10 ปมปริศนาอำพราง 3 ศพ ซุกรถทิ้งบ้านร้าง คาดคนร้ายใกล้ชิดรู้ความเคลื่อนไหว "นักอาชญาวิทยา" สืบจากรอยกระสุน ลงมือยิงพ่อก่อน จากนั้นสังหาร "ลูก-แม่" ปิดปาก ชี้หลักฐานสำคัญสายสุดท้ายที่โทรหา
เหตุสลดฆ่ายกครอบครัว 3 ศพ บริเวณบ้านร้างริมทุ่งนา บ้านร้อยไร่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยภาพจากกล้องวงจรปิด ภาพสุดท้ายที่บ้านผู้ตาย บันทึกไว้เห็นผู้ตายขับรถกระบะสีขาวออกจากบ้าน มีภรรยานั่งด้านข้าง ขณะลูกนั่งบริเวณท้ายกระบะ ญาติผู้ตายระบุว่า ทั้งหมดหายไปเมื่อ 12 ม.ค. 68 ต่อมาญาติเข้าแจ้งความวันที่ 16 ม.ค. 68

ทั้งนี้ น้องของผู้ตายระบุว่า มีการส่งข้อความมาที่มือถือส่วนตัว ระบุว่าไม่ต้องเป็นห่วง และให้ไปบอกครูที่โรงเรียนลูกเพื่อขอลาโรงเรียน น้องผู้ตายระบุว่าเบอร์ดังกล่าวให้ลบข้อความหลังจากอ่านแล้ว แม้พยายามโทรฯ กลับไปเบอร์ดังกล่าว แต่ถูกตัดสายทิ้ง และไม่สามารถติดต่อได้อีก
ผลชันสูตรทั้ง 3 ศพล่าสุด พบทั้งหมดถูกยิงบริเวณศีรษะระยะประชิด แม้พบปลอกกระสุนในรถที่เกิดเหตุเพียงนัดเดียว ส่วนปืนก่อเหตุคาดว่าเป็นอาวุธดัดแปลง ส่วนสภาพในรถที่พบศพ แม่-ลูกนั่งบริเวณเบาะด้านหน้า ส่วนพ่อนอนเสียชีวิตอยู่เบาะหลัง สภาพศพที่พบเริ่มเน่า เนื่องจากผู้ตายหายไปกว่า 1 เดือน ขณะตัวรถเกิดเหตุมีผ้าคลุมอำพราง
...
ล่าสุดวันนี้ (14 ก.พ. 68) ตำรวจเปิดเผยผลสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่คุมตัวมา รับสารภาพแล้ว 1 ราย แต่ในเรื่องทางคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครเป็นคนรับสารภาพ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลคดีต่อกรณีที่เกิดขึ้น
"รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล" รองอธิการบดีฝ่ายความปลอดภัย และประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต วิเคราะห์ว่า จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ บ่งชี้ให้เห็นถึงข้อพิรุธของคดีได้ชัดเจน ดังต่อไปนี้
- คนร้ายมีการเตรียมการชัดเจนในการสังหารผู้ตาย เพราะพฤติกรรมคนร้ายมีความใกล้ชิดกับครอบครัวนี้
- สังหารแล้วมีการอำพรางศพผู้ตาย เมื่อญาติไปโพสต์ตามหาในโซเชียล มีการปลอมตัวตน โดยส่งเอสเอ็มเอสไปหาน้องผู้ตาย ซึ่งในเนื้อความมีความจงใจปลอมว่าผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ และให้ลบข้อความนั้น เพราะกลัวเป็นพยานหลักฐาน
- คนร้ายใกล้ชิดกับคนตาย เห็นชัดว่าคนร้ายทราบถึงรายละเอียดของผู้ตาย โดยเฉพาะคนในครอบครัว จึงสามารถตัดประเด็นที่คาดไว้ตอนแรกว่าจะเป็นการชิงทรัพย์ได้ทันที โดยคาดว่าน่าจะเป็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว หรือธุรกิจมืด

- ไม่ใช่การฆ่าตัวตายแน่นอน เพราะอาวุธปืนก่อเหตุไม่ได้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และหลังจากมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น ก็มีการคลุมผ้าเพื่อปกปิดตัวรถ ซึ่งคนร้ายคลุมรถไว้เพื่ออำพรางคดี
- คาดคนร้ายมีมากกว่า 1 คน เพราะการที่พบศพของผู้ชายอยู่บริเวณเบาะหลัง คงมีการเคลื่อนย้ายศพ อาจมีการยิงฝ่ายชายในขณะที่มีการเจรจาบริเวณนอกรถ เนื่องจากพบหัวกระสุนฝังในบริเวณหัวใจ ขณะเดียวกันการเคลื่อนย้ายร่างผู้ชาย จำเป็นต้องใช้คนยกมากกว่า 1 คน
-รถผู้เสียชีวิตถูกเคลื่อนย้าย เป็นอีกข้อสันนิษฐานหนึ่งว่า คนร้ายต้องมีมากกว่า 1 คน เพราะถ้าคนร้ายขับรถมาอำพรางศพ ต้องมีคนร้ายอีกคนขับรถตามมาด้วย
- รอยกระสุนบนกระจกด้านซ้ายของรถ คาดว่าวันเกิดเหตุ ฝ่ายหญิงนั่งอยู่ข้างในรถข้างคนขับ ลักษณะเปิดกระจก โดยคนร้ายคงมีการลั่นไกจากภายนอกเข้าที่ขมับของฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต

- การสังหารเด็ก มูลเหตุอาจมาจากการที่คนร้ายกลัวว่าเด็กจะให้เบาะแส หรือคนร้ายมีความใกล้ชิดกับครอบครัวผู้ตาย เลยต้องสังหารไปพร้อมกันทั้ง 3 คน
- โทรศัพท์สายสุดท้าย น่าสนใจว่า มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ตายขับรถออกไปกดเงินที่ธนาคาร แล้วขับรถมาเพื่อจะกลับบ้าน แต่ก่อนถึงบ้านได้วนรถออกไปด้านนอกอีกครั้ง คาดว่าอาจมีคนโทรเข้ามาเพื่อเรียกผู้ตายให้ไปตกลงอะไรบางอย่าง ซึ่งทางตำรวจต้องมีการเช็กว่าเบอร์โทรสุดท้ายที่โทรหาผู้ตายเป็นเบอร์ของใคร
...
- หลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้ในการไขคดีต่อจากนี้ น่าสนใจว่า วันเกิดเหตุ อาจมีคนที่พบเห็นรถต้องสงสัยเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งถ้าตำรวจมีข้อมูลเหล่านี้จะยิ่งทำให้ตามจับคนร้ายได้เร็วมากขึ้น.