"สีกา-เงินวัด" ย้อนฉาวผ้าเหลืองร้อน 3 คดี หักสัมพันธ์ลึก ก่อนสึกอดีต “เจ้าคุณอาชว์” จับตาลือแฉคล้าย "ทิดแย้ม" ชี้คดีดังส่วนใหญ่มีเงินไหลเวียนในระบบหลักล้านบาท

เร่งสอบเส้นเงิน “เจ้าคุณอาชว์” เบื้องต้นยังไม่ฟันโยงเว็บพนัน-สีกา ขอเวลาตรวจละเอียดก่อนแจ้งข้อกล่าวหา กรณีล่าสุด วันนี้ (30 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ปปท.เข้ามาที่ศาลาตรีวชิรญาณ อีกครั้งเพื่อตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายและรายละเอียดอื่นของวัดต่อไปภายหลังพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” เจ้าคณะภาค 14-15 (ธ.) เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร สึกกะทันหันออกไป

มีรายงานแจ้งว่า มูลเหตุสำคัญที่ทำให้ พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ เจ้าคุณอาชว์ เจ้าคณะภาค 14-15 (ธ.) ต้องลาสิกขาจากความเป็นพระ มาจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสีการายหนึ่ง ลักษณะเรื่องราวคล้ายกับกรณีของ ทิดแย้ม หรือ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับสีกาเข้ามาพัวพันกับเจ้าคุณอาชว์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 มีสีกา ก. (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี หญิงสาวท่าทางมีฐานะหน้าตาดี เข้ามาทำทีตีสนิทเจ้าคุณอาชว์ จากนั้นทั้งคู่เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวแบบลับๆ มีการนัดพบเพื่อร่วมหลับนอนกันตามโรงแรมต่างๆ หลายครั้ง เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

...

หลัง เจ้าคุณอาชว์ ทราบความจริงว่า สีกา ก. ไม่ได้ตั้งครรภ์ตามที่กล่าวอ้าง จึงตัดสินใจปฏิเสธที่จะจ่ายเงินให้ตามข้อเรียกร้อง จนทำให้สีกา ก. เกิดความไม่พอใจ พยายามนำเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองกับเจ้าคุณอาชว์ ไปบอกให้พระรูปหนึ่งทราบ โดยมีคลิปหลักฐานเป็นภาพคลิปวิดีโอของ เจ้าคุณอาชว์ ขณะกำลังยืนแต่งตัวสวมสบงท่อนล่าง ส่วนท่อนบนเปลือยเปล่า อยู่ในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง

โดยมีเสียงของสีกา ก. พูดแทรกอยู่ในคลิปตลอดเวลาในเชิงบ่งบอกว่าทั้งคู่อยู่ในห้องร่วมกันเพียงลำพังสองต่อสอง และหลักฐานคลิปวิดีโอคอลพูดคุยกับสีกา ก. ในลักษณะให้คำสัญญาว่าจะมั่นหมายเพื่อแสดงความรับผิดชอบ รวมถึงแชตสนทนาพูดคุยเชิงชู้สาวของทั้งสอง เพื่อหวังสร้างแรงกดดันให้ เจ้าคุณอาชว์ ยอมจ่ายเงินตามข้อเรียกร้อง หากไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้

ย้อน 3 คดีฉาววงการสงฆ์

ก่อนหน้านี้มีคดีกับเกี่ยวกับพระที่เสื่อมศรัทธา เมื่ออดีต "เจ้าคุณแย้ม” พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 ถูกจับกุมในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท ก่อนตรวจสอบพบว่าได้โอนเงินให้สาวคนสนิทที่เป็นนายหน้าเว็บพนัน รวมกว่า 800 ล้านบาท เกิดเป็นการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคมถึงประเด็นรายได้ของวัดและการทุจริต และมีการพัวพันกับสีการายหนึ่ง ที่มีเส้นเงินเชื่อมโยงกับเว็บพนัน โดยเบื้องต้นทั้งคู่ได้ถูกคุมขัง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบเส้นเงิน ของอดีตเจ้าอาวาสเชื่อมโยงเว็บพนัน

คดีหลวงปู่เณรคำ (ปี 2556) หลวงปู่เณรคำ หรือ นายวิรพล สุขผล ได้ตั้งสำนักสงฆ์ที่มีชื่อว่า สำนักสงฆ์ขันติธรรม ที่ ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 2542 และได้มีการระดมเงินบริจาคในการสร้างพระแก้วมรกตจำลอง, สร้างโรงพยาบาล ฯลฯ ก่อนต่อมาในปี 2556 จะมีการสืบทราบว่า หลวงปู่เณรคำ ได้โอนเงินบริจาคเข้าบัญชีส่วนตัวเอาไปกินหรู อยู่สบาย ซื้อบ้าน ที่ดิน รถ นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และยังมีคดีพรากผู้เยาว์ด้วย

ต่อมาทางคณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษมีมติให้อาบัติปาราชิก ก่อนที่อดีตหลวงปู่เณรคำ จะหลบหนีไปยังสหรัฐฯ และถูกจับกุมส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยเมื่อปี 2560 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน, ผิด พ.ร.บ.คอมฯ, ฟอกเงิน และพรากผู้เยาว์ ศาลตัดสินจำคุก 20 ปี
คดีเงินทอนวัด (ปี 2557-2561) ในช่วงปี 2561 มีการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ พศ.ได้ไปติดต่อเจ้าอาวาสวัดในแต่ละจังหวัด เสนอให้เงินอุดหนุนแก่วัด แต่วัดต้องเขียนโครงการเข้ามาของบประมาณ เมื่อเจ้าหน้าที่อนุมัติ วัดดังกล่าวต้องจ่าย “เงินทอน” กลับมาเป็นสินบนให้เจ้าหน้าที่ โดยพบว่ามีการทุจริตเงินทอนวัด ตั้งแต่ ปี 2557-2561 รวมมูลค่าความเสียหาย 270 ล้านบาท ครอบคลุมวัด 40 แห่งทั่วประเทศ

...