ดราม่าการุณยฆาต ไมเคิล ลิงจ่าฝูง หมอไม่รักษาต่ออ้างค่ารักษาแพง "วอชด็อก” ชี้ลิงเป็นสัตว์ป่าต้องส่งให้กรมอุทยานรักษา แต่เทศบาลไม่ส่งรักษาต่อ แถมตัดสินใจยุติการมีชีวิต ทั้งที่หมอกรมอุทยานรอทำการรักษา
กลายเป็นกระแสดราม่าบนโลกโซเชียล เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ โพสต์ข่าว ไมเคิล ลิงจ่าฝูงแห่งเขาตังกวน สงขลา ไม่ได้ตายด้วยอุบัติเหตุหรือบาดแผลที่เกิดขึ้น ซึ่งต้นเหตุมาจากลิงไมเคิลมีอาการบาดเจ็บที่ช่องท้อง โดยทางเทศบาลได้ยิงยาสลบ และนำลิงจ่าฝูงมารักษาด้วยสัตวแพทย์ของเทศบาล โดยไม่ได้ส่งไปรักษาต่อกับทางกรมอุทยาน ซึ่งหลังจากสัตวแพทย์ประเมินอาการพบว่า การรักษาลิงตัวดังกล่าวต้องใช้ทุนทรัพย์สูง และหากรักษาไปต่อลิงอาจมีอาการทรมาน จึงได้ฉีดยาให้ลิงหลับและเสียชีวิต
ดราม่าฉีดยาให้ไมเคิล ลิงจ่าฝูงเสียชีวิต ทีมข่าวสอบถามไปยัง "สบันงา นนธะระ" หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ให้ข้อมูลว่า อาการบาดเจ็บตอนแรกของลิงจ่าฝูง ไมเคิล แห่งเขาตังกวน จ.สงขลา ยังไม่ทราบแน่ชัด รู้แต่ว่าเหมือนมีลำไส้ปูดออกมาจากช่องท้อง แต่ก็ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร ซึ่งการที่เราจะเข้าไปช่วยลิงที่เป็นสัตว์ป่าต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อุทยาน เพราะลิงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
...
เทศบาลนครสงขลาดันไปยิงยาสลบลิง ตอนแรกเรานึกว่าจะทำให้สลบเพื่อมาส่งกับทางกรมอุทยานที่รอรักษา เทศบาลกลับนำไปรักษาเอง ด้วยสัตวแพทย์ภายในเทศบาล ทำให้ลิงไมเคิลไม่ถึงมือการรักษาของกรมอุทยาน แต่สัตวแพทย์ของเทศบาลไปทำหน้าที่ที่ไม่ถูกต้องที่ไปตัดสินพิพากษา ทั้งที่ยังไม่ถูกส่งไปรักษากับทางกรมอุทยาน
สัตวแพทย์ของเทศบาลกลับประเมินว่า ลิงไมเคิลรักษาไม่ได้ หรือถ้ารักษาก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของสัตวแพทย์ของเทศบาลที่มาตัดสินฉีดยาเพื่อการุณยฆาต ควรเป็นหน้าที่ของกรมอุทยานในการดูแลรักษาลิงไมเคิลต่อ แต่ไม่ใช่ให้สัตวแพทย์ของเทศบาลตัดสินชีวิตสัตว์ด้วยการทำการุณยฆาต
ปกติการทำการุณยฆาตสัตว์ด้วยสัตวแพทย์ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ลิงตัวนี้เป็นสัตว์ป่า และไม่ใช่หน้าที่ของสัตวแพทย์ของเทศบาลในการที่จะไปตัดสินฆ่าลิงตัวนี้
“วันเกิดเหตุ มีพยานพบเห็นว่าทางเทศบาลได้ยิงยาสลบให้ไมเคิลตกจากต้นไม้ แต่แทนที่จะส่งให้กับทางอุทยานไปรักษาต่อ เทศบาลกลับนำไปรักษาเอง และเมื่อสอบถามกับนายกฯ ของเทศบาลก็ได้รับคำตอบว่าไม่รับทราบเรื่องนี้ ในการให้กับลิงไมเคิลเพื่อให้จากไปอย่างสงบ”
ทางทีมงานจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ ในข้อหามาตรา 12 ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และมาตรา 157 ถึงการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ตอนนี้หลังมอบหมายให้มูลนิธิบ้านหมายิ้ม และอาสาประชาชนคนรักสัตว์สงขลาไปแจ้งความ ทางเทศบาลและสัตวแพทย์คนดังกล่าวยังไม่ออกมาให้ข้อมูล ซึ่งต้องรอการสืบพยานในขั้นตอนต่อไป