"กลาโหม" เก้าอี้ว่าง คาดปัดฝุ่นรอ "บิ๊กแก้ว" กองทัพกระชับพื้นที่การเมือง "อดีตทหาร" ประเมิน ปล่อยว่าง รมว.กลาโหม ไม่เป็นผลดีสถานการณ์ชายแดน เตือนดีลลับจะทำให้พังทั้งระบบ

ครม.แพทองธาร 2 ไร้ชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีเพียงชื่อของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหม คอนเนคชั่นของฝั่งพรรคเพื่อไทย แต่ในชั่วโมงนี้ ที่ไทยเกิดปัญหาเรื่องพรมแดนกัมพูชา กลับไร้ชื่อคนที่จะนั่งเป็นหัวโต๊ะในการคุมกำลังพลสายสีเขียว ขณะที่กระแสข่าวชื่อที่มาแรงสุดคือ "บิ๊กแก้ว" พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ต้องรอการครบกำหนดอีก 3 เดือน เนื่องจากติดเงื่อนไขการเคยเป็น สว. ต้องเว้นวางทางการเมืองครบ 2 ปี ถึงจะรับตำแหน่งทางการเมืองได้

แกะเงื่อนปมการเมืองและกองทัพ เก้าอี้ รมว.กลาโหม โดย พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ วิเคราะห์ว่า รัฐบาลต้องการรักษาดีลในการให้ทหารเข้ามาควบคุมกองทัพ การเว้นตำแหน่งไว้ และมีกระแสข่าวของคนที่เคยมีเครือข่ายกับฝ่ายที่เคยรัฐประหาร เนื่องจากรัฐบาลต้องการเอาใจทหาร เนื่องจากพลาดเรื่องคลิปที่นายกฯ คุยกับฮุนเซน แล้วกล่าวว่าแม่ทัพเป็นฝ่ายตรงข้าม

...

การรุกคืบเข้ามาของฝ่ายทหาร ทำให้รัฐบาลต้องยอม เนื่องจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยกลาโหมคือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ดูเป็นฝ่ายพลเรือน มีสายสัมพันธ์กับฝั่งเพื่อไทย สิ่งที่น่าเสียดายในการแต่งตั้งรัฐมนตรีในกลาโหมรอบนี้ แทนที่จะให้ฝ่ายพลเรือนเข้ามามีบทบาท เพื่อปรับเปลี่ยนธรรมเนียมเดิมที่จะแต่งตั้งแต่ทหาร และงานกลาโหมก็ไม่ลึกลับซับซ้อนอะไร ซึ่งง่ายกว่าเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงด้วยซ้ำ

“ที่ผ่านมา กองทัพบกจะคุมกำลังพลและงบประมาณ แต่ปัจจุบันการรบสมัยใหม่เปลี่ยนไป แสนยานุภาพของกองทัพอากาศมีความสำคัญมากกว่า แต่พอคนที่มาคุมกลาโหมมาจากกองทัพบกก็จะทำให้งบประมาณต่างๆ ไหลไปที่กองทัพบกเหมือนเดิม ไม่ทันกับโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้กำลังพลของกองทัพไทยวนอยู่ในกะลาเหมือนสมัย พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่ง เหมือนกับเป็นรัฐบาลลุงตู่ 2"

ระหว่างที่ยังไม่มี รมว.กลาโหม ทำให้การตัดสินใจราชการบางอย่างไม่เด็ดขาด ประกอบกับตอนนี้มีปัญหาตามแนวชายแดน จะทำให้ทุกอย่างถูกโยนไปให้กองทัพทั้งหมด ถ้ามองในเชิงการเมืองตอนนี้กองทัพ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น แม้ไม่ได้มีการยึดอำนาจ แต่สามารถควบคุมฝ่ายการเมืองไว้ได้เรียบร้อย
“ประเด็นปัญหากัมพูชา ฝ่ายกลาโหม ควรกำหนดให้มีคนพูดและให้ข่าวเพียงคนเดียว เช่น ให้ พล.อ.ณัฐพล เป็นคนสื่อสารในแต่ละวัน แต่ตอนนี้ผู้นำกองทัพกลับเบ่งกล้ามกันใหญ่ เลยทำให้การจัดการปัญหาไม่ดีพอ"

ประเมินผลดี-เสีย "บิ๊กแก้ว" ถ้านั่งคุมกลาโหม

"พล.ท.พงศกร" ประเมินว่า ถ้า "บิ๊กแก้ว" พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด มานั่งคุมกลาโหม ข้อดีคือรัฐบาลจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น รู้สึกอบอุ่นที่มีทหารมาช่วยคุมให้ แต่ข้อเสียก็จะเหมือนกับสมัยลุงตู่ ไม่มีความยืดหยุ่นในการบริหารประเทศ ทั้งที่จริงต้องมองไปไกลกว่านั้น ในเรื่องการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และจิตวิทยาทหาร


"อยากฝากถึงน้องๆ ในกองทัพ ซึ่งคนที่เป็นทหารอาชีพ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พวกที่เป็นระดับบนที่ทำตัวเป็น "ทหารการเมือง" ที่มุ่งไปรับใช้ผลประโยชน์ของระบบรัฐประหาร เลยอยากขอให้ปล่อยประชาชนเขาไปบ้าง ให้ประชาชนได้เดินผิดถูกในเส้นทางของเขา ถ้าทหารไปควบคุมมากประเทศยิ่งล้าหลัง มีการคอร์รัปชันมาก"


จากข้อมูลพบว่า "บิ๊กแก้ว" พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด จบเตรียมทหารรุ่นที่ 21 นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 32 เริ่มรับราชการทหาร ในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดกองร้อยลาดตระเวน กองพันทหารม้าที่ 22

...


"บิ๊กแก้ว" เคยเป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก, เป็นผู้อำนวยการ สำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารบก และขึ้นผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด คนที่ 35 ในปี 2563 พร้อมกับเป็น สว.โดยตำแหน่ง ก่อนเกษียณอายุราชการในเมื่อปี 2566