จากกรณีที่รัฐบาลเพื่อไทยยอมถอย ถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากสภาฯ รอเวลาเหมาะสมเสนอให้ ครม.พิจารณาใหม่ ดังคำชี้แจงของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ว่า
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นการดึงฟืนออกจากกองไฟ เป็นโอกาสที่ดีในการชะลอ พ.ร.บ. ไว้ก่อน ทำให้เรามีเวลาทำความเข้าใจกับสังคมมากขึ้น แล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่”
การยอมถอนครั้งนี้ นำมาสู่การโพสต์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อดีตพรรคร่วมรัฐบาลและ รมว.กลาโหม ว่าทางพรรคสนับสนุนให้ยกเลิกถาวร พร้อมแฉว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเคยขอให้ยกเลิกนโยบายนี้ถึง 3 ครั้งในที่ประชุมระดับผู้นำของทั้งสองประเทศ ไม่เช่นนั้นจีนจะออกมาตรการต่างๆ ให้คนจีนปรับท่าทีการท่องเที่ยวและลงทุนในไทย และการที่รัฐบาลเมินเฉยต่อคำเตือนนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดฮวบ
ทำเอานายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ต้องรีบออกมาโต้กลับ ว่านายอนุทิน “ใส่สีตีไข่” ผู้นำจีนได้สอบถามและตนได้อธิบายให้เข้าใจแล้วว่า กาสิโนจะมีแค่ 10% และได้ขอคำแนะนำจากจีนด้วยซ้ำ การที่นักท่องเที่ยวไม่มาเป็นเพราะเรื่องความปลอดภัยที่มหาดไทยดูแลหรือเปล่า?
...
แล้วทำไมจีนถึงทักเรื่องกาสิโน?
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประเทศจีนแสดงท่าทีแข็งกร้าวหรือเป็นกังวลต่อธุรกิจกาสิโนและการพนันในภูมิภาค อาจเป็นเพราะธุรกิจเหล่านี้มีความเชื่อมโยงอย่างมากกับกลุ่ม "ทุนจีนสีเทา" และขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าสำคัญก็คือประชาชนชาวจีนเอง
แม้ว่า “มาเก๊า” ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน จะขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางกาสิโนเฟื่องฟูที่สุดในโลก สร้างรายได้ในปี 2024 กว่า 9 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของการเก็บภาษีแต่ การพนัน ถือว่าผิดกฎหมายในประเทศจีน นับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ขึ้นสู่อำนาจ ในปี ค.ศ.1949 และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็แสดงออกว่ามีจุดยืนคัดค้านการพนันและกาสิโน เห็นได้จากท่าทีของรัฐบาลปักกิ่งที่ดำเนินการเกี่ยวกับการพนัน รวมถึงนโยบายปราบปรามคอร์รัปชั่น การฟอกเงินและการพนันออนไลน์
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศจีนได้เรียกร้องให้นานาชาติ เข้มงวดในการจัดการพนันออนไลน์ที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มนักพนันชาวจีน อย่างในปี 2019 จีนได้เจรจาและใช้มาตรการกดดันต่างๆ จนกัมพูชาออกคำสั่งห้ามการพนันออนไลน์ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มจีนเทาที่เข้ามาลงทุนในสีหนุวิลล์ จนต่างพากันถอนทุนออกจากเมือง อาคารหลายแห่งที่กำลังก่อสร้างถูกทิ้งร้าง เศรษฐกิจซบเซาลง
ในปี 2020 กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ได้จัดทำ “ระบบบัญชีดำ” รวบรวมจุดหมายการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ที่มีกาสิโน แหล่งพนันข้ามชาติที่มุ่งเป้าลูกค้าชาวจีน ให้เหตุผลว่าการพนันข้ามชาติเหล่านี้กระทบต่อตลาดท่องเที่ยวในประเทศ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองจีน โดยไม่ได้เปิดเผยว่ามีที่ไหนบ้าง แต่ลิสต์นี้จะถูกใช้ในการจำกัดการเดินทางต้องสงสัยของพลเมืองจีน
ในเดือนกันยายน 2023 จีนและประเทศสมาชิกอาเซียน 6 ชาติ ได้แก่ มาเลเซีย ลาว ไทย เวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ยังได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อร่วมมือกันในการต่อสู้กับอาชญากรรมการพนันข้ามชาติในภูมิภาค
หรือแม้แต่ในกรณีที่แหล่งการพนันเหล่านั้นถูกกฎหมายในต่างประเทศก็ตาม เช่นในกรณีของฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2016 รัฐบาลประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ได้ออกใบอนุญาตธุรกิจพนันออนไลน์เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่อยู่นอกประเทศ หรือ POGOs (Philippines Offshore Gaming Operators) โดยมุ่งเป้าไปที่ฐานลูกค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทางรัฐบาลจีนคัดค้านนโยบายนี้อย่างมาก พยายามกดดันให้ยกเลิกอย่างต่อเนื่อง สถานทูตจีนเคยออกแถลงการณ์ว่า POGOs เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ชาติและภาพลักษณ์ของทั้งฟิลิปปินส์และจีน รวมถึงกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศด้วย อย่างไรก็ดีชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้เช่นกัน จนในปี 2024 ประธานาธิบดีบงบง มาร์กอส จึงได้สั่งแบนในที่สุด
หรือในปี 2024 หลังจากที่จีนและสิงคโปร์ ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงวีซ่าฟรีเป็นเวลา 30 วัน ทางสถานทูตจีนในสิงคโปร์ ก็ได้ออกประกาศเตือนประชาชน ว่าแม้กาสิโนในต่างประเทศจะถูกกฎหมาย แต่การเล่นพนันข้ามพรมแดนยังต้องสงสัยว่าละเมิดกฎหมายของจีนและเสี่ยงถูกลงโทษได้
...
ซึ่งประเทศจีนได้ในช่องทางสถานทูต เตือนพลเมืองของตนในประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย อิตาลี แองโกลา ศรีลังกา และเกาหลีใต้ ในลักษณะนี้เช่นกัน
ล่าสุดในการเยือนมาเก๊า ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา ในโอกาสครบรอบ 25 ปีที่มาเก๊าได้รับเอกราชจากโปรตุเกส ก็ได้กระตุ้นให้มาเก๊ากระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจไปสู่อุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากกาสิโน และเชื่อมต่อกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งในช่วงการเยือน 3 วันของผู้นำจีน รายได้ของกาสิโนตก 2% จากการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
แล้ว “กาสิโน” ทำนักท่องเที่ยวจีนหดจริงหรือ?
ไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยประเด็นนี้กับ ดร.กัญจน์นิตา สุเชาว์อินทร์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันจีนไทย ม.รังสิต มองว่าแม้จะผิดกฎหมาย แต่การพนันอยู่ในสังคมและวิถีชีวิตของคนจีนทั่วไป เช่น การเล่นไพ่นกกระจอกในโรงน้ำชา เพียงแต่จะไม่มีการเปิดกาสิโนอย่างจริงจัง
ในส่วนของยอดนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยลดลงมองว่ามาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย อย่างในกรณีที่นักศึกษาจีนที่จะเข้ามาศึกษาในไทยก็จะถูกเตือนในเรื่องของสแกมเมอร์ตามแนวชายแดนและเรื่องกัญชา เนื่องจากจีนเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้ายจากสงครามฝิ่น
...
ประกอบกับตอนนี้จีนก็รณรงค์ให้เที่ยวในประเทศ และบางส่วนก็ย้ายไปในประเทศอื่นแทนประเทศไทย เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม เพราะนักท่องเที่ยวจีนหลายคนก็สัมผัสได้ว่าคนไทยไม่มีท่าทีต้อนรับมากเท่าเมื่อก่อน
ในส่วนของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่จะมีกาสิโนนั้น ก็อาจถูกจีนจับตาว่าจะเป็นช่องทางให้ธุรกิจจีนเทาเข้ามาฟอกเงินหรือไม่ เพราะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีดำเนินนโยบายปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างเข้มข้น และยังมีในเรื่องของการมอมเมา ปัญหาสังคมอีกในหลายๆ มิติด้วย
ขอบคุณ :thaipbs, ggrasia, ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน, theguardian, next.io, straitstimes, globalnation, csis
...