"ทุนจีน" ปลอมเอกสาร-แต่งงานสาวไทย อุบายกว้านซื้อสวนทุเรียน ยึดพื้นที่ภาคตะวันออก ปลูกขายส่งเอง พิรุธใช้ประโยชน์เขตป่าสงวนฯ
ทีมงาน SEE TRUE ตามสืบจนพบขบวนการกว้านซื้อที่ดินปลูกสวนทุเรียนของกลุ่มทุนจีน เรียกได้ว่าคนจีนเข้ามาปลูก-ขาย-กำหนดราคาทุเรียนเอง ต้นน้ำยันปลายน้ำ แล้วไทยจะได้อะไรกับการเข้ามาของทุนจีนบ้าง
SEE TRUE ลงพื้นที่ไป อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พื้นที่ของอำเภอนี้ส่วนใหญ่เป็นป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานฯ รัฐได้กำหนดพื้นที่เขตอนุรักษ์ และพื้นที่ทำกินของชาวบ้านไว้ชัดเจน
ทันทีที่เข้าเขต จ.จันทบุรี สองข้างทางเต็มไปด้วยล้งรับซื้อทุเรียนส่งไปจีน ส่วนใหญ่ล้งเหล่านี้ประกอบกิจการโดยคนจีน ซึ่ง 3 จังหวัดทางภาคตะวันออกมีล้งรวมกว่า 1,200 แห่ง
ข้อมูลจากสายข่าว SEE TRUE บอกวิธีการกว้านซื้อสวนทุเรียนของกลุ่มทุนจีนมี 2 ช่องทางด้วยกัน ช่องทางแรก คือการแต่งงานกับหญิงไทย และใช้ชื่อภรรยาซื้อที่ดินทำสวน
ช่องทางที่ 2 คนจีนจะซื้อบัตรประชาชนของคนไทย จากจังหวัดและอำเภอไกลปืนเที่ยง นำไปสู่การได้มา ซึ่งสัญชาติไทยแบบผิดกฎหมาย เพื่อนำไปสวมสิทธิ์เช่าซื้อที่ดินทำสวน
...
เราขับรถตระเวนสำรวจพื้นที่ใน อ.แก่งหางแมว เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างสวนทุเรียนทุนจีนกับสวนของคนไทย สวนทุเรียนทุนจีนมีลักษณะปิดล้อมรั้วมิดชิด บางสวนติดป้ายเป็นภาษาจีน แปลความหมายว่า "ห้ามเข้า" ส่วนใหญ่มีจำนวนมากกว่า 100 ไร่ ลักษณะพื้นที่ถูกจัดสรรเป็นอุตสาหกรรมการเกษตร มีระเบียบแบบแผนชัดเจน และมีล้ง หรือโกดังขนาดใหญ่ตั้งกลางไร่ เพื่อรวมทุเรียนเตรียมส่งขาย
แรงงานในสวนทุเรียนจีนจะเป็นแรงงานต่างด้าว เช่น กัมพูชา เมียนมา และลาว ส่วนสวนทุเรียนทุนไทย จะเป็นแปลงไม่ใหญ่มาก เป็นสวนผสม มีการปลูกที่อยู่อาศัย และไม่นิยมทำรั้วกั้น
การเข้ามาของนายทุน มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการใช้นอมินีตั้งบริษัท เพื่อเช่าที่ดินจากกรมป่าไม้
จากเอกสารการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนซ่อง ที่เสนอต่อสภาเทศบาลตำบลพวา มีบริษัททำเรื่องขออนุญาต 2 บริษัท บริษัทแรกขอเช่าพื้นที่ 427 ไร่
SEE TRUE ตรวจสอบข้อมูล พบว่าบริษัทนี้จดทะเบียนจัดตั้งปี 64 ประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียน เป็นการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
อีกบริษัทขอเช่าพื้นที่ 950 ไร่ บริษัทนี้จดทะเบียนจัดตั้งปี 2553 ประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียน ทำกิจกรรมเกี่ยวกับป่าไม้ ต่อมาเปลี่ยนเป็นธุรกิจจำหน่าย รับซื้อขายสลากทุกประเภท
ที่น่าสังเกตคือทั้ง 2 บริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม คือคนเดียวกัน รวมทั้งวัตถุประสงค์ในการขออนุญาตเข้าไปทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีอยู่ทั้งหมด 5 ข้อ ก็เป็นวัตถุประสงค์เดียวกัน
หลังชาวบ้านร้องไปยังกรรมาธิการที่ดิน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีการลงมาตรวจสอบ พบความผิดปกติหลายอย่าง กรมป่าไม้จึงระงับการเช่าพื้นที่
ติดตามได้ในภารกิจ SEE TRUE ให้คุณเห็นความจริง ติดตามต่อเนื่องตั้งแต่ 26 - 28 พ.ค. 68 ทางรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ หลังเวลา 21.00 น.