การเสียชีวิตจากติด “แอนแทรกซ์” ของผู้ป่วยรายหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ยังหาต้นตอแท้จริงไม่พบ “หมอโรคอุบัติใหม่” กังวลการแพร่ระบาดซ้ำ ชี้ต้นเหตุอาจมาจากช่องโหว่การดูแลปศุสัตว์ หรือลักลอบนำเข้ามาจากเพื่อนบ้าน
แอนแทรกซ์ หลังมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ที่ จ.มุกดาหาร และอยู่ระหว่างรักษา 2 ราย โดยผู้สัมผัสทั้งหมดมี 636 ราย จำนวนนี้ 538 ราย สิ้นสุดระยะเวลาเฝ้าระวังโรค แต่ยังไม่สามารถหาต้นตอของการแพร่ระบาดได้ชัดเจนว่ามาจากสัตว์ที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีปัจจัยภายในที่เป็นตัวทำให้แสดงอาการเหล่านี้ จนทำให้คนที่รับประทานเนื้อดิบเสียชีวิต
การจำกัดวงรอบของการระบาดเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เชื้อแอนแทรกซ์แพร่กระจาย แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ หากไม่มีการบ่งชี้ที่แน่ชัดว่าต้นเหตุมาจากสิ่งใด ทีมข่าวสอบถามไปยัง รศ. นพ.โอภาส พุทธเจริญ สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และรองผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ สภากาชาดไทย ให้ข้อมูลว่า การแพร่ระบาดของเชื้อแอนแทรกซ์ ปกติมีการติดจากสัตว์มาสู่คน โดยรังของโรคมาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว ควาย แพะ แต่สิ่งสำคัญของการแพร่ระบาดครั้งนี้ จำเป็นต้องหาต้นตอให้เจอ แม้มีการสันนิษฐานว่า ผู้ที่เสียชีวิตไปกินเนื้อวัวดิบ คาดว่าอาจจะเป็นต้นตอของโรค แอนแทรกซ์กลับมาพบอีกครั้งในไทย

...
เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้เป็นครั้งคราวในประเทศที่กำลังพัฒนา เพราะถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการควบคุม และค้นหาโรคอย่างดี โดยมีการฉีดวัคซีนให้กับสัตว์ในกลุ่มที่คนบริโภค ถ้าไปดูในประเทศที่มีการระบาดของแอนแทรกซ์เป็นครั้งคราวจะพบว่า แอฟริกามีการระบาดมากที่สุด รองลงมาในอาเซียน เช่น เมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งปีที่แล้วกลุ่มประเทศเหล่านี้มีผู้ติดเชื้อหลายร้อยคน เชื้อแอนแทรกซ์แพร่กระจายจากสัตว์สู่คน
สำหรับประเทศที่มีการป้องกันที่ดี จะมีระบบปศุสัตว์ที่ตรวจคัดกรองและฉีดวัคซีนอย่างเป็นระบบ แต่ในประเทศที่แพร่ระบาด การฆ่าเชื้อเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อเป็นไปได้ยากมาก ขณะเดียวกันสภาพอากาศก็อาจมีส่วนกระตุ้นทำให้เกิดการระบาดในช่วงต้นฤดูฝน เกี่ยวกับการสปอร์เชื้อที่อยู่ในดิน เมื่อเจอฝนก็อาจแพร่กระจายขึ้นมาได้

จุดอ่อนการป้องกันเชื้อแอนแทรกซ์มาจากการป้องกันเชื้อในสัตว์ เช่นการคัดกรองโรค และการฉีดวัคซีน หรือสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค อาจมีการลักลอบเข้ามาในไทย โดยไม่ผ่านด่านกักตรวจโรค ดังนั้น ต้องมีการไปหาสาเหตุว่า มาจากการป้องกันภายในประเทศที่บกพร่อง หรือมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
แอนแทรกซ์ ความเสี่ยงแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
รศ. นพ.โอภาส กล่าวว่า แอนแทรกซ์ ถ้าเป็นการติดเชื้อในระบบอาหาร จากการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อโดยปรุงไม่สุกมีโอกาสเสียชีวิต 40% หากรับเชื้อไปจำนวนมากก็มีโอกาสเสียชีวิต หรือในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ป่วยเป็นโรคตับแข็ง เบาหวาน อาจทำให้เสี่ยงเสียชีวิตมากขึ้น
แอนแทรกซ์ในสัตว์ที่ติดเชื้อคนที่กินเข้าไป มีโอกาสติดเชื้อได้แทบทุกส่วน เพราะการแพร่กระจายของเชื้อจะไปตามกระแสเลือด แทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อ เคยมีผลวิจัยในแอฟริกาว่า เนื้อจากสัตว์ที่ติดเชื้อแอนแทรกซ์ ต้องใช้ความร้อนถึง 60 นาที ถึงจะปลอดภัย ซึ่งความเป็นจริงแทบเป็นไปไม่ได้

การป้องกันแอนแทรกซ์สู่มนุษย์
รศ. นพ.โอภาส กล่าวว่า การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อแอนแทรกซ์ ผู้บริโภคต้องรู้ว่าเนื้อที่กินเข้าไปมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีการคัดกรองโรคสัตว์ชัดเจน ก็สามารถรับประทานได้ปกติ แต่สำหรับเกษตรกร สามารถดูอาการของสัตว์ที่เลี้ยง ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปตามอวัยวะ โดยมีการแสดงอาการด้วยการมีเลือดออกตามอวัยวะ และเสียชีวิต
...
สัตว์ที่เลี้ยงมีอาการเหล่านี้ มีความเสี่ยงเป็นแอนแทรกซ์ เมื่อสัตว์ตายแล้วห้ามเคลื่อนย้าย ห้ามผ่าซากสัตว์ เพราะอาจทำให้มีการแพร่กระจายของสปอร์ การไปสัมผัสสัตว์ป่วยแอนแทรกซ์ สามารถสังเกตได้ตามการเข้ามาของเชื้อสู่ร่างกายมนุษย์ได้ 3 ทางดังนี้
1. สัมผัสสัตว์ติดเชื้อ พบได้บ่อยมากที่สุด ทำให้เกิดการติดเชื้อเข้าไปที่ผิวหนัง
2. การกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในร่างกายผ่านทางเดินอาหาร
3. สูดสปอร์เชื้อ เข้าไปยังปอด ซึ่งพบได้น้อย ที่จะพบการติดเชื้อผ่านอากาศเข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจ
แอนแทรกซ์ เมื่อมีการติดเชื้อทางผิวหนังจะเป็นผื่น มีลักษณะเป็นตุ่มใสระยะแรก ถัดมาจะเป็นตุ่มสีดำคล้ายรอยถูกบุหรี่จี้ มีอาการบวมบริเวณผิวหนังดังกล่าว แต่คนไข้จะไม่เจ็บ เลยทำให้คนป่วยไม่ค่อยไปหาหมอ ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง เข้าสู่ระบบเลือด

ส่วนการติดเชื้อทางการกิน ตัวเชื้อจะติดตั้งแต่ปาก คอหอย หลอดอาหาร ลำไส้ กระเพาะ ทำให้มีการติดเชื้อบริเวณที่มีเชื้อไปเกาะมากที่สุด เช่น ถ้าไปเกาะบริเวณคอหอย ก็ทำให้คนไข้กลืนลำบาก ต่อมทอนซิลอักเสบ
...
ด้านกรณีที่ติดเชื้อผ่านระอองฝอย ที่เป็นอาการรุนแรง ทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้ต่อมน้ำเหลืองบริเวณปอดโต จนแตก มีเลือดออกในเยื่อหุ้มปอด ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นจนเสียชีวิต
“แอนแทรกซ์ ไม่แพร่กระจายจากคนสู่คน แต่มาจากสัตว์สู่คนเท่านั้น การระบาดเป็นวงแคบในคนที่บริโภคหรือสัมผัสวัวที่เป็นโรค ตอนนี้ยังบริโภคเนื้อสัตว์ได้ตามปกติ การหาที่มาที่ไปของโรคให้ชัดเจน ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าการระบาดในไทยรอบนี้ มีความบกพร่องจากมาตรการคัดกรองสัตว์ในประเทศ หรือการเคลื่อนย้ายสัตว์ที่ไม่ถูกกฎหมายเข้ามาไทย”