มติแพทยสภา สารตั้งต้น พิจารณาป่วยวิกฤติชั้น 14 จับตาเดินเกมหยุด “ทักษิณ” นักวิชาการประเมิน คดีที่เหลืออาจยึดตามการพิจารณาตามแพทยสภา โดยคดีศาลฎีกามีแนวโน้มหนักสุดสะเทือน "เพื่อไทย"
หลัง "แพทยสภา" มีมติลงโทษพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหมอ 2 ราย ตักเตือน 1 ราย จากการแถลงอาการป่วยวิกฤติ "ทักษิณ ชินวัตร" เข้ารักษาตัวกลางดึกที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่วันนี้ (9 พ.ค.68) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาชี้แจงว่า ตอนนี้ผลการพิจารณาของแพทยสภายังไม่ได้ส่งเรื่องมา ยังไม่ทราบรายละเอียดการพิจารณาตามกฎหมาย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีระยะเวลาพิจารณา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับมติของแพทยสภาที่ส่งมา ซึ่งการลงโทษหรือไม่ ต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง แต่ไม่ควรโยงการเมือง
ถ้ามองคดีหรือการพิจารณาที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเข้าไปรักษาตัวชั้น 14 ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หลังจากเข้าเรือนจำยังไม่ทันข้ามคืน ทีมข่าวได้พยายามติดต่อแพทยสภา ถึงการพิจารณาขั้นตอนถัดไป แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะเดียวกันคดีเกี่ยวกับชั้น 14 จะมีการนัดไต่สวนอีกในวันที่ 13 มิ.ย. 68 โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนหน่วยงานเกี่ยวข้องชี้แจง และมีการนัดไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่อาจมีนัยยะทางการเมือง ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่า มติแพทยสภา แม้เป็นการพิจารณาขั้นต้น และต้องมีกระบวนการพิจารณาอีกขั้นตอนว่าจะลงโทษตามมติขั้นต้นหรือไม่ แต่มีนัยยะที่อาจเป็นมาตรฐาน นำไปสู่การพิจารณาในคดีอื่นที่เกี่ยวกับชั้น 14

...
จากการแถลงเบื้องต้นของแพทยสภา ที่ระบุว่าข้อมูลกรณีดังกล่าวมีการแจ้งคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แม้หมอที่ออกมาแถลงถึงมติไม่ได้ระบุถึงรายละเอียด แต่แสดงให้เห็นถึงแพทย์ที่ออกมาให้ข้อมูลว่าคุณทักษิณ ป่วยขั้นวิกฤติถึงขนาดต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 เป็นการระบุที่เกินจริง หรือมองได้ว่า อาการคุณทักษิณ ป่วยกำเริบเกินกว่าความเป็นจริง แม้ทางการแพทย์คนทั่วไปจะไม่รู้ถึงอาการของโรค แต่คาดได้ว่าน่าจะมีการป่วยทิพย์เกิดขึ้น
ถ้ามีการรายงานตามความเป็นจริง ประกอบกับการที่นายกฯ บอกในช่วงเวลานั้นว่า คุณทักษิณ ได้รับการผ่าตัด อาจขัดแย้งกับมติการพิจารณาของแพทยสภา ประกอบกับการเดินเกมการเมืองของคุณทักษิณ ที่มีการอ้างเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ หรือรับอาสาเดินทางไปเจรจากับที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะไปการ์ต้า เป็นได้ด้วยความยากลำบาก เพราะศาลพิจารณาไม่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ สิ่งนี้ทำให้เห็นได้ชัดถึงการบีบคุณทักษิณ ให้อยู่ในวงจำกัดมากขึ้น
การพิจารณาเบื้องต้นของแพทยสภา มีอีกหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับกรณีชั้น 14 ซึ่งคนที่เกี่ยวข้องอาจร้อนๆ หนาวๆ
แม้วันนี้ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมากล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์มติแพทยสภา แต่ตัวคุณสมศักดิ์ ก็เสี่ยงถูกร้องเรียนถึงการทำหน้าที่ไม่เคารพมติของแพทยสภา แต่การยื่นอุทธรณ์เสียงของแพทย์ต้องมีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสองในสาม ถ้าถึงวันนั้น เสียงของหมอมีไม่ถึงที่จะทำให้คุณทักษิณ รอดจากการครหาได้ ก็เท่ากับว่าเป็นการตอกฝาโลงทันที

3 องค์กรพิจารณาความผิดชั้น 14 อาจยึดตามแพทยสภา
หากประเมินแนวโน้มที่ ศาลฎีกา ป.ป.ช. และคณะกรรมาธิการความมั่นคง ซึ่งมีการไต่สวนเกี่ยวกับคดีการพักรักษาตัวของอดีตนายกทักษิณฯ ผศ.ดร.วันวิชิต มองแนวโน้มว่า การพิจารณาความผิดต่อจากนี้มีโอกาสที่จะยึดตามการพิจารณาของแพทยสภา เพราะเห็นได้ชัดว่าบางองค์กร ดึงเวลาเพื่อให้หน่วยงานด้านการแพทย์พิจารณาก่อน ได้นำเหตุผลเหล่านั้นมาอธิบายกับสังคมได้ง่ายขึ้น โดยเป็นการนำหลักฐานมาประกอบข้อมูล ที่มีผลต่อการพิจารณาความผิดอย่างมาก

ถ้าพิจารณาถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับชั้น 14 คดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถือเป็นคดีที่ทำให้มีแรงกดดันกับคุณทักษิณ มากที่สุด เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ ถ้าเทียบกับคดีที่อยู่ในความดูแลของ ป.ป.ช.ที่คณะกรรมการบางคนอาจมีภูมิหลังเกี่ยวกับการเมือง แต่ศาลฎีกามีบรรทัดฐานในด้านของกฎหมายเป็นหลัก ที่สำคัญการพิจารณาของศาลฎีกา ส่วนใหญ่มักไม่เป็นคุณกับนักการเมือง
ท่าทีทางการเมืองของคุณทักษิณ และพรรคเพื่อไทย คดีชั้น 14 จะเป็นชนักติดหลัง แต่ก็ต้องเดินหน้าทำงาน มีอะไรก็ต้องรีบทำ ทั้งการเจรจากับสหรัฐเรื่องกำแพงภาษี ขณะเดียวกันต้องออกงานเพื่อสร้างคะแนนทางการเมือง เพื่อให้มีอำนาจต่อรอง ด้วยตอนนี้เวลาเหลือน้อยลงทุกที ถ้าคุณทักษิณ ถูกพิจารณาว่ามีความผิดอาจไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย
...