จากกรณีวันนี้ (24 ก.ค.2568) เกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนลุกลามไปตลอดแนวชายแดนนั้น


กองทัพภาคที่ 2 กองทัพบกไทย ได้รายงานว่า เมื่อเวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชา บินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน

ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ทำให้เกิดการปะทะกัน 

ขณะที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ประณามการรุกรานทางทหารประเทศไทย โดยระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ทหารไทยได้ละเมิดข้อตกลง ลอบปีนขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธมและวางรั้วลวดหนามบริเวณเชิงปราสาท ก่อนที่เวลา 07.04 น.จะเปิดปฏิบัติการทางอากาศด้วยโดรนนานประมาณสองนาที และต่อมาในเวลา 08.30 น. ได้มีการยิงอาวุธจริง 

...

ต่อมาเวลา 08.46 น.ทหารไทย ได้เปิดฉากยิงใ่ส่กองกำลังทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณตาเมือนธม โดยปราศจากการยั่วยุมาก่อน ก่อนขยายการโจมตีไปยังพื้นที่ปราสาทตาควาย 

กองทัพไทยได้เปิดฉากยิงใส่กองกำลังทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในบริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยไม่มีการยั่วยุมาก่อน และจากนั้นได้ขยายการโจมตีไปยังบริเวณปราสาทตาควาย ภูเขาขมอย ทำให้ทางกองทัพกัมพูชาไม่มีทางเลือก ต้องยิงตอบโต้ในเวลา 08.47 น. โดยอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของกองกำลังทหารต่างชาติ ภายในอาณาเขตของตนเอง 

ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า รายงานว่า พื้นที่การโจมตีขยายวงกว้างไปถึงพื้นที่มอมเบย จ.พระวิหาร โดยในเวลา 10.50 น. เครื่องบินรบ F-16 ของไทยได้ทิ้งระเบิด 2 ลูกบนถนนวัดแก้วสิขขคีรีวราราม ซึ่งพื้นที่เหล่านี้อยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา โดยเฉพาะในจังหวัดอุดรมีชัยและจังหวัดพระวิหาร ซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกองทัพกัมพูชา 

ที่มา : กองทัพภาคที่ 2, กระทรวงกลาโหมกัมพูชา