หลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จนเกิดกระแสในหลายๆ ทิศทางซึ่งมีการเรียกร้อง กดดันให้ นายกฯ รับผิดชอบด้วยการลาออก หรือ ยุบสภาฯ

ขั้นตอนทางกฎหมายหาก นายกฯ ประกาศ ยุบสภาฯ

เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร จะมีขั้นตอนสำคัญที่ตามมาอย่างเป็นลำดับตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ดังนี้

การยุบสภาฯ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี (มาตรา 103) นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ และนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ

หลังมีการประกาศยุบสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จะพ้นสภาพทันทีที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ สส. ทุกคนจะพ้นจากตำแหน่ง ทำให้สภาฯ หมดวาระลง

อย่างไรก็ตามคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันจะยังคงทำหน้าที่ "คณะรัฐมนตรีรักษาการ" เพื่อให้การบริหารประเทศไม่หยุดชะงัก แต่อำนาจจะถูกจำกัด ไม่สามารถอนุมัติโครงการใหม่ หรือแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจาก กกต.

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 5 วัน โดยจะประกาศวันเลือกตั้งทั่วไป จะต้องเกิดขึ้นภายใน 45-60 วัน นับจากวันยุบสภาฯ

หลังจากนั้นพรรคการเมือง และผู้สมัครจะเข้าสู่ช่วงหาเสียง ก่อนที่ประชาชนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศ หลังจากเลือกตั้งและนับคะแนนแล้ว กกต. จะประกาศผล และภายใน 15 วัน จะมีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกเพื่อเลือกประธานสภาฯ

จากนั้นจะเป็นกระบวนการเสนอชื่อ และลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จาก สส. เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายกฯ จะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ไม่เกิน 35 คน จนเกิดคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณ และเริ่มปฏิบัติหน้าที่บริหารประเทศอย่างเต็มตัว

...

โดยกระบวนการทั้งหมด จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน จะได้รัฐบาลชุดใหม่ที่สมบูรณ์ นับจากวันประกาศยุบสภาฯ 

ภาพ: ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์

ข้อมูล: รัฐบาลไทย