ล้างทุนสีเทากัมพูชา ฟอกเงินไทย กดดันเครือข่ายสืบเส้นทางเงิน ชี้องค์กรอาชญากรรม กระจายความเสี่ยง จี้ไทยควรเดินหน้ารุก รื้อระบบตรวจสอบเส้นทาง หลังเรื้อรังมานาน
ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทวีความรุนแรงในเชิงวาทกรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโพสต์โซเชียลของ "ฮุน เซน” ผู้รับผิดชอบสูงสุดในการส่งกำลังบำรุง (logistics) ถึงแนวหน้า แม้ไทยตรึงกำลังการเปิด-ปิดด่านริมชายแดนกดดัน
ล่าสุด "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เสนอให้มีการจัดการกลุ่มทุนและเครือข่ายทุนสีเทาจากฝั่งกัมพูชา ที่เข้ามาฟอกเงินในไทยให้มีการยึดทรัพย์ ทีมข่าวสอบถามไปยัง พลตำรวจตรีเอกธนัช ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ข้อมูลว่า การจะไปตรวจสอบกรณีการฟอกเงิน ต้องมีการกระทำความผิดมูลฐานก่อน ถึงจะมีการตรวจสอบกรณีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินได้ โดยทางหน่วยงานสามารถตรวจสอบเส้นเงินของผู้ที่เกี่ยวโยงได้
หากมีข้อมูลจากทางตำรวจส่งมา สำนักงาน ปปง. ก็จะตรวจสอบให้ เบื้องต้นกรณีการกล่าวหาว่าเป็นเครือข่ายการฟอกเงินของกัมพูชา ตอนนี้ยังไม่มีการประสานมาจากตำรวจ แต่โดยปกติ ปปง. ไม่สามารถทำเองได้
...
ล้างทุนสีเทากัมพูชา ฟอกเงินในไทย
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต วิเคราะห์ว่า มีรายงานว่ากัมพูชาเป็นแหล่งสแกมเมอร์ และมีแหล่งที่เอื้อให้เกิดการกระทำความผิดในหลายพื้นที่กัมพูชา ไทยถือเป็นแหล่งฟอกเงินของกลุ่มเหล่านี้ เพราะการกระทำความผิดผ่านพรมแดน ต้องมีคนไทยส่วนหนึ่งรู้เห็น เช่น พาข้ามด่านตามช่องทางธรรมชาติ หรือพาคนไทยไปทำงานสีเทาในกัมพูชา ทั้งที่สมัครใจและถูกล่อลวง
กลุ่มขบวนการฟอกเงินในกัมพูชา ส่วนใหญ่เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะข้ามมาฝั่งไทย เพื่อทำการฟอกเงิน โดยจะใช้เงินสีเทาในการซื้อทรัพย์สิน เช่น รถ ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างเป็นต้น ด้านความเป็นห่วงที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ตระกูล "ฮุน” ครองอำนาจมาอย่างยาวนานในกัมพูชา อาจมีเครือข่ายสีเทาเข้ามาฟอกเงินในไทย
ตรงนี้มีข้อมูลตรงกันว่า "ฮุน เซน” ครองอำนาจในกัมพูชามายาวนาน มีการสร้างเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในไทย กลุ่มทุนสีเทา มักมีพฤติกรรมการฟอกเงินภายนอกประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง และด้วยพฤติกรรมการฟอกเงิน เป็นปัญหาข้ามพรมแดน ซึ่งการแก้ปัญหาต้องมีความร่วมมือกับประเทศต้นทางที่ถูกตกเป็นเหยื่อ เช่น เหยื่อในยุโรป, จีน เพื่อค้นหาเส้นเงินในการหลอกลวงที่ชัดเจน และจะได้อายัดและตัดวงจรเส้นเงิน
นอกจากนี้ ไทยต้องมีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ในประเทศ ที่เอื้ออำนวยให้แก๊งทุนสีเทาเข้ามาฟอกเงิน โดยเฉพาะข้าราชการไทย ต้องมีการดำเนินการเพื่อยึดทรัพย์ ขณะเดียวกันต้องมีการทลายเครือข่ายในไทย โดยใช้กฎหมายฟอกเงิน ซึ่งกรณีของทุนสีเทากัมพูชา ต้องมีการตรวจสอบ เพื่อเป็นการกดดันไปอีกทาง
โดยควรจะมีการทำงานเชิงรุกมากกว่านี้ ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุมาก่อนแล้วค่อยทำการตรวจสอบเส้นเงิน ทุนสีเทาในกัมพูชา มีรายงานว่ามีเม็ดเงินที่มากกว่ารายได้รวมของกัมพูชาเสียอีก ดังนั้น การที่ไทยกวาดล้างขบวนการฟอกเงิน ก็จะเป็นสิ่งที่ควรเริ่มต้นอย่างเป็นระบบเสียที เพราะที่ผ่านมาปัญหานี้ก็เรื้อรังมานาน