เช็กจุดเสี่ยงน้ำท่วมปีนี้ คาดฝนหนักกว่าปีก่อน 5 – 10% ชี้สัญญาณเตือนน้ำท่วม แม่สาย จ.เชียงราย ติดตั้งแล้วแต่แจ้งช้า จับตา กทม. เฝ้าระวังตกหนัก ส.ค.-ก.ย.
วันนี้ (27 พ.ค.68) ฝนที่ตกหนักทางภาคเหนือ ทำให้น้ำท่วมใน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 6 ตำบล 14 หมู่บ้าน รวม 729 ครัวเรือน โดยเช้าวันนี้ ต.บ้านกลาง และ ต.ทุ่งสะโตก ยังมีน้ำท่วมขังในระดับสูง
ขณะเดียวกันทางอำเภอประกาศแจ้งเตือนเตรียมรับมวลน้ำระลอกใหม่จากสะเมิงจะมาถึงก่อนเที่ยงวันนี้ ทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างอีก ส่วนพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปีที่แล้วได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมที่ไหลมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ปีนี้ได้รับผลกระทบหนัก
รศ.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ประธานแผนงานวิจัยเข็มมุ่งด้านการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ฝนปีนี้ที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมว่า ปีนี้ฝนมาเร็วกว่าทุกปี และมีการตกแบบกระจุกตัวหนักเฉพาะพื้นที่ ซึ่งตลอดเดือน พ.ค.นี้ จะตกหนักในพื้นที่ทางภาคเหนือ จากนั้นพายุฝนจะเคลื่อนตัวมายังพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ
...
ปัญหาตอนนี้ที่มีฝนตกหนักและได้รับผลกระทบต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วคือ แม่สาย จ.เชียงราย ที่มีแม่น้ำเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ฝนตกเพียงไม่ถึงชั่วโมง ปริมาณน้ำที่ไหลหลากมาจากเมียนมาก็มาถึงแม่สาย จนส่งผลกระทบซ้ำเติมให้กับคนในพื้นที่และร้านค้า เนื่องจากส่วนที่ทำตลิ่งกั้นน้ำที่ไหลอยู่เดิม ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ประกอบกับงบประมาณเพิ่งมีการอนุมัติ แต่ต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ
ที่ผ่านมามีการติดตั้งสัญญาณเตือนปริมาณน้ำที่จะท่วมมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้ผล เพราะน้ำมาเร็วกว่า 1 ชั่วโมง ที่ตัวเซ็นเซอร์แจ้งมายังไทย ทำให้การจัดการน้ำค่อนข้างลำบาก โดยน้ำใช้เวลาไหลเข้ามาเพียง 40 นาที ก็ถึงพื้นที่แม่สาย ระบบเตือนภัยที่ติดตั้งยังไม่ครอบคลุมในระยะเวลา 40 นาที
“พื้นที่แม่สาย ช่วงเดือน ส.ค. - ก.ย. คาดว่ามีปริมาณฝนแรงกว่านี้ ดังนั้น การสร้างคันกั้นน้ำต้องให้เสร็จก่อนช่วงที่มีฝนตกหนัก ไม่อย่างนั้น ปริมาณน้ำที่ท่วมมาจะทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ซ้ำเติมความเสียหายในปีก่อน”
ฝนตกหนักอยู่ตอนนี้ทางภาคเหนือ เป็นฝนที่เพิ่งเริ่มต้นฤดู เป็นฝนจากร่องมรสุม ยังไม่เป็นไต้ฝุ่นเข้ามาช่วงเดือน ส.ค. - ก.ย. ที่มีพายุจากเวียดนามเข้ามา ทำให้มีฝนตกหนักมากกว่าเวลานี้
ฝนตกหนักภาคกลาง กทม.เตรียมแผนจัดการ
รศ.สุจริต กล่าวว่า ฝนที่ตกอยู่ตอนนี้ (พ.ค.68) ยังเป็นฝนที่มาจากอิทธิพลมหาสมุทรอินเดีย ตกหนักทางภาคเหนือและใต้ โดยปริมาณฝนตกหนักช่วงเดือนหน้า (มิ.ย.68) มีฝนตกหนักบางส่วนทางภาคเหนือและใต้ แต่พอเดือน ส.ค.- ก.ย. 68 เริ่มมีฝนตกหนักทางพื้นที่อีสาน ภาคตะวันออก และภาคกลางของไทย
ปริมาณฝนปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 5 – 10 เปอร์เซ็นต์ โดยฝนที่ตกหนักกระจุกตัวในบางพื้นที่ ไม่ได้ตกแบบกระจายเหมือนปีก่อน โดยการที่ฝนตกหนักในรูปแบบนี้อาจสร้างความเสียหายหนักในบางพื้นที่ แต่ในทางกลับกัน ถ้ามีน้ำป่าไหลหลากเข้ามาในพื้นที่เมืองก็มีผลกระทบหนักไม่น้อย ปีนี้ฝนที่ตกหนัก มีจังหวัดที่น่าห่วงในพื้นที่ภาคตะวันออก ตะวันตก และอีสาน
...
สำหรับ กทม. ปีนี้ฝนที่ตกมีลักษณะคล้ายปีก่อน ที่ตกหนักและแช่อยู่เฉพาะพื้นที่ ดังนั้นต้องมีการวางแผนเพื่อระบายน้ำในพื้นที่นั้นให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นเสี่ยงได้รับผลกระทบตามมา เพราะถ้าประเมินจุดพักน้ำในพื้นที่เจ้าพระยา พบว่าน้ำในทุ่งก็ยังไม่ได้ระบายออก ดังนั้นปีนี้พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา น่าจะยังสามารถจัดการกับปริมาณน้ำในปีนี้ได้