง”
...
การเข้าควบคุมได้ทั้ง 11 จุด กองทัพก็มองว่า ประสบความสำเร็จ จากเดิมที่หลายรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าจัดการกับกัมพูชา ที่พยายามลุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ทั้งการแอบมาสร้างบ้านเรือนประชาชนล้ำเขตแดน หรือให้ทหารกัมพูชาเข้ามาสร้างบ้านและพาลูกพาเมียมาอยู่ด้วย แล้วอ้างว่าเป็นดินแดนของตัวเอง บางจุดก็ไม่มีการจัดการที่ชัดเจน จนกัมพูชาสามารถสร้างกระเช้าขึ้นไปบนภูได้
บางจุดล่อแหลมอนาคตต้องมีการล้อมรั้ว ตัวอย่างเช่น ชุมชนที่กัมพูชา พาคณะทูตไปดู ก็เป็นพื้นที่ที่รุกล้ำตามเงื่อนไข MOU การเข้าไปของทหารรอบนี้ก็ไปรื้อบ้านเรือนที่ตั้งเหล่านั้นออก แต่กัมพูชากลับไปบอกชาวต่างชาติว่าทหารไทยทำลาย
สิ่งที่น่าเป็นห่วงเมื่อเปิดโต๊ะเจรจา GBC คือ ฝั่งการเมืองไทย ชุดเจรจายังทำงานช้า และยังไม่รู้ว่าจะมีหมัดเด็ดอะไรที่จะไปต่อสู้เขา ขนาดไปเจรจาหยุดยิง ยังไปตอบรับประชุมรอบต่อไปที่กัมพูชา แทนที่จะยืนยันว่าไปประชุมที่ประเทศที่ 3 ตั้งแต่แรก ขณะเดียวกันกลยุทธ์ในการเจรจาไม่ใช่ไปต่อรองว่าจะให้อีก
ถ้าเรายืนยันว่า จุดที่ยึดมาไม่ให้คืน ก็ต้องมีมาตรการในการเจรจาต่อไป เพราะการที่กัมพูชาเปิดโต๊ะเจรจาก็หวังจะได้พื้นที่บางส่วนคืนไป แม้ในความเป็นจริงจะเป็นพื้นที่ที่มีการรุกล้ำมานาน การไปเจรจาของไทยก็น่ากังวล เพราะคนที่ไปเจรจาก็รู้จักกับฝั่งนั้น ถ้าให้ดีต้องเปลี่ยนนายกฯ หรือไม่
น่าสนใจว่า การเจรจา GBC รอบนี้ ทางกัมพูชาเปลี่ยนหัวหน้าทีมเจรจา ก็มีแนวโน้มว่าจะคุยตกลงกันยากมากขึ้น แสดงว่าทางกัมพูชามีธงว่าบางอย่างที่ต้องการจากเจรจาครั้งนี้ คาดว่าการเจรจาจะไม่จบ ต่อให้ไทยมีหลักฐานแน่นแค่ไหน ทางกัมพูชาก็พร้อมปฏิเสธไม่ยอมรับ
ถึงอย่างไร GBC ไม่มีขอบเขตในการตัดสินใจ และออกคำสั่งให้ทั้งสองประเทศมาพิจารณาเขตแดนใหม่ แต่สามารถแถลงความร่วมมือได้ ตอนนี้ GBC เหมือนกับเป็นแค่เวลาที่ในการชะลอให้หยุดยิงชั่วคราว แล้วตอนนี้ก็อาจจะตั้งท่าปะทะกันใหม่อีก หรืออาจจะต้องไปเจรจาในเวที คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (Joint Boundary Commission – JBC)
สิ่งที่เป็นปัญหาของไทยตอนนี้คือ การสื่อสารจากฝั่งหน่วยงานรัฐที่ล่าช้า และอาจเป็นผลทำให้ไทยพ่ายแพ้ได้ในเวทีเจรจาระดับนานาชาติ
...