ปิดด่านเส้นทางขนส่งน้ำมัน "ไทย-กัมพูชา" หันส่งท่าเรือสีหนุวิลล์ "แหล่งข่าวระดับสูง" เปรียบเทียบต้นทุนขนส่งทางเรือแพงกว่าทางบกลิตรละ 6 – 10 บ. แต่ถูกกว่านำเข้าน้ำมันจาก "เวียดนาม – สิงคโปร์" เชื่อไม่นาน "ฮุน เซน” ยอมอ่อนข้อ หลังราคาน้ำมันเริ่มแพง

"ฮุนเซน" ผู้รับผิดชอบสูงสุดในการส่งกำลังบำรุง (logistics) ถึงแนวหน้า" ของกัมพูชา หลังประกาศไม่สนการนำเข้าน้ำมันและพลังงานจากไทย แต่ล่าสุดวันนี้ (26 มิ.ย. 68) เพจ CSI LA อ้างว่า พูดไม่เหมือนทำ! เขมรประกาศไม่ซื้อน้ำมันจากไทย แต่เรือบรรทุกน้ำมันเต็มลำจากศรีราชา จ.ชลบุรี จอดหน้าท่าสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา สถานะล่าสุด ทอดสมอ รอถ่ายของ

แหล่งข่าวระดับสูงด้านกิจการด้านชายแดน กล่าวว่า ด้วยความที่กัมพูชาต้องพึ่งพาน้ำมันจากไทย ทำให้หลังจากมีการปิดด่านใน จ.สระแก้ว ทำให้ต้องมีการขนส่งน้ำมันทางเรือไปยังท่าเรือสีหนุวิลล์แทน แม้มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่คุ้มกว่าการนำเข้าน้ำมันจากเวียดนามและสิงคโปร์ ที่มีต้นทุนสูงเพิ่มขึ้นเฉลี่ยลิตรละ 10 บาท

สอดคล้องกับข้อมูลรายงานในบทวิเคราะห์ผลกระทบต่อกลุ่ม ปตท. จากกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และคำสั่งห้ามนำเข้าเชื้อเพลิงจากไทย รายงานว่า สถานะของธุรกิจกลุ่ม ปตท. ในกัมพูชา มีสถานีบริการน้ำมันประมาณ 190 แห่ง พร้อมร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อรวมกว่า 71 แห่ง ที่ผ่านมาการขนส่งเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ดำเนินการทางบกผ่านจุดผ่านแดนหลัก และทางเรือจากคลังน้ำมันศรีราชา ไปยังคลังที่เมืองเรียม ใกล้สีหนุวิลล์ ขณะที่ในปี 2024 ไทยส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา 2.29 พันล้านลิตร คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 47.99 พันล้านบาท แยกเป็นเบนซินกว่า 1.00 พันล้านลิตร, ดีเซล 1.14 พันล้านลิตร, น้ำมันอากาศยาน 71.6 ล้านลิตร, น้ำมันเตา 23.3 ล้านลิตร และ LPG 29.85 ล้านลิตร ตามสถิติจากกรมศุลกากร

...

หลังการปิดด่านทางบก คาดการณ์ผลกระทบเชิงธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ในกัมพูชา ในระยะกลางถึงยาว อาจส่งผลต่อธุรกิจในกัมพูชา จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาที่ทวีความรุนแรงขึ้น นำไปสู่การที่รัฐบาลกัมพูชาสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทย

กัมพูชาต้องพึ่งน้ำมันแหล่งเชื้อเพลิงจากไทย

แหล่งข่าวระดับสูงด้านกิจการด้านชายแดน ประเมินหลังปิดด่านทางบกไม่สามารถขนส่งน้ำมันได้ว่า ที่ผ่านมาไทยส่งน้ำมันให้กับกัมพูชาทั้งทางบกและทางเรือ ทางเรือมีโรงกลั่นอยู่ที่ศรีราชา ประเทศไทย หากประเมินประเทศในละแวกนี้ นอกจากไทยแล้วก็มีสิงคโปร์ที่มีโรงกลั่นน้ำมัน โดยปั๊มน้ำมันในกัมพูชา เกินครึ่งเป็นของคนกัมพูชาที่มาซื้อแฟรนไชส์ต่อจากไทย แต่น่าสนใจว่าปั๊มส่วนใหญ่ที่คนกัมพูชาไปเปิด กำไรส่วนใหญ่มาจากร้านกาแฟที่เปิดในปั๊ม ลำพังรายได้จากน้ำมันก็ต้องเสียต้นทุนค่าขนส่งที่แพง

เวียดนามเป็นอีกตัวเลือกที่กัมพูชาสามารถนำน้ำมันมาได้ แต่ส่วนใหญ่ต้นทุนแพงกว่าน้ำมันที่ขนส่งจากไทย ประมาณลิตรละ 10 บาท ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันในกัมพูชาก็รับไม่ไหว

ต้นทุนในการขนส่งน้ำมันไปขายยังกัมพูชา ที่ผ่านมาผู้ประกอบการมักขนส่งไปทางบกผ่านด่านใน จ.สระแก้ว ก่อนที่กระจายไปทั่วประเทศ และไปยังเมืองหลวงกรุงพนมเปญ มีราคาถูกกว่าการขนส่งทางเรือ ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการถ่ายน้ำมันจากรถมาเรือ เมื่อถึงท่าเรือสีหนุวิลล์ ต้องจ่ายค่าเทียบท่า ต้องถ่ายน้ำมันขึ้นรถก่อนจะกระจายไปทั่วประเทศ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นลิตรละ 6 – 10 เมื่อเทียบกับการขนส่งทางรถ
การขนส่งทางเรือจะบรรทุกน้ำมันได้มากกว่า แต่ต้นทุนขนส่งสูงกว่า ประกอบกับกัมพูชาไม่มีโรงกลั่นน้ำมัน แม้ต่อให้มีการลงทุนทำโรงกลั่น ซึ่งบุคลากรที่มีความรู้ด้านโรงกลั่นน้ำมันยังไม่มี เลยทำให้ต้องพึ่งน้ำมันจากไทยเป็นหลัก

สำหรับการปิดด่าน ถือเป็นการกดดันกัมพูชา เพราะส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาน้ำมันจากไทย และเชื่อว่าอีกไม่นานกัมพูชาก็จะเริ่มอ่อนลง เพราะอย่าลืมว่าเกิดการสู้รบกันจริง น้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญในการรบ แต่เมื่อไทยไม่ส่งน้ำมันให้ กัมพูชาก็ต้องไปพึ่งจากแหล่งอื่นที่มีราคาแพงกว่ามาก

...