สนธิ-จตุพร จับมือการเมืองสลับขั้วโค่น "ทักษิณ" สะเทือน "เพื่อไทย" นักวิชาการมองบริบทสังคมเปลี่ยนไป การลงถนนยังไม่ใช่คำตอบ ชี้การมี "พรรคประชาชน" ทำให้คนหวังการเปลี่ยนแปลงในสภาฯ มากกว่า

จากคู่ต่อกรคนละขั้วการเมืองอย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์” ฝั่งคนเสื้อแดง หันมาสวมกอด “สนธิ ลิ้มทองกุล” แกนนำคนเสื้อเหลือง พร้อมร่วมขับไล่ระบอบ “ทักษิณ” ในงานความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568 เมื่อ 25 พ.ค. 68 โดยนายสนธิกล่าวเปิดตัวว่า นายจตุพรไม่ใช่คนเดิม ความสัมพันธ์ครั้งนี้เพื่อทวงคืนความถูกต้องให้พี่น้องประชาชน อยากให้ทุกคนให้โอกาสนายจตุพรในการทำคุณงามความดีให้ชาติบ้านเมือง เขามีความกล้าหาญมากพอ เขาคืออีกคนที่ร่วมต่อสู้กับหลายเหตุการณ์ของปัญหาบ้านเมือง และตอนนี้รับนายจตุพรมาน้องแล้ว

...

แน่นอนว่าเป้าหมายครั้งนี้ของแกนนำ "แดง" + "เหลือง" คืออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ถ้าโค่นได้จะทำให้เสถียรภาพพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลตอนนี้สั่นคลอน แต่ด้วยบริบทสังคมเปลี่ยนไป จุดจบอาจไม่เป็นเหมือนครั้งก่อน

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วิเคราะห์การจับมือครั้งนี้ว่า การหันมาร่วมมือกันระหว่างคุณจตุพรและคุณสนธิไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปจากเดิม เหมือนกับเมื่อ 20 ปีก่อน ประกอบกับประชาชนมีการเรียนรู้ทางการเมืองเพิ่มขึ้น
ถ้ามองให้ดีการเคลื่อนไหวของทั้ง 2 ท่าน ในอดีตจุดสุดท้ายก็นำมาสู่การรัฐประหารเมื่อปี 2549 และปี 2557

ขณะเดียวกันประชาชนก็มีการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ที่ใช้ช่องทางในระบบรัฐสภาแก้ปัญหาทางการเมือง มากกว่าจะต้องไปชุมนุมลงถนนอย่างที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่าการจับมือของทั้งคู่ ก็มีบางขั้วอำนาจที่จับตาดู เพื่อให้การเมืองไทยไปสู่ทางตัน และนำสู่การรัฐประหาร แต่ด้วยสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไปในตอนนี้ ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นได้เหมือนในอดีต

เป้าหมายการจับมือของทั้งคู่เพื่อจัดการกับ "ทักษิณ" ในแง่การเมือง พรรคเพื่อไทยเองก็พยายามรักษาเสถียรภาพ แม้หลังจากนี้คุณทักษิณถูกโจมตีอย่างหนัก แต่การรักษาสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ก็เป็นโจทย์ที่แกนนำพรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าต้องพยายามจับขั้วรัฐบาลให้ยาวนานมากที่สุด

สุดท้ายแล้ว การออกมาเคลื่อนไหวของทั้งคู่ในฐานะแกนนำ อาจไม่ได้จบเหมือนปี 2546 และ 2557 เหมือนในอดีต เพราะการเมืองไทยเวลานี้ยังไม่สุกงอมพอที่จะนำสู่การรัฐประหาร ขณะเดียวกันประชาชนส่วนหนึ่งก็ต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่มาจากระบบรัฐสภา ซึ่งต้องยอมรับว่า การมีพรรคประชาชนทำให้หลายคนมีความหวังมากกว่าการเมืองที่ต้องลงถนน

...